อนุสรณ์ ติปยานนท์ : In Books We Trust (37) หนังสือชื่อเดียว (9)

Cooks for Books boasts a kitchen in the back © Rosa Kumar/Lonely Planet

ท่าอากาศยานต่างความคิด

อนุสรณ์ ติปยานนท์ / [email protected]

 

In Books We Trust (37)

หนังสือชื่อเดียว (9)

 

การพบปะกันที่นำไปสู่การไขปัญหาทั้งปวงดูจะเกิดขึ้นแล้ว

เขานั่งลงที่โต๊ะอีกครั้ง ยื่นต้นฉบับทั้งหมดให้หญิงสาวผู้นั้น บรรณาธิการของเขานั่งลงภายหลัง แต่ดูเหมือนจะทำหน้าที่เป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ แทนที่จะเป็นคนดำเนินการพูดคุย หญิงสาวผู้นั้นเป็นผู้ควบคุมอำนาจทั้งหมดแห่งการเจรจาในยามนั้น

“นี่เป็นงานเขียนทั้งหมดที่ผมเขียนขึ้นตามข้อเสนอของคุณ เรื่องราวอาจไม่สนุกหรือโลดโผนนัก แต่ในยุคสมัยที่ชื่อหนังสือเหมือนกันไปหมด ผมคิดว่าเราคงไม่แยแสเรื่องราวข้างในแล้วกระมัง” เขาเอ่ย

“ฉันจะกลับไปอ่านมันคืนนี้ แต่คุณพอจะเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ของมันได้ไหม”

หญิงสาวผู้นั้นดูจะไม่สนใจคำเหน็บแนมของเขา เธอพลิกต้นฉบับในมือไปมาสองสามครั้งก่อนจะวางมันลง

“ได้สิ ผมเขียนเรื่องราวในนวนิยายเรื่องนี้ตามสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตผมในช่วงที่ผ่านมา ชายคนหนึ่งมีนัดดูตัวกับหญิงสาวคนหนึ่ง หลังจากการนัดหมาย เขาเดินออกหาร้านหนังสือเพื่อซื้อหนังสือสักเล่มกลับไปอ่านที่บ้าน เขาพบร้านหนังสือร้านหนึ่ง ร้านหนังสือที่ธรรมดาสามัญ ไม่มีอะไรพิเศษ ทว่าเมื่อเขาพยายามเลือกซื้อหนังสือในร้านเขาก็พบกับปัญหา เขาก็พบกับสิ่งผิดปกติ หนังสือภายในร้านล้วนมีชื่อหนังสือเดียวกัน ไม่ว่าเขาจะหยิบจับหนังสือเล่มใดขึ้นอ่าน เขาก็พบแต่หนังสือที่มีชื่อหนังสือเดียวกัน ขนาดของหนังสืออาจแตกต่าง หน้าปกของหนังสืออาจไม่เหมือนกัน แต่ชื่อหนังสือล้วนมีชื่อเดียวกัน”

“คุณหมายความว่าหนังสือทุกเล่มในร้านนั้นมีชื่อเดียวกัน”

“ใช่” เขาตอบเธอ “และไม่ใช่เพียงแต่ชื่อเท่านั้น น้ำหนักของหนังสือยังเท่ากันด้วย หากเป็นหนังสือเล่มใหญ่ก็จะใช้กระดาษเบาบางปานกระดาษทำว่าว หากเป็นหนังสือเล่มเล็กก็ใช้กระดาษหนาปานกระดาษลังลูกฟูก หนังสือในร้านนั้นมีชื่อหนังสือเดียวกัน มีน้ำหนักหนังสือเท่ากัน”

“น่าสนใจมาก เป็นการเล่าเรื่องที่น่าสนใจมาก” หญิงสาวผู้นั้นเอ่ยเบาๆ กับเขา

“เรื่องราวไม่จบเพียงเท่านั้น ชายคนดังกล่าวซื้อหนังสือสามเล่มกลับไปที่บ้าน เขาเอาหนังสือใส่ชั้นหนังสือก่อนจะพบว่าแม้แต่ชั้นหนังสือที่บ้านของเขาก็มีชื่อหนังสือเดียวกันทุกเล่มไป”

“คุณกำลังบอกว่าไม่เพียงแต่หนังสือภายในร้านที่มีชื่อเดียวกัน หนังสือภายในบ้านของเขาก็มีชื่อเดียวกันกระนั้นหรือ?”

“ใช่ หนังสือในบ้านของเขากลายสภาพเป็นหนังสือชื่อเดียวกัน อีกทั้งน้ำหนักของพวกมันก็เท่ากันด้วยทุกเล่ม”

“นี่เป็นสถานการณ์ที่น่ากลัว น่าหวาดหวั่นมาก โชคดีที่มันเป็นเพียงเรื่องแต่งเท่านั้น”

 

ชายหนุ่มกล้ำกลืนถ้อยคำของเขาไว้ ทำไมหญิงสาวผู้นี้จึงตีหน้าซื่อได้โดยไม่รู้สึกอันใด เขายกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม

“เรื่องราวไม่ได้จบเพียงเท่านั้น เขาพบว่าหญิงสาวที่เขาพบเจอในช่วงเวลาต่อมา หญิงสาวที่เกี่ยวพัน หญิงสาวที่ข้องเกี่ยวกับเขาล้วนมีใบหน้าเดียวกัน”

“หญิงสาวที่มีใบหน้าเดียวกัน หมายถึงว่าเธอเป็นคนเดียวกันกระนั้นหรือ?”

“ควรเป็นเช่นนั้น ชายหนุ่มสันนิษฐานว่าหญิงสาวคนนั้นปลอมแปลงตัวเป็นบุคคลหลายคนเพื่อหลอกลวงหรือปั่นหัวเขา”

“แต่เพื่อเหตุผลอะไรเล่า?”

“นั่นคือสิ่งที่ผมเฉลยในตอนท้ายของนวนิยาย หากคุณมีเวลาที่จะอ่านมัน”

“ฉันมีคำถาม” หญิงสาวผู้นั้นเอ่ย “หนังสือที่ชายผู้นั้นมีไว้ครอบครอง หนังสือที่ชายผู้นั้นได้พบแม้จะเป็นชื่อเดียวกัน แต่เนื้อหาภายในเล่มก็ยังมีความแตกต่างกันใช่ไหม?”

“ใช่ แม้นว่าหนังสือเหล่านั้นจะมีชื่อเดียวกัน แต่เนื้อในของหนังสือกลับมีความแตกต่างกันไป”

“ถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะเทียบเคียงกับหญิงสาวทั้งหลายที่ชายผู้นั้นได้พบเจอได้หรือไม่ แม้ว่าพวกเธอจะมีใบหน้าแบบเดียวกัน ใบหน้าพิมพ์เดียวกัน พวกเธออาจเป็นคนที่เพียงแต่มีใบหน้าเหมือนกัน แต่อุปนิสัยใจคอ รสนิยม ภูมิหลังของครอบครัวของพวกเธออาจแตกต่างกันก็เป็นได้ พวกเธออาจเป็นคนอื่นภายใต้ใบหน้าเดียวกันก็เป็นได้”

ชายหนุ่มหยุดชะงักการสนทนาของเขา จริงทีเดียว หากหนังสือชื่อเดียวจะมีเนื้อหาที่ต่างกันไป หญิงสาวผู้มีใบหน้าเช่นเดียวกันก็อาจเป็นคนอื่นได้เช่นกัน

“จริงของคุณ ผมลืมนึกถึงข้อนี้ไป จะให้ผมแก้ไขต้นฉบับก่อน หรือคุณคิดว่าจะอ่านมันก่อนการแก้ไข?”

“ฉันคิดว่าฉันจะอ่านมันก่อนน่าจะดีกว่า งานของเราจะได้เดินหน้า ฉันมอบเช็คค่าแรงของคุณไว้กับบรรณาธิการแล้ว ฉันชอบเรื่องของคุณมาก เราคงได้แก้ไขมันอีกไม่กี่ครั้งก่อนตีพิมพ์ โชคดีนักที่ชีวิตจริงของเราไม่มีเหตุการณ์ดังที่คุณเขียน”

“นี่คือเหตุการณ์จริง” ชายหนุ่มขึ้นเสียง “หากคุณเดินเข้าร้านหนังสือยามนี้ คุณจะเห็นแต่หนังสือชื่อเดียวกัน”

“งั้นหรือ” หญิงสาวผู้นั้นหัวเราะ “คุณเป็นนักขายที่ดีถ้าจะหว่านล้อมเช่นนั้น แต่ไม่มีหรอก โลกนี้ไม่มีเรื่องพิสดารแบบนั้นเป็นแน่”

 

หญิงสาวผู้นั้นลุกจากโต๊ะพร้อมกับบรรณาธิการของเขา ทำให้เขาจำเป็นต้องลุกขึ้นด้วย พวกเขาทั้งหมดออกจากร้านอาหาร หญิงสาวขึ้นรถรับจ้างจากไป บรรณาธิการมอบเช็คที่อยู่ในซองสีขาวให้เขา “คุณทำได้ดีมาก ดีมากจริงๆ” ก่อนที่จะขอตัวกลับไปทำงาน เขาลืมไปว่าควรถามความจริงจากเธอ แต่นั่นเองยังมีโอกาสอื่นอีกที่จะทำเช่นนั้น ในตอนนี้เขาติดใจคำพูดของเธอว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว และเพื่อเป็นการยืนยันว่าเธอเข้าใจผิด

เขาตัดสินใจกลับไปที่ร้านหนังสือแห่งนั้นอีกครั้ง เขาจะซื้อหนังสือเท่ากับจำนวนเงินที่รับมาและนำไปให้เธอดูว่าหนังสือทั้งหมดมีชื่อเดียวกันได้อย่างไร

เขาออกเดินแบบสบายใจ เลี้ยวเข้าตรอกเล็กๆ ที่เขาเริ่มคุ้นเคย เข้าไปยังร้านหนังสือดังกล่าว แม้ว่าหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของร้านจะมีใบหน้าเดียวกับหญิงสาวคนอื่นที่เขาพบเจอ เขาก็จะไม่ใส่ใจอีกต่อไปแล้ว

ทว่าเมื่อเขาเปิดประตูเข้าไป บุคคลแรกที่เขาพบในร้านคือชายชราผู้เป็นเจ้าของร้านคนแรกที่เขาพบเจอ ชายผู้นั้นมองเขาแบบเชื้อเชิญก่อนจะง่วนกับการอ่านหนังสือในมือ

เขาตรงไปที่ชั้นหนังสือ หยิบหนังสือที่สนใจออกจากชั้น หนังสือทั้งหมดมีชื่อที่แตกต่างกัน หนังสือทั้งหมดมีน้ำหนักที่แตกต่างกัน หนังสือทั้งหมดล้วนมีชีวิตที่แตกต่างกัน

เขาหยิบหนังสือที่ต้องการ ถอนหายใจ นี่เป็นการเล่นตลกอีกครั้งเป็นแน่ของใครก็ตามที เขาซื้อหนังสือสองสามเล่ม ชำระเงิน ผลุนผลันออกจากร้าน เรียกรถกลับไปที่บ้าน แทบจะไม่ทันถอดรองเท้า เขาตรงไปที่ชั้นหนังสือของตนเอง ไล่รายชื่อหนังสือบนชั้น หนังสือแต่ละเล่มกลายเป็นหนังสือปกติ

หนังสือทุกเล่มบนชั้นล้วนมีชื่อที่แตกต่างกัน

สภาวะหนังสือชื่อเดียวได้สูญหายไปแล้ว