หลังเลนส์ในดงลึก : ‘หลงยุค’ / ปริญญากร วรวรรณ

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ
นกอ้ายงั่ว - เป็นนกน้ำขนาดใหญ่ จับปลาเก่ง ดำน้ำได้ พื้นที่ชุ่มน้ำถูกรุกล้ำ รวมทั้งยาฆ่าแมลง ทำให้อ้ายงั่วพบกับปัญหาเช่นเดียวกับนกน้ำชนิดอื่นๆ

 

‘หลงยุค’

 

หากนับเพียงแค่เวลาตั้งแต่ผมเริ่มต้นทำงานในป่าอย่างจริงจังซึ่งเป็นเวลาราว 30 ปี เพียงแค่นี้ ผมก็พบกับความเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะความเป็นไปในป่า

ช่วงเวลาก่อนหน้าสัก 50 ปีนั้น แหล่งอาศัยและประชากรสัตว์ป่ามีมากมาย กระทั่งคนผู้ซึ่งอยู่ในช่วงเวลานั้น พูดคล้ายๆ กันว่า “ไม่นึกว่ามันจะหมด”

ต่อมาเป็นยุคที่เรียกได้ว่า ยุคแห่งการทำลายล้าง อาวุธปืน พาหนะเหลือใช้จากสงครามหาง่าย รวมทั้งค่านิยมการล่าสัตว์คือเกมเกมหนึ่ง อีกทั้งการพัฒนาประเทศ แหล่งอาศัยของสัตว์ป่าเปลี่ยนเป็นชุมชน เป็นพื้นที่เกษตร สัตว์ป่าหลายชนิดทยอยหายไป บางชนิดเหลือประชากรจำนวนน้อย มีไม่น้อยที่หลีกหลบคนทันทีที่ได้กลิ่น

ผมเริ่มต้นในช่วงเวลาที่การพบกระทิงสักตัวไม่ใช่เรื่องง่าย นกบางชนิดคล้ายจะสาบสูญ การพบนกบางตัวคือเรื่องตื่นเต้น

เวลาผ่านไป มีสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในป่า นั่นคือผลจากความเอาจริงของการดูแลป้องกันแหล่งอาศัย และชีวิตสัตว์ป่า ประชากรสัตว์ป่าเพิ่มปริมาณ นกหลายชนิดกลับมา เช่นเดียวกับเหล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมต่างๆ

การพบเจอกระทิงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นกหลายชนิดซึ่งเคยอยู่ในสถานะนกหายากมาก กลายเป็นนกพบเจอง่าย

ผ่านวันเวลาในป่ามานานพอสมควร ถึงวันนี้ หลายครั้งที่พบเจอนกบางชนิด ผมนึกถึงวันเวลาที่พบเจอพวกมันยากเสมอ…

 

เช้าวันหนึ่ง ผมนั่งอยู่บนรถกระบะสีขาว ที่ผู้ชายอายุร่วม 80 ปีกำลังขับ เขาพาผมไปจอดริมบ่อปลาขนาดใหญ่ ในอาณาเขตไร่อันกว้างขวาง

ริมบ่อมีซุ้มบังไพรเล็กๆ ปิดทับด้วยหญ้าแห้ง ผมลงรถ เงยหน้ามองท้องฟ้าครึ้มฝน เมฆดำครอบคลุมทั่วบริเวณ ฝนเริ่มปรอย

“นกจะมาเกาะบนกิ่งไม้แห้งๆ กลางบ่อนั่นแหละ” ชายชราเดินมายืนข้างๆ และชี้ไปที่ต้นไม้แห้ง “มันมาอยู่สักอาทิตย์หนึ่งแล้วล่ะ ไม่รู้ว่ามาจากไหน” เขาหมายถึง นกอ้ายงั่ว ที่อยู่ในสถานภาพหายากในช่วงเวลานั้น

เขาเดินกลับไปที่รถ ปิดประตู “เจอกันตอนเย็นนะ โชคดี” เขาพูดก่อนเคลื่อนรถไปตามทางดินแคบๆ

ผมยกเป้ขึ้นหลัง มือขวาถือขาตั้งกล้อง มุดเข้าซุ้มบังไพร มีเก้าอี้สนามลายพรางตั้งอยู่ ช่องเล็กๆ เปิดไว้ตรงตำแหน่งต้นไม้กลางน้ำ

ผมจัดวางกล้อง ปรับขาตั้ง เริ่มต้นการเฝ้ารอ…

 

อ้ายงั่วเป็นนกน้ำขนาดใหญ่ พวกมันเคยมีประชากรมาก อาศัยอยู่ตามพื้นที่ชุ่มน้ำ จำนวนประชากรลดลงเรื่อยๆ เช่นเดียวกับนกน้ำขนาดใหญ่ชนิดอื่นๆ การพบเจอเป็นไปได้ยาก

ในวันนั้นก่อนช่วงเวลาที่จะพบว่า พวกมันมีชุมชนอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำแถวจังหวัดสระแก้ว เราคิดว่า นอกจากนกอ้ายงั่วที่บินผ่านมาแวะชั่วคราว นกอ้ายงั่วซึ่งเคยมีมาก อาจจะหมดไปจากประเทศไทยแล้ว

บ่อเลี้ยงปลาเนื้อที่หลายร้อยไร่ เป็นแหล่งอาหารชั้นดี

นกอ้ายงั่วได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญการจับปลา คอยาว ปากยาวแหลม ดำน้ำเก่ง ขณะว่ายน้ำจะว่ายช้าๆ ยืดตัว คอส่ายไป-มา การว่ายน้ำทำให้น้ำกระเพื่อม ปลาตกใจ สังเกตเห็นได้ง่าย

ไม่ใช่เรื่องยากของมันที่จะใช้ปากแหลมปักตัวปลาคล้ายการใช้หอก

ผ่านไปร่วมสองชั่วโมง ต้นไม้แห้งกลางน้ำยังว่างเปล่า

ผมนึกถึงผู้ชายที่ขับรถมาส่ง และจะมารับตอนเย็น

เขาคือผู้ชายที่เคยพูดกับผมว่า “ถ้าไปที่ไหนในพื้นที่ไม่คุ้นเคย และมีคนทำร้าย ขอให้เขาทำให้ตาย อย่าให้รอดกลับมาบอกได้ว่าใครทำ ไม่อย่างนั้นผมจะตามไปเอามันให้ตายด้วย”

เขาคือผู้ชายในวัยใกล้ 80 ที่ขับรถกระบะตรวจงานในไร่ พร้อมปืนลูกซองวางข้างๆ และปืนสั้นข้างเอว

ดูเหมือนว่า ภาพผู้ชายแบบนี้จะ “หลงยุค” ไม่น้อย

และผู้ชายในความหมายที่ผู้ชายคนนี้เป็น ก็คล้ายจะสูญพันธุ์แล้ว

 

ว่าตามจริง ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเขา ดูไม่ต่างจากสังคมสัตว์ป่า

ตัวอาวุโส มีหน้าที่ถ่ายทอดรวมทั้งสอนวิถีการดำเนินชีวิตให้กับรุ่นต่อๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ผู้ล่า สัตว์กินพืช

สำหรับสัตว์ป่า การเรียนรู้หรือได้รับถ่ายทอดประสบการณ์คือเรื่องจำเป็น

 

วันนั้น ท้องฟ้าครึ้มฝน สภาพอากาศมัวซัว ผมพบนกอ้ายงั่วอย่างที่ตั้งใจ ท่าทางที่ตัวหนึ่งเอาอาหารมาป้อนให้อีกตัวบนกิ่งไม้แห้ง นับเป็นการรอคอยตลอดวันที่คุ้มค่า

คืนนั้น ผมยกมือไหว้ลาชายชรา เขาตบไหล่และพูดสั้นๆ “เป็นให้ดี” แน่นอน เขาหมายถึง เป็นในสิ่งที่ทำให้ดี และ “เป็น” ผู้ชายในแบบที่เขายึดถือให้ดี

จากกระจกมองหลัง ผมเห็นชายชรายืนในไฟสลัวจนลับตา

 

ชายชราจากไปนาน จากไปก่อนที่จะเห็นว่า อ้ายงั่วไม่ใช่นกหายากแล้ว เช่นเดียวกับสัตว์หลายชนิด และนกต่างๆ ที่ไม่อยู่ในสถานภาพหายากอีกต่อไป

ครั้งหนึ่ง เขาบอกผมว่า เมื่ออยู่ที่ไหนก็ตาม ให้ถอยห่างออกมาสักหน่อย

“เวลาถอยออกมาเราจะเห็นความจริง” เขาบอกเช่นนี้

 

ในบึงน้ำกว้าง นกอ้ายงั่วตัวหนึ่งบินช้าๆ เหนือผืนน้ำ ผมกดชัตเตอร์ นึกถึงวันที่ชายชราขับรถพาผมไปที่ซุ้มบังไพรริมบ่อปลา

คำสอนผู้ชายคนหนึ่ง ทำให้ผมถอยห่างออกมาจากหลายสิ่ง

ถอยออกมาจึงเห็นว่า ผมอยู่ในยุคที่คำสอนของผู้ชาย “หลงยุค” บอกไว้ เป็นความจริง…