เหรียญเสือยืน วัดเขาสุกิม หลวงพ่อสมชาย ฐิตวิริโย เพื่อทหาร-คนไทยรักถิ่น

(ซ้าย) หลวงพ่อสมชาย ฐิตวิริโย (ขวา) เหรียญเสือยืน หลวงพ่อสมชาย

โฟกัสพระเครื่อง–(เสรีภาพ อันมัย)

โคมคำ / [email protected]

 

เหรียญเสือยืน วัดเขาสุกิม

หลวงพ่อสมชาย ฐิตวิริโย

เพื่อทหาร-คนไทยรักถิ่น

 

“พระวิสุทธิญาณเถร” หรือ “หลวงพ่อสมชาย ฐิตวิริโย” พระเถระสายวิปัสสนากัมมัฏฐาน อดีตประธานสงฆ์วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี ศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์พระป่า

เหรียญและวัตถุมงคลมีหลายรุ่น มีชื่อเสียงโด่งดังแทบทุกรุ่น แต่ที่ได้รับความนิยมคือ เหรียญรุ่นเสือยืน จัดสร้างโดยวัดเขาสุกิม เฉพาะเนื้อทองแดง สร้างจำนวน 50,000 เหรียญ เหตุที่จัดสร้างรุ่นดังกล่าวและจำนวนมากนั้น มีเหตุว่า…

ในช่วงปี พ.ศ.2520 แถบชายแดนจันทบุรีและตราด ซึ่งมีอาณาเขตติดกับประเทศกัมพูชา มีภัยสงคราม-ความไม่สงบเกิดขึ้นเป็นระยะ เหล่าทหารหาญ ข้าราชการ รวมทั้งประชาชนทั่วไป ต่างต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเป็นมิ่งขวัญแก่ตนเอง

คราวนั้น หลวงพ่อสมชายนำคณะศิษย์ออกให้กำลังใจบำรุงขวัญชาวบ้านอยู่เป็นประจำ ทุกครั้งที่หลวงพ่อเดินทางไปถึง ชาวบ้านมักจะขอวัตถุมงคลเป็นขวัญกำลังใจด้วย…

จึงอนุญาตให้สร้างวัตถุมงคลขึ้นอีกรุ่น โดยการจัดสร้างของวัดเขาสุกิม มีวัตถุประสงค์ว่า “สร้างเพื่อแจกทหารและคนไทยรักถิ่น”

ลักษณะเป็นเหรียญกลม มีหูห่วง ด้านหน้าเหรียญ เป็นรูปเหมือนครึ่งองค์ หันหน้าตรง ใต้รูปเหมือน เขียนคำว่า “พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย”

ด้านหลังเหรียญ ข้างบน เขียนคำว่า “วัดราษฎร์บูรณะคุณาราม (เขาสุกิม)” ตรงกลางเป็นรูปเสือยืนหันหน้าคำราม บนพื้นหญ้า ด้านล่างสุดมีตัวเลขไทย “๓. ๕.๑๕ ๒๕๒๐”

อธิษฐานจิต ในวันอังคารขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ปีพุทธศักราช 2520 ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิด

จากนั้นจึงนำไปแจกแก่ผู้ที่เคารพศรัทธา หลายครั้งหลายโอกาส

ปัจจุบันวัตถุมงคลรุ่นนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก

 

มีนามเดิมว่า สมชาย มติยาภักดิ์ เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2468 ที่หมู่บ้านเหล่างิ้ว ต.จังหาร อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด

อายุ 19 ปี บรรพชาที่วัดป่าศรีไพรวัลย์ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด

ช่วงปลายปี พ.ศ.2487 ได้ยินกิตติศัพท์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ไปฝากตัวเป็นศิษย์ที่วัดป่าบ้านหนองผือ จ.สกลนคร

ในระหว่างที่พำนักอาศัย ศึกษาปฏิบัติธรรมอยู่กับหลวงปู่มั่น ใช้ความเพียรต่อการปฏิบัติสมาธิอย่างยิ่งยวด ตลอดจนอุปัฏฐากครูบาอาจารย์โดยไม่บกพร่อง

อายุครบ 21 ปี เข้าอุปสมบทที่วัดศรีโพน อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2489 มีพระธรรมเจดีย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงปู่กงมา จิรปุญโญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับฉายา ฐิตวิริโย มีความหมายว่า ผู้ตั้งมั่นในความเพียร

 

ถือเป็นศิษย์รับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่มั่น ครั้งหนึ่งเคยบีบนวดถวายหลวงปู่มั่นเป็นเวลานาน เกิดความคิดว่า “เราไม่ได้นอนมา 2 วัน 2 คืนแล้ว พรุ่งนี้ต้องเดินทางไกลไปหนองคาย” ในขณะกำลังคิดอยู่นั้น หลวงปู่มั่นพูดสวนขึ้นมาว่า “จะไปพักก็ไปได้นะ สังขารร่างกายอย่าหักโหม พรุ่งนี้ต้องเดินทางไกล” หลวงปู่สมชายแปลกใจว่าคำพูดของท่านตรงกับความคิดพอดี

ทำให้มั่นใจว่าหลวงปู่มั่นทราบวาระจิตด้วยสมาธิญาณ เกิดความปีติอิ่มเอิบ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ตั้งหน้าตั้งตาบีบนวดหลวงปู่มั่น พลางคิดว่าเราจะต้องศึกษาวิชาแบบท่านให้ได้

พอท่านคิดจบ หลวงปู่มั่นพูดสวนความคิดขึ้นมาทันทีว่า “ตั้งใจเอาแน่หรือ” เมื่อได้ยินคำพูดหลวงปู่มั่นดังนี้แล้ว ทำให้เชื่อแน่ว่าอภิญญาสมาบัติมีจริง

วันรุ่งขึ้นได้กราบลาหลวงปู่มั่น ออกไปแสวงหาที่บำเพ็ญตามป่าเขาสถานที่ทุรกันดาร เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายนานาชนิด ด้วยความวิริยะและอดทนเป็นเลิศ

ครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ.2501 หลวงปู่สมชายได้อยู่จำพรรษาปฏิบัติธรรมที่วัดเขาสายัณห์ โดยท่านไม่ได้ฉันภัตตาหาร 15 วันติดต่อกัน และถือเนสัชชิกังคะ คือยืน นั่ง เดิน โดยไม่เอนกายลงนอนทั้งคืน บางครั้งเป็นเดือน

ช่วงกลางวันยังสามารถช่วยงานทางวัดได้ สามารถแบกปูนครั้งละ 2 ลูกขึ้นไปบนเขาเพื่อสร้างโบสถ์วิหาร

จนกลายเป็นเรื่องน่าประหลาดว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ถ้ามิใช่ผลแห่งสมาธิจิต

 

นอกจากจะเป็นศิษย์รับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่มั่นแล้ว ท่านยังฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่สีลา อิสฺสโร และพระวิปัสสนาจารย์ชื่อดังอีกหลายรูป ด้วยความเป็นพระสงฆ์นักปฏิบัติ ออกธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพรไปทั่วทุกหนแห่ง

กล่าวสำหรับวัดเขาสุกิมนั้น หลวงปู่สมชายบุกเบิกพัฒนา สร้างสรรค์วัดเขาสุกิม ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ บนเนื้อที่กว่า 3,280 ไร่ ให้เป็นศาสนสถานอันร่มรื่น สวยงาม เป็นศรีแก่จังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่ พ.ศ.2507

แต่เดิมพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นป่ารกทึบ เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายและไข้ป่า ปัจจุบันสถานที่ดังกล่าวได้แปรสภาพถูกจัดระเบียบกลายเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งภาคตะวันออก จนกลายเป็นที่กล่าวขานว่าใครไปเยือนเมืองจันท์ ถ้าไม่ได้ไปนมัสการวัดเขาสุกิมถือว่ายังไปไม่ถึงเมืองจันท์

ในปี พ.ศ.2542 หลวงปู่สมชายเริ่มมีอาการอาพาธด้วยโรคหัวใจ และต้องเข้ารับการรักษาอาการที่โรงพยาบาลศิริราช โดยคณะแพทย์ตรวจพบว่าหลวงปู่มีอาการหลอดเลือดหัวใจตีบ และทำการรักษาอาการอาพาธจนดีขึ้น

ต่อมาสุขภาพทรุดหนักลงเป็นระยะต้องเข้าโรงพยาบาลวิชัยยุทธเป็นประจำ ในปี พ.ศ.2545 มีอาการอาพาธหนักจนคณะแพทย์ต้องผ่าตัดบายพาสหัวใจ และล้างไตมาตลอด

กระทั่งปลายปี พ.ศ.2547 อาการอาพาธด้วยโรคหัวใจมีอาการทรุดหนักลง เหนื่อยหอบ และต้องล้างไตถี่ขึ้น

ท้ายที่สุด เวลา 10.40 น. วันที่ 18 มิถุนายน 2548 จึงมรณภาพลงอย่างสงบ ที่ห้องไอซียู ชั้น 7 โรงพยาบาลวิชัยยุทธ

ด้วยวัย 80 ปี พรรษา 60