สมคิด เชื้อคง มั่นใจ ‘อีสาน’ เพื่อไทย ทะลุ ‘เป้าหมาย’ ‘พรรคหญิงหน่อย-ก้าวไกล’ คู่แข่งไม่ใช่ศัตรู

รายงานพิเศษ

พิชญ์เดช แสงแก่นเพ็ชร์

 

สมคิด เชื้อคง

มั่นใจ ‘อีสาน’ เพื่อไทย

ทะลุ ‘เป้าหมาย’

‘พรรคหญิงหน่อย-ก้าวไกล’ คู่แข่งไม่ใช่ศัตรู

 

“แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย จะเป็นใคร? ตัวผมเองถูกชาวบ้านถามทุกวัน เวลาจะไปงานขาวดำงานในพื้นที่ ชาวบ้านถามว่าใครจะมาเป็นนายกฯ ของพรรค ผมตอบว่าใจเย็นๆ ของดีต้องรอก่อน เหมือนกินก๋วยเตี๋ยวจะกินให้อร่อยลูกชิ้นต้องกินทีหลัง” คือคำกล่าวของสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ที่บอกถึงการสื่อสารกับชาวบ้านในพื้นที่เวลาถูกถามเรื่องใครจะถูกเสนอชื่อมาเป็นผู้นำประเทศในนามของพรรค

สมคิดระบุว่า พรรคเพื่อไทยเรามีบทเรียนจากการเปิดตัวเร็วมาก่อน หากเราดึงนักวิชาการดึงนักธุรกิจเก่งๆ เข้ามาบางท่านก็ไม่รู้จักสมรภูมิทางการเมือง เขาไม่เคยผ่านสมรภูมิแบบนี้ ที่คนในสังคมรอกระหน่ำซ้ำเติม หากใครมาเปิดตัวว่าอยู่กับพรรคเพื่อไทย ก็เห็นอยู่ว่ามีความพยายามทำให้เขาเป็นคนผิด มีความเลวร้าย จากสื่อบางแห่ง จากคนบางกลุ่มก็จะใส่ร้ายเขาต่างๆ นานา

ผมคิดว่าคณะกรรมการบริหารก็กังวลในเรื่องนี้ ดังนั้น คนที่จะเข้ามาก็ต้องมีการปรับจูนสภาพให้สอดคล้องกันก่อน เข้าใจกันก่อน ค่อยเปิดตัวทีหลังก็ได้ เราเองไม่ได้รีบร้อน

ทุกวันนี้กลไกภายในพรรค กรรมการบริหารหลายท่านทำงานอยู่แล้ว ในการช่วยงานกันทุกภาคส่วน เรากระจายการบริหารไปทุกกลุ่ม ไม่กระจุกอยู่แค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มีผู้รับผิดชอบแต่ละส่วนงานชัดเจน เพราะฉะนั้นคนที่จะมาเป็นนายกฯ ก็จะเบางานในพรรคลง สมมุติว่าใครมาเป็นแคนดิเดตก็ไปลุยเรื่องบริหารลุยงานด้านนโยบายอย่างเดียว

ผมเองก็ตอบคำถามชาวบ้านแบบนี้ บางคนจะมาถามว่าทำไมไม่ตอบชื่อมาเลย เราก็บอกให้ใจเย็นๆ ลูกชิ้นกินทีหลัง ชาวบ้านส่วนหนึ่งก็บอกว่าใครก็ได้ ขอให้นโยบายดีๆ ที่ช่วยชีวิตเขาจริงๆ เขาเอาด้วยกับเพื่อไทยอยู่แล้ว

แต่ถ้าหากได้ครอบครัวของท่านทักษิณ ชินวัตร จะยิ่งดีใหญ่ เราก็พยายามอธิบายว่าพรรควันนี้เน้นนโยบาย จากผลงานที่เราเคยทำสำเร็จมา จะเป็นใครก็ได้

สําหรับ “ความเห็นส่วนตัว” ของสมคิด มองว่าคุณสมบัติผู้นำแคนดิเดตของพรรควันนี้ควรเป็นผู้ที่รอบรู้เรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก อย่างอื่นเป็นรอง เพราะประเทศต้องฟื้นโดยเร็ว คนที่จะเสนอตัวต้องมององค์รวมให้ได้ ลำดับความสำคัญให้เป็น เพราะปัญหาเศรษฐกิจของประเทศวันนี้สำคัญที่สุด หากเราเป็นรัฐบาลต้องฟื้นเศรษฐกิจ

ผมเคยพูดกลางวงประชุมพรรคแล้วว่า อยากได้คนที่เก่งเศรษฐกิจ ซึ่งทุกชื่อที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ ส่วนตัวผมถูกใจหมดทุกชื่อที่เสนอมา แม้ว่าบางท่านที่มีชื่อเขายังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ครั้งหนึ่งเองผมก็เคยเสนอท่านชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แต่ว่าวันนี้ท่านมุ่งเป้าชัดเจนเรื่องของผู้ว่าฯ กทม.

ส่วนมีสื่อบางฉบับไปบอกว่าจะชวนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กลับเข้ามา ผมตอบเลยว่าตัวของท่านเขามีพรรคของท่านเองแล้ว ก็เดินหน้าของท่านไป ผมยืนยันได้ว่าไม่มีการพูดเรื่องนี้ ตัวท่านเคยเป็นผู้ใหญ่ในพรรคมาก่อน เราก็ให้เกียรติทุกท่าน หากใครออกจากพรรคไป เราไม่เคยตำหนิคนออกไปเลย ไม่มีการชวนกลับมาแน่

สำหรับการอ่านเกมการยุบสภา นายสมคิดมองว่า น่าจะเกิดขึ้นช่วงมิถุนายน 2565 คาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะชิงตัดหน้าไม่ให้มีการยื่นอภิปราย เพราะบทเรียนความเจ็บช้ำน้ำใจจากคนในพรรคของเขาเอง ไม่ใช่ฝ่ายค้าน

ดังนั้น หากมีการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะเน้นนโยบายหลักๆ คือเรื่องการเกษตรและสวัสดิการแรงงาน ซึ่งพวกเราเคยทำสำเร็จมาแล้วและพี่น้องประชาชนก็เชื่อมั่นเรา

ไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นช่วงไหนก็แล้วแต่ พวกเรา ส.ส.เขตทั้งหมด ของพรรคเพื่อไทยได้พูดคุยกันในเรื่องที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อน คือดูแลพืชผลทางการเกษตร เพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมาที่ พล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจและสืบทอดอำนาจมา ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เท่าที่ควร

ดังนั้น กรณีที่จะมีการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยเราได้เตรียมนโยบายหลักๆ คงจะเป็นเรื่องเกษตรและแรงงาน ถ้าพรรคเรามีโอกาสเป็นรัฐบาลเราย้ำเรื่องนี้ตลอดว่าจะทำอย่างไร โดยไม่ใช่นโยบายเพ้อฝัน พูดไปแล้วทำไม่ได้

พวกเราในพื้นที่อีสานเราเข้าใจดีว่า พี่น้องเราอยู่ได้ด้วยเกษตรกรรม ควบคู่กับอีกเรื่องหนึ่งที่เราจะนำเสนอ คือการดูแลสวัสดิการประชาชนให้ทั่วถึงโดยไม่เลือกปฏิบัติต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้น 2 จุดนี้มันจะสอดคล้องกัน

 

แม้ว่าภาคอีสานจะเป็นธงหลักที่หลายพรรคเลือกจะมาพิชิตปักในพื้นที่อีสาน แต่สมคิดบอกว่า นี่คือเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทย พรรคเราได้คัดสรรบุคคลใหม่บ้างหน้าเก่าบ้าง แต่เราจะเน้นคุณภาพเน้นบุคคลที่ทำงานในพื้นที่จริงๆ เพราะพวกเราเชื่อมั่นว่าการทำงานในพื้นที่ของเราเท่านั้นที่จะตอบสนองต่อการเลือกตั้งเนื่อง จากพื้นเพของคนอีสานเป็นคนที่รักใครแล้วรักเลย ผู้แทนจึงต้องขยันพบปะพี่น้องประชาชนพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สิ่งเหล่านี้เราทำกันทุกเขต

เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ในพื้นที่ภาคอีสานผมยังมั่นใจ

ครั้งก่อนพวกเราถูกกีดกันมากมายจากอำนาจรัฐ อำนาจ คสช. แต่เราก็รอดตัวมาได้ 84 เสียงจากทั้งหมด 116 เสียง เลือกตั้งหนหน้านี้เราคาดการณ์ไว้แล้วในระดับผู้นำผู้บริหารพรรคเรา ก็คิดว่าได้มากกว่าเดิมแน่ ส่วนตัวเลขจะอย่างไรต้องวิเคราะห์กันอีกที เนื่องจากในอดีตเราเคยได้สูงถึง 104 เสียงมาแล้ว

วันนี้ทุกพรรคการเมืองพร้อมที่จะช่วงชิงหลายพรรค มุ่งมาเจาะตลาดอีสานกันหมด ไม่ว่าจะพรรคเก่าพรรคใหม่ เราเองก็ไม่ประมาทในการต่อสู้ ทุกคนประมาทไม่ได้ แต่ของเราจะเขียนนโยบายที่ทำได้จริงและโดนใจคน การเลือกตั้งมันไม่ง่ายทุกพรรคการเมืองเขาก็ส่งคนเข้าประกวด ยิ่งพรรคที่มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ เราเป็นฝ่ายค้านประชาชนก็รู้อยู่ว่ายังไง พวกเราก็เสียเปรียบกว่าวันยังค่ำ

ส่วนพรรคอื่น เช่น พรรคของคุณหญิงสุดารัตน์ ก็ทราบว่ามีการวางตัวบุคคลวางระบบในภาคอีสานไว้มากพอสมควร หรือก้าวไกลก็เรียกได้ว่ามากันเต็มพื้นที่ พวกเราถือว่าเป็นคู่แข่งขันทางการเมือง แต่ไม่ใช่ศัตรูทางการเมือง ฉะนั้นเราก็ต้องอ่านใจชาวบ้าน และเราเองทำพื้นที่มาเราก็ได้เปรียบการพบปะผู้คน เราจะใช้ความได้เปรียบนี้ แม้แต่คนที่เคยสอบไม่ผ่านรอบที่แล้วเขาก็ยังทำพื้นที่และพูดคุยกับพี่น้องอยู่ พรรคก็ให้นโยบายให้วิธีการพูดคุยกันทั้งหมด

เรามีความมั่นใจว่าสิ่งที่เราทำมาโดยตลอดเวลาที่เป็นฝ่ายค้านและการเป็นผู้แทน ประชาชนยังศรัทธาในพรรคเพื่อไทยอยู่

 

ส่วนที่ตอนนี้ “พรรคเพื่อไทย” มีการรีแบรนด์ครั้งใหญ่นั้น สมคิดมองว่า ในรอบนี้ก็ถือว่าตื่นตาตื่นใจอยู่พอสมควร เนื่องจากคณะกรรมการบริหารพรรคใช้สีที่ถูกอกถูกใจชาวบ้าน ใช้สีแดงเป็นหลักและมีลายเซ็นอยู่ ดังนั้น ไม่ว่า ส.ส.เก่า หรือ ส.ส.ใหม่จะถูกใจ ผมคิดว่าการรีแบรนด์ครั้งนี้น่าจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพรรค

ประกอบกับวันนี้โซเชียลมีเดีย การสื่อสารต่างๆ ของพรรค ก็มี ส.ส.รุ่นใหม่หลายท่านเข้ามามีบทบาทในพรรค ซึ่งจะทำให้เห็นว่าคนอย่างน้องน้ำ (จิราพร สินธุไพร ) หรือน้องเปิ้ล (กิตติ์ธัญญา วาจาดี) น้องมด (ชนก จันทอง) หลายคนมีบทบาทในพรรคได้อย่างรวดเร็วกว่าที่เคยมีมา เราเองก็ภาคภูมิใจในคนรุ่นใหม่นี้

สิ่งที่เห็นได้ชัดคือช่วงที่ผ่านมา ผมก็แปลกใจมากว่าสาขาพรรคเพื่อไทยที่เราเปิดทำการ มีผู้สมัครโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มคนใหม่ๆ เข้ามาสมัครสมาชิกมากกว่าปกติในช่วงเดือนที่ผ่านมา นี่ก็เลยเป็นสัญญาณที่ดีว่าคนรุ่นใหม่สนใจพรรคเรา

ที่สำคัญ พวกเราให้โอกาสคนรุ่นใหม่เสมอ ซึ่งคนที่มีความสามารถควรจะเข้ามาทำงานกันเมืองกันมากๆ อย่าไปกลัวว่าการเมืองมันมีแต่เรื่องนักเลือกตั้ง มีแต่เศรษฐี ไม่จริงเลย เพราะถ้าใช้เงินทำการเมืองป่านนี้สมคิด เชื้อคง ก็ไม่ได้เป็นผู้แทนกับเขาหรอก เราเองมาจากพี่น้องประชาชนชาวบ้านธรรมดา

และเราไม่เคยหวั่นไหวว่าพรรคไหนหรือใครจะรุ่นอะไร

เราก็ยินดีต้อนรับและพร้อมที่จะเป็นคู่แข่งกับท่าน

ชมคลิป