เหล้าสาเกเก่าในขวดใหม่/บทความพิเศษ สุภา ปัทมานันท์

บทความพิเศษ

สุภา ปัทมานันท์

 

เหล้าสาเกเก่าในขวดใหม่

 

เช้าวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา นาย ฮิเดโยชิ สุงะ นายกรัฐมนตรี คนที่ 99 ของญี่ปุ่น ได้แถลงต่อที่ประชุมสภาสมัยวิสามัญ ขอลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อันมีผลให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องลาออกจากตำแหน่งด้วย

ในช่วงบ่าย ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดให้มีการเสนอชื่อผู้เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และลงคะแนนเสียง รวม 5 คน คือ หัวหน้าพรรคแอลดีพี(自民党)คนใหม่ นาย ฟุมิโอะ คิชิดะ (岸田文雄)ได้คะแนนสูงสุด 311 คะแนน ตามมาด้วยคะแนนของหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน พรรครัฐธรรมนูญเพื่อประชาธิปไตย(立憲民主党)นาย ยูคิโอะ เอดะโน ได้ 124 คะแนน และผู้สมัครคนอื่นๆ รวม 458 คะแนน

ต่อจากนั้น เป็นการเสนอชื่อและลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีของสมาชิกวุฒิสภา มีผู้รับการเสนอชื่อ รวม 7 คน นาย ฟุมิโอะ คิชิดะ หัวหน้าพรรคแอลดีพี ได้คะแนนสูงสุด 141 คะแนน ทิ้งห่างคะแนนของ นาย ยูคิโอะ เอดะโน พรรคฝ่ายค้านได้ 65 คะแนน

ทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา จึงให้การรับรอง นาย ฟุมิโอะ คิชิดะ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คนที่ 100 นับตั้งแต่ปี 1885 (นับรวมผู้ที่ดำรงตำแหน่งหลายสมัยด้วย) ต่อจาก นาย สุงะ ในตอนค่ำได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโต เพื่อทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เป็นรัฐบาลชุดใหม่อย่างเป็นทางการ

นายกรัฐมนตรีคนใหม่กำหนดประกาศยุบสภา(衆議院解散)ในวันที่ 14 ตุลาคม (ก่อนวันครบวาระของสมาชิกสภาผู้แทนชุดนี้วันที่ 21 ตุลาคม) และกำหนดวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิก-

สภาผู้แทนราษฎรทั่วประเทศในวันที่ 31 ตุลาคมนี้

รายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทั้งคณะ รวมนายกรัฐมนตรีด้วย มี 21 คน ทั้งหมดมีอายุเฉลี่ย 61.8 ปี (มากกว่าของรัฐมนตรีอดีตนายกฯ นาย สุงะ คือ 60.4 ปี) ประกอบด้วยรัฐมนตรี วัย 70 ปี 2 คน 60 ปี 12 คน 50 ปี 5 คน และ 40 ปี 2 คน จึงเรียกได้ว่า เป็น “คณะรัฐมนตรี 3 วัย”(老荘青)คือวัยดึก วัยทำงาน และวัยหนุ่ม อายุมากที่สุดคือ 77 ปี และอายุน้อยที่สุด คือ 44 ปี เป็นแนวความคิดของนาย คิชิดะ ที่จะให้โอกาสคนรุ่นหนุ่มสาว เรียนรู้ทำงานการเมือง

ในจำนวนนี้มีรัฐมนตรีหญิง 3 คน เข้ารับผิดชอบหน่วยงานใหม่ คือ นาง เซโกะ โนดะ อดีตผู้สมัครลงแข่งชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ดูแลเรื่องเด็ก ประชากรเด็กที่เกิดน้อย และอีก 2 คน เป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่ ดูแลกระทรวงวัคซีน และกระทรวงดิจิทัล เพื่อเตรียมการเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบต่อไป

มีรัฐมนตรีหนุ่มวัย 46 ปี ที่เข้าดูแลกระทรวงความมั่นคงทางเศรษฐกิจ(経済安全保障担当大臣)ซึ่งเป็นกระทรวงที่ตั้งขึ้นใหม่เช่นกัน

ในจำนวนคณะรัฐมนตรี 20 คน มีรัฐมนตรีหน้าใหม่ถึง 13 คน ทุกคนล้วนเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนไม่ต่ำกว่า 3 สมัย และเคยอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างๆ มาแล้ว แต่กระนั้นก็ยังนับว่าใหม่ในงานการเมืองญี่ปุ่น

มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดนี้ล้วนเป็น “การได้รับผลประโยชน์ต่างตอบแทน” (論功行賞人事)ที่มาจาก “มุ้ง” (กลุ่มสนับสนุน) ต่าง ๆที่เทคะแนนเสียงให้ นาย คิชิดะ ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพี อย่างทั่วถึงเสมอกัน

นาย คิชิดะ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ ตอนค่ำของวันที่รับตำแหน่ง ถึงนโยบายเร่งด่วนตามที่หาเสียงตอนชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค คือ เรื่องโควิด-19 ต้องเร่งทำให้ผู้คนได้ออกมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวังการแพร่ระบาดของโรค เร่งเตรียมความพร้อมของระบบสาธารณสุขให้เข้มแข็ง เตรียมรับมือการระบาดระลอกใหม่ ให้เงินช่วยเหลือฟื้นฟูกิจการและแรงงานที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

เกี่ยวกับนโยบายทำให้โลกปลอดอาวุธนิวเคลียร์ นาย คิชิดะ ในฐานะที่เป็นชาวจังหวัด ฮิโรชิมา เป็นส.ส.ฮิโรชิมา และเป็นอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศมายาวนาน ตอบว่า ได้พยายามร่วมเจรจากับประเทศต่างๆเกี่ยวกับนโยบายนี้มาโดยตลอด เข้าใจความทุกข์ทรมานของเหยื่อและครอบครัวผู้สูญเสียอย่างดี จะพยายามทำให้โลกปลอดอาวุธนิวเคลียร์ให้ได้แม้ต้องใช้เวลาก็ตาม

นาย คิชิดะ ตอบนักข่าวในการฟื้นความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลว่า มีข้อร้องเรียนว่ารัฐบาลไม่ได้ยินและไม่พยายามฟังเสียงเรียกร้องจากประชาชนนั้น จะหาทางแก้ไขและพยายามสื่อสารกับประชาชนด้วยการใช้ภาษา การอธิบาย ให้ชัดเจนและเข้าใจง่ายขึ้น เพื่อจะได้รับความร่วมมือร่วมใจจากประชาชนในการปฏิบัติตามแนวนโยบายต่างๆของรัฐบาลที่จะมีขึ้นต่อจากนี้

วันที่สองของการรับตำแหน่ง นาย คิชิดะ ได้โทรศัพท์ถึงผู้นำสหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ย้ำถึงความร่วมมือกันและสานต่อนโยบายต่างประเทศ ต่อมาได้โทรศัพท์คุยกับผู้นำรัสเซีย จีนและอินเดียด้วย

วันที่ 8 ตุลาคม นาย คิชิดะ แถลงนโยบายต่อรัฐสภา(所信表明演説)เน้นย้ำการบริหารประเทศบนความไว้วางใจและความรู้สึกร่วมกับประชาชน ภายใต้นโยบายทุนนิยมใหม่ (新しい資本主義)เศรษฐกิจเติบโตและกระจายรายได้ให้ทั่วถึง เร่งการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 และรับฟังปัญหาของกลุ่มอาชีพด้วยการพบปะล้อมวงคุย(車座対話)เร่งเดินหน้าประเทศในทันที ส่วนด้านนโยบายต่างประเทศจะผลักดันนโยบายโลกปลอดอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป

ผลสำรวจคะแนนความนิยมต่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่นี้เมื่อเข้ารับตำแหน่ง ของสำนักข่าวหลายแห่ง ล้วนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ อยู่ในระดับต่ำ ราว 59% เท่านั้น น้อยกว่าของอดีตนายกฯ สุงะ ในช่วงเวลาเดียวกัน ฝ่ายค้านโจมตีว่าเป็น “นโยบายของ อาเบ ในหน้าตา คิชิดะ” เท่านั้น

ผู้นำคนใหม่กระตือรือร้นทั้งงานในประเทศและต่างประเทศ คาดหวังว่าประชาชนจะเชื่อมั่น

ในรัฐบาลและร่วมมือกันพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้ได้ในเร็ววัน

ชาวญี่ปุ่นคงมีความหวังขึ้นบ้างจากท่าทีมุ่งมั่นของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นาย ฟุมิโอะ คิชิดะ เพียงแต่ท่านยังไม่เคยบอกว่า รักทุกคน…นะจ๊ะ…

 

 

หมายเหตุ มติชนสุดสัปดาห์ บทความ นายกรัฐมนตรีคนที่ 100 ของญี่ปุ่น นายฟุมิโอะ คิชิดะ หน้า 66 ของสุภา ปัทมานันท์ ในมติชนสุดสัปดาห์ฉบับที่แล้ว มีข้อมูลที่ผิดพลาด

ที่ถูกต้อง มีข้อความดังนี้

“ภายในพรรคแอลดีพีมี ‘มุ้ง’ (กลุ่มสนับสนุน) หลักๆ อยู่ราว 7 มุ้ง ในจำนวนนี้เป็นมุ้งของนายคิชิดะเองด้วย ก่อนวันลงคะแนนเสียง ผู้สมัครพยายามชิงเสียงสนับสนุนจากอีก 6 มุ้ง นายคิชิดะมั่นใจว่าได้คะแนนเสียงส่วนหนึ่งของมุ้งนายอาโสะ (อดีตนายกรัฐมนตรี) และมุ้งใหญ่ของนายโฮโซดะ ส่วนนายโคโนได้รับเสียงสนับสนุนจากมุ้งของนายอาโสะ และแกนนำสมาชิกวัยหนุ่มเป็นหลัก”

จึงแจ้งมาเมื่อทราบ