เครื่องเสียง/พิพัฒน์ คคะนาท/ชุดหูฟังขั้นเทพ

เครื่องเสียง/พิพัฒน์ คคะนาท [email protected]

ชุดหูฟังขั้นเทพ

 

ปฏิเสธไม่ได้นะครับ ว่าทุกวันนี้นอกจากสมาร์ตโฟนจะกลายเป็นอวัยวะหลักของร่างกายผู้คนส่วนใหญ่ ไม่เพียงเฉพาะคนเมืองไปแล้วนั้น ชุดหูฟังก็เป็นอีกความจำเป็นที่ต้องใช้ร่วมกับโทรศัพท์ที่ว่าแบบมิอาจหลีกเลี่ยงได้

เวลานี้ในตลาดเครื่องเสียงก็มีแต่ชุดหูฟังนี่แหละครับ ที่มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มมากขึ้นอย่างเป็นกอบเป็นกำ เติบโตก้าวข้ามสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่นๆ ในวงการไปแบบไม่เห็นหน้าเห็นหลังกันเอาเลย

ที่สังเกตได้ชัดประการหนึ่งก็คือ แทบจะไม่มีผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องเสียงรายใดเลยนะครับที่ไม่กระโดดเข้ามาขอเอี่ยวเค้กก้อนนี้ด้วย

หลายๆ ราย ที่เคยได้ชื่อว่าเอาดีทางด้านโน้น นี้ นั้น โดยเฉพาะ คือมีชื่อเสียงมานานช้าจากสินค้าบางประเภท และไม่มีวี่แววหรือสิ่งบอกเหตุใดเลยว่าจะไปทางไหนได้อีก ก็ยังกระโจนเข้ามากับเขาด้วย ซึ่งนั่นมันเป็นสิ่งยืนยันได้อีกประการว่าเค้กก้อนนี้มันใหญ่จริงๆ ครับ

เที่ยวนี้ก็เลยขอหยิบเรื่องชุดหูฟังมาพูดอีกหน แต่หนนี้เพดานค่อนข้างจะสูงสักหน่อย เพราะใคร่นำเรื่องราวของบรรดาที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘ขั้นเทพ’ มาพูดคุยด้วยโดยเฉพาะ

เนื่องจากที่มาที่ไปนั้นเป็นเพราะช่วงกลางเดือนที่แล้ว ในเว็บไซต์ของนิตยสาร What Hi-Fi?/UK ได้ออกบทความเรื่อง Best Audiophile Headphones 2021 สำหรับผู้ที่หลงใหลในเสียงดนตรีมา

เลื่อนหน้าจออ่านดูเห็นว่าแทบทุกชุด และทุกแบรนด์ ล้วนแล้วมีขายอยู่ในบ้านเรา ก็เลยนำมาเล่าสู่กันฟังเผื่อคุณๆ ที่อาจกำลังมองหามาใช้งานได้แนวทางไปพิจารณาดู

 

ทั้งหมดทั้งปวงที่บทความเขาคัดสรรมามีอะไรบ้าง ก็ขอไล่ไปตามลำดับที่เขาเรียงเอาไว้ตามนี้เลยครับ

Grado SR325x ว่ากันว่าดีที่สุดในกลุ่มราคานี้ (บ้านเราขายอยู่ประมาณหมื่นสอง) เป็นชุดหูฟังแบบครอบหูแต่เปิดหลังที่เรียกว่า Open-Backed มาพร้อมความยาวสาย 2 เมตร คือไม่รองรับการทำงานแบบไร้สาย ทั้งยังไม่มีระบบควบคุมบนสาย และไม่มีระบบ Noise-Canceling ด้วย แจ๊กเสียบแบบมินิขนาด 3.5 ม.ม. แต่มีอะแด็พเตอร์แจ๊กมาตรฐาน 6.35 ม.ม. ให้พร้อมสรรพ หนัก 340 กรัม ให้รายละเอียดและไดนามิกเสียงที่ยอดเยี่ยมมาก นำเสนอความบันเทิงให้สัมผัสได้อย่างมหาศาล เปี่ยมไปด้วยความสุนทรีย์ และมีโครงสร้างที่แข็งแรงแลดูทนทานมาก

Sennheiser IE 900 เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตอนออกตลาดใหม่ๆ เพิ่งนำมาให้รู้จักกันไปหนหนึ่งแล้ว เป็นชุดหูฟังแบบสอดเข้าหู หรือ Earbuds ของค่ายที่ได้ออกแบบและผลิตมาเสมือนกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับชุดหูฟังแบบนี้ ที่สำคัญคือเป็นแบบมีสายโดยไม่แยแสการทำงานแบบไร้สายแต่อย่างใด ทั้งยังไม่มีระบบควบคุมการทำงานใดๆ อย่างชุดปรับความดังเสียง หรือผนวกไมค์ไว้ด้วยเหมือนที่ส่วนใหญ่ทำออกมา น้ำหนักเบามาก เฉพาะตัวหูฟังนั้นแต่ละข้างหนักเพียงตัวละ 4 กรัม เป็นงานออกแบบเชิงวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยมมาก ให้รายละเอียดที่ชัดเจน นำเสนอเสียงดนตรีออกมาได้อย่างสนุกสนาน ประณีต น่าฟัง ราคาประมาณครึ่งแสน (บาท) ครับ

Sennheiser HD 820 เคยมีคนให้คำจำกัดความทำนองว่า ‘พระกาฬตำนานเยอรมัน’ มาด้วยราคาค่าตัวในบ้านเราใกล้ๆ แสน เป็นชุดหูฟังระดับพรีเมียมของค่าย ใช้งานในลักษณะครอบหูแบบ Full-Size สไตล์ Close-Backed ไม่รองรับการทำงานแบบไร้สาย มาพร้อมสายยาว 3 เมตร ไม่มีระบบ Noise-Canceling ไม่มีอุปกรณ์ระบบควบคุมและไมค์ที่สาย หัวแจ๊กมาตรฐาน 6.35 ม.ม. ให้น้ำเสียงที่ครบทุกรายละเอียด และมีเนื้อเสียงที่อิ่มเต็ม ชัดเจน มีน้ำเสียงที่กระฉับกระเฉง ให้การตอบสนองที่รวดเร็ว เบสเปี่ยมไปด้วยพลัง มีโครงสร้างที่แข็งแรง แต่ราคาออกจะสูงไปสักหน่อย

Beyerdynamic Amiron เป็นชุดหูฟังแบบ Over-Ear ที่เมื่อสวมใส่แล้วจะครอบหูแบบเต็มใบ มาพร้อมสายความยาว 3 เมตร แจ๊กเสียบใช้ได้ทั้งแบบมินิ แจ๊ก และมาตรฐาน ไม่มีระบบ Noise-Canceling และปราศจากอุปกรณ์ควบคุมพร้อมไมค์ที่สาย น้ำหนักเพียง 340 กรัม สวมใส่สบาย น้ำเสียงมีความเป็นกลาง ให้ความเป็นธรรมชาติของเสียงสูงมาก อุดมไปด้วยรายละเอียด และให้ไดนามิกออกมาได้อย่างโดดเด่น หากเงินไม่ใช่ปัญหานับเป็นชุดหูฟังที่น่าสนใจ ในราคาประมาณสองหมื่นต้นๆ (ที่ขายในบ้านเรา)

Grado SR80x จัดอยู่ในกลุ่ม Budget หรือราคาประหยัดของชุดหูฟังออดิโอไฟล์ที่ให้น้ำเสียงออกมาอย่างน่าสนใจ เพราะที่บ้านเราขายเพียงสี่พันต้นๆ เท่านั้นเอง เป็นชุดหูฟังสไตล์ Open-Backed สายยาว 1.8 เมตร หัวเสียบแบบมินิ แจ๊ก พร้อมอะแด็พเตอร์แปลงเป็นหัวเสียบขนาดมาตรฐาน ไม่มีชุดควบคุมและไมค์ที่สาย ทั้งไม่มีระบบ Noise-Canceling น้ำหนักเพียง 240 กรัม ช่วยให้สวมใส่สบายติดต่อกันได้เป็นเวลานาน ให้น้ำเสียงกระแทกกระทั้น และเข้าถึงรายละเอียดของดนตรีอย่างน่าฟัง

Focal Clear Mg แบรนด์ที่เคยทำชุดหูฟังระดับเกินล้าน (บาท) ซึ่งแพงที่สุดในโลกมาแล้ว ส่วนรุ่นนี้คือที่เห็นในภาพสนนราคาบ้านเราขายอยู่ประมาณครึ่งแสน เป็นชุดหูฟังสไตล์เปิดหลัง มาพร้อมสายให้เลือกใช้สองแบบ แบบแรกยาว 1.20 เมตร ติดหัวแจ๊กแบบมินิพร้อมหัวแปลงเป็นแบบมาตรฐาน ส่วนอีกสายเป็นแบบหัวเสียบ XLR ความยาว 3 เมตร ไม่มีระบบ Noise-Canceling และไม่มีอุปกรณ์ควบคุมพร้อมไมค์ที่สาย น้ำหนัก 450 กรัม แต่สวมใส่สบายได้เป็นเวลานานโดยไม่ล้า ให้น้ำเสียงออกมาได้อย่างสนุกสนาน น่าสนใจ งานฝีมือประณีตยอดเยี่ยมมาก

Beyerdynamic T1 เป็นเจเนอเรชั่นที่สามของตระกูลนี้ ที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยพัฒนาการที่เหนือชั้นมาโดยตลอด เป็นชุดหูฟังแบบครอบหู สไตล์ Open-Backed ไม่มีระบบ Noise-Canceling และไม่มีอุปกรณ์ควบคุมพร้อมไมค์ที่สาย สายยาว 3 เมตร พร้อมหัวเสียบแบบมินิ น้ำหนัก 360 กรัม ไม่รองรับระบบไร้สาย แต่รองรับความละเอียดเสียงระดับ Hi-Res ให้น้ำเสียงที่สะอาดสะอ้าน และมีความสมดุลเสียงสูงมาก โครงสร้างงานฝีมือทำออกมาได้ดี ให้สวมใส่ได้สบาย กระชับแบบเป็นธรรมชาติ

Sony WH-1000XM4 อย่างที่เคยบอกล่ะครับ ไม่ว่าใครจะจัดอันดับความยอดเยี่ยมของหูฟังระดับพรีเมียม รับรองได้เลยว่าจะไม่มีทางขาดชุดนี้ไปได้อย่างแน่นอน เป็นหูฟังแบบครอบหูที่ว่ากันว่าออกแบบมาด้วยความชาญฉลาดอย่างยิ่ง ซึ่งนอกจากจะให้สวมใส่ได้สบายติดต่อกันเป็นเวลานานแล้ว ยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย และเอื้อประโยชน์ขณะสวมใส่เป็นอย่างมาก

ทำงานระบบไร้สายผ่านบลูทูธแต่ไม่ได้เป็น Bluetooth aptX โดยใช้เทคโนโลยีของตัวเอง คือ LDAC ที่พัฒนาขึ้นมาใช้กับบลูทูธโดยเฉพาะ และให้ Bit-Rate สูงกว่า aptX เกือบเท่าตัว ใช้แบตเตอรี่คุณภาพสูงที่มีอายุการใช้งานนานกว่ามาตรฐาน ผนวกคุณสมบัติเด่นเข้าไว้ในตัวมากมาย ทั้งระบบควบคุมการทำงานและไมค์แบบพิเศษ ซึ่งช่วยให้การสื่อสารกับปลายทางขณะใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟนมีความชัดเจน

โดดเด่นด้วยระบบตัดเสียงรบกวนแบบ ANC : Active Noise-Canceling System ซึ่งเป็นสิทธิบัตรเฉพาะ และได้รับคำยกย่องมากกว่ามากมาตั้งแต่เจเนอเรชั่นแรกแล้ว (รุ่นนี้เป็นพัฒนาการที่ 4) ให้น้ำเสียงที่อุดมไปด้วยรายละเอียด และมีไดนามิกที่ยอดเยี่ยมมาก ราคาหมื่นสาม (มีทอน)

เที่ยวหน้ามาว่ากันต่ออีกสักตอนนะครับ