ครัวอยู่ที่ใจ l ทางรอดอยู่ในครัว : แกงกะทิในชามใบโปรด / อุรุดา โควินท์

 

ทางรอดอยู่ในครัว

: แกงกะทิในชามใบโปรด

 

ฉันหยิบชามดินแบบมีขาออกมาจากชั้นวาง มันคือใบโปรดที่ฉันไม่ได้ซื้อ นักอ่านเลือกมาให้ แล้วจากนั้นเราก็กลายเป็นเพื่อนกัน

ถ้าถามฉันว่า สิ่งใดมีค่าที่สุดจากการเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับอาหาร

คำตอบของฉันคือมิตรภาพ

อาหารเชื่อมโยงฉันสู่คนอ่านได้จริง อาหารที่ไม่ได้หรูหรา ราคาแพง แต่ทำได้ทุกครัวเรือน อาหารที่มาพร้อมกับเรื่องราวได้สร้างความทรงจำใหม่ๆ ระหว่างฉันกับคนอ่านอีกมากมาย

คนอ่านเป็นเหมือนเพื่อน พี่น้องของฉัน เราแบ่งปันทั้งสูตรอาหาร แหล่งหาวัตถุดิบ จานชามเราแลกกันใช้ ขายให้กันในราคาถูก หรือบางที เราซื้อให้กัน

จานชามบางใบ ทำให้นึกถึงใครบางคน เรารู้สึก-เหมาะกับเขาเสียจริง หรือถ้าให้ตรงจุดกว่า เหมาะกับอาหารของเขา

จานสวยเหลือเกิน แต่เราจะไม่เก็บมันไว้ เพราะควรอยู่กับเขามากกว่า

 

คุณโอส่งชามดินใบนี้มาให้ฉัน และบอกว่า มันเหมาะกับแกงของฉันมาก

เธอพูดถูก ฉันไม่เคยใช้ชามใบนี้ใส่อะไรเลย นอกจากแกง โดยเฉพาะแกงกะทิ

เขาเดินเข้าครัว “ให้ไปซื้ออะไรมั้ย” เขาถาม

“อยากทำแกงใส่ชามใบนี้น่ะ ซุกอยู่ในตู้ ไม่ได้ใช้เลยตั้งแต่ย้ายบ้าน ไม่ใช่สิ ไม่เห็นด้วยซ้ำ”

“ต้องทำชั้นวางจานเพิ่ม จะหาจานง่ายกว่านี้ ตอนนี้จานซ้อนกันมากไป”

เขาพูดถูก แต่พื้นที่ครัวและเงินของเรามีจำกัด ครัวของเราเป็นครัวกึ่งเปิด ฉันอยากให้โล่งเวลาทำอาหาร จึงมีหน้าต่างบานเปิดห้าบาน มีประตูบานคู่อีกหนึ่ง ซึ่งได้ครัวอากาศดีสมใจ แต่หน้าต่างต้องแลกกับผนัง และผนังใช้เก็บของได้

เราไม่เหลือผนังสำหรับทำชั้นวางจานแล้ว ที่พอจะทำได้ คือทำเกาะกลาง และทำชั้นเก็บของด้านล่าง ซึ่งใช้เงินมากกว่าทำชั้นวางจาน

“ทำอยู่แล้ว” ฉันยิ้ม “แต่เอาไว้ก่อน”

 

หยิบจานยาก แต่ยังหยิบได้ ฉันยินดียืนหน้าชั้นวางจาน นานแค่ไหนก็ได้ เพื่อหาจานชามที่ฉันต้องการ

ฉันจำชามทุกใบของตัวเองได้ จำได้กระทั่งร้านที่ซื้อ

เช็ดจานจนแห้ง วางบนโต๊ะ “ทำแกงอะไรดีน้า” ฉันว่า

“ใบนี้ใส่แกงน่ากินจริงๆ”

“ถูกใจพูด้วย เลือกเองยังไม่รู้จะถูกใจอย่างนี้หรือเปล่า”

เขาหัวเราะ “งั้นรู้ล่ะ ยังไงต้องมีกะทิ ไปซื้อกะทิให้นะ”

 

เขาขับรถไปแล้ว ฉันนึกได้ว่า ยังไม่ได้ค้นตู้เย็น มีอะไรที่แกงได้บ้าง อะไร…ที่ไม่ใช่แกงเขียวหวาน เพราะเพิ่งแกงไปไม่กี่วัน

ที่แน่ๆ เรามีปลาช่อนแดดเดียว ชู้รักของแกงกะทิ เขาชอบปลาทอดกรอบ ซึ่งหมายถึง ใช้ไฟอ่อน ใช้เวลานาน

มื้อเย็นของเราจึงเริ่มจากเปิดกระทะทอดปลา ใช้ไฟอ่อนตั้งแต่ต้นจนจบ นานๆ ค่อยไปพลิกปลาเสียที

ปลาช่อนแดดเดียวทำให้ฉันนึกถึงแกงใต้ ใช่ เข้ากับแกงใต้ที่สุด แต่ฉันไม่มีทั้งเนื้อวัว ปลา ไก่ หรือกุ้ง

โปรตีนชนิดเดียวที่มีอยู่ในตู้เย็นคือสันคอหมู ซึ่งคนใต้ไม่ค่อยแกง ต่อให้แกง ก็ดูเหมือนไม่มีผักอะไรให้จับคู่เลย

ฉันมีมะเขือเปราะ แกงกะทิหมูใส่มะเขือเปราะโดยใช้น้ำพริกแกงใต้เหรอ…ฉันไม่เคยกิน แต่ฉันจะทำ แน่ใจว่าอร่อยด้วย

จะแกงใต้ต้องมีเครื่องแกงดี ใช้พริกขี้นกแห้งหนึ่งกำมือ (จัดไป) กระเทียมไทยหนึ่งช้อนโต๊ะครึ่ง พริกไทยดำสองช้อนชา (เอาให้ร้อน) ตะไคร้ซอยสองต้น ขมิ้นหั่นสักห้าชิ้น และเกลือทะเลสองหยิบมือ

จะตำเลยก็ได้ แต่ฉันมีทางลัด ได้ผลลัพธ์เหมือนกันทุกประการ นั่นคือจับลงเครื่องปั่นสักครึ่งนาที จากนั้นค่อยลงครก ตำให้เนียน

เติมกะปิดีสองช้อนโต๊ะพูน

ฉันใส่กะปิในแกงใต้เยอะ แต่กะปิต้องดี กะปิเป็นวัตถุดิบที่ทำให้แกงหม้อนั้นเปลี่ยนไป

กรณีใช้กะปิไม่ดี นอกจากน้ำแกงจะไม่สวย กลิ่นยังไม่ดี และยังไม่อร่อยด้วย

 

กะทิที่เขาซื้อมา เป็นแบบแยกหัวกับหาง ฉันเทหัวลงหม้อทั้งหมด เติมหางนิดหน่อย แกงกะทิน้ำเดียว ไม่ข้นไป และไม่จางไป

ตั้งกะทิพอร้อน ใส่เครื่องแกงได้เลย ไม่ต้องรอกะทิแตกมัน นี่ล่ะ เอกลักษณ์ของแกงกะทิใต้ที่ฉันชอบนัก

พอเครื่องแกงละลายดี ค่อยใส่สันคอหมู หั่นชิ้นใหญ่นิด และมีความหนาหน่อย พอหมูสุกค่อยใส่มะเขือ

มะเขือจะทำให้แกงจางลงนิดหน่อย ถ้าชอบมะเขืออย่างฉัน ต้องใส่เครื่องแกงและกะทิเผื่อน้ำจากมะเขือด้วย

ชิมแกงเมื่อมะเขือสุก ซึ่งส่วนใหญ่รสจะเกือบพอดี ตัดน้ำตาลนิด เติมน้ำปลาหน่อยก็ปิดเตาได้ สำคัญที่เครื่องแกงกับกะทิ ถ้าเครื่องแกงดี กะทิถึง ฉันแถบไม่ต้องปรุงเพิ่ม

มีผักสด และมีดอกขจร ฉันเอามาฉ่าน้ำมัน

แล้วเราก็ได้สำรับที่เข้ากัน ได้ใช้ชามแสนรักอีกครั้ง

ฉันถ่ายรูปโต๊ะอาหาร ส่งให้คุณโอดูทาง inbox

“ชามดินใบนี้ช่วยให้แกงน่ากินขึ้นเสมอ ขอบคุณมากนะคะ”