เดือนอันตราย ของผู้จัดการทีมพรีเมียร์ ลีก/คลุกวงใน พิศณุ นิลกลัด

พิศณุ นิลกลัด

คลุกวงใน

พิศณุ นิลกลัด

Facebook : @Pitsanuofficial

 

เดือนอันตราย

ของผู้จัดการทีมพรีเมียร์ ลีก

 

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีกฤดูกาล 2021-2022 ดำเนินมาได้เกือบ 3 เดือนแล้ว นับตั้งแต่เปิดฤดกาลเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ทุกๆ ปีพอถึงช่วงนี้จะมีผู้จัดการทีมจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ไปต่อ เพราะการที่ทีมทำผลงานย่ำแย่ต่อเนื่อง เป็นการกระทบรายได้ของสโมสรและสภาพจิตใจของแฟนบอล

ความรู้สึกนี้ แฟนทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทราบเป็นอย่างดี หลังจากที่อาทิตย์ก่อน แพ้ลิเวอร์พูลยับเยิน 0-5 ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด

คนแรกที่โดนด่าและต้องรับผิดชอบต่อผลงานก็คือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมายอมรับว่าเป็นความผิดของเขาเอง

และบอกว่า วันนั้นเป็น “darkest day” หรือวันที่มืดมนที่สุดนับตั้งแต่คุมทีมแมนฯ ยู ในฐานะผู้จัดการทีมแทนโชเซ่ มูริญโญ่ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2018 หรือเกือบ 3 ปีก่อน

 

ที่ผ่านมาของพรีเมียร์ ลีก ช่วงกลางฤดูกาลผู้จัดการทีมคนไหนไม่สามารถพาทีมขึ้นมาอยู่ห่างจากโซนตกชั้นได้ก็มักจะต้องบอกลาจากทีมไปอย่างรวดเร็ว

จากสถิติการไล่ผู้จัดการทีมที่จัดทำในปี 2017 โดย Sky Sports พบว่า นับตั้งแต่เริ่มพรีเมียร์ ลีกฤดูกาลแรกในปี 1992 เดือนอันตรายของผู้จัดการทีมพรีเมียร์ ลีกที่ทำผลงานย่ำแย่ต่อเนื่องและเสี่ยงกับการโดนยกเลิกสัญญาระหว่างฤดูกาลก็คือ เดือนพฤศจิกายนและธันวาคม

ส่วนอีกเดือนหนึ่งที่ผู้จัดการทีมพรีเมียร์ ลีก โดนยกเลิกสัญญามากเป็นอันดับต้นๆ คือเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาท้ายฤดูกาลที่เป็นการประเมินผลงานโดยรวม ของผู้จัดการทีมแต่ละคนว่าจะได้อยู่กับทีมต่อในฤดูกาลหน้าหรือไม่

แต่เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2020 ที่โควิด-19 ระบาดหนัก มีผู้จัดการทีมพรีเมียร์ ลีกคนแรกและคนเดียวที่โดนไล่ออกในเดือนธันวาคม ปี 2020 คือ สลาเว่น บิลิซ (Slaven Bilic) ของทีม West Bromwich Albion เพราะทำผลงานได้ยอดแย่ แข่ง 13 นัด แพ้ถึง 8 นัด ทำได้เพียง 7 แต้ม ตอนนั้นได้รับตำแหน่งผู้จัดการทีมที่โดนไล่ออกเร็วที่สุดในรอบ 6 ปี

วิเคราะห์กันว่า สาเหตุที่เดือนธันวาคม 2020 มีสลาเว่น บิลิซ เพียงคนเดียวที่ถูกไล่ออก ก็เพราะสถานการณ์โควิด-19 อาจทำให้เจ้าของทีมมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้จัดการทีม จึงยังไม่ไล่ออกในเดือนธันวาคม เหมือนที่ทำสืบทอดกันมาในหลายๆ ทีม

ก่อนหน้านี้ ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 สลาเว่น บิลิซ ก็ถูกไล่ออกจากการเป็นผู้จัดการทีมของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เพราะทำผลงานแย่มาก แข่ง 11 นัด ชนะแค่ 2 นัด

จากการสำรวจเมื่อปีที่แล้วโดย RunRepeat.com เว็บไซต์รีวิวรองเท้ากีฬาที่คนทั่วโลกเชื่อถือ พบว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผู้จัดการทีมพรีเมียร์ ลีกมีอายุงานนานที่สุด อยู่ที่ 69.4 เกมที่แข่งในลีก

นานที่สุดเมื่อเทียบกับผู้จัดการทีมใน Ligue 1 (58.2 เกม), Bundesliga (45.5 เกม), La Liga (39.6 เกม) และ Serie A (36.1 เกม)

สำหรับ Serie A นับว่า ผู้จัดการทีมมีอายุงานสั้นมาก ไม่ถึง 1 ฤดูกาล ซึ่งปกติมีการแข่งขันฤดูกาลละ 38 เกม

 

พรีเมียร์ ลีกเต็มไปด้วยสโมสรและนักเตะชั้นนำจากทั่วโลก ต่างจากลีกอื่นๆ ที่มีทีมใหญ่อยู่ไม่กี่ทีม การแข่งขันในพรีเมียร์ ลีกจึงสูงมาก ประกอบกับความคาดหวังจากทั้งแฟนบอลและเจ้าของทีมที่อยากให้ผู้จัดการทีมนำความสำเร็จมาสู่สโมสรอย่างรวดเร็ว ทำให้ในจำนวนนี้มีเพียงไม่กี่คนที่แข็งแกร่งและมีความสามารถพอที่จะรักษาเก้าอี้ได้เป็นเวลานานหลายปี

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตสุดยอดผู้จัดการทีมของแมนฯ ยู และอาร์แซน เวนเกอร์ อดีตผู้จัดการทีมอาร์เซนอล คือสองผู้จัดการทีมที่อยู่ยงคงกระพันที่สุดในลีก

โดยเซอร์อเล็กซ์คุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นเวลา 27 ปี ตั้งแต่ปี 1986 จนถึงปี 2013 รวมแล้ว 810 นัด

พาทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก 13 ครั้ง เอฟเอคัพ 5 ครั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ครั้ง และแชมป์ต่างๆ อีกมากมาย นับเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดในพรีเมียร์ ลีก

ส่วนอาร์แซน เวนเกอร์ ดำรงตำแหน่งผู้จัดการมายาวนาน 22 ปี ตั้งแต่ปี 1996 ถึง 2018 โดยอยู่กับทีมอาร์เซนอลทีมเดียว

แต่ในยุคปัจจุบันหากจะมีผู้จัดการทีมคนใดคุมทีมพรีเมียร์ ลีกยาวนานได้อย่าง 2 สุดยอดผู้จัดการทีม นับว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ซึ่งจากสถิติพบว่ามีผู้จัดการทีมเกือบ 60% ได้งานคุมทีมในพรีเมียร์ ลีกครั้งแรกและครั้งเดียว

 

เดือนพฤศจิกายนนี้ ว่ากันว่าเป็นเดือนที่น่ากลัวของผู้จัดการทีมในพรีเมียร์ ลีก

แต่มองกันตามความเป็นจริง ไม่มีเดือนไหนเลยที่จะปลอดภัยสำหรับผู้จัดการทีมพรีเมียร์ ลีกที่ทำผลงานได้ย่ำแย่ และไม่มีทีท่าว่าผลงานของทีมจะพัฒนาขึ้น

ถึงตอนนั้นไม่ว่าผู้จัดการทีมจะเป็นใครมาจากไหน ก็มีโอกาสโดนยกเลิกสัญญา