ยานยนต์สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต/เจาะความแรง ‘สองล้อ’ ต่างสไตล์ ดูคาติ MONSTER-ฮอนด้า CBR150R

ยานยนต์สุดสัปดาห์

เจาะความแรง ‘สองล้อ’ ต่างสไตล์

ดูคาติ MONSTERž-ฮอนด้า CBR150Rž

 

นานแค่ไหนแล้วก็จำไม่ได้ ที่ผมนำเสนอเรื่องราวของรถสองล้อใน “ยานยนต์ สุดสัปดาห์”

อย่ากระนั้นเลยด้วยที่ผ่านมามีรถจักรยานยนต์ที่น่าสนใจ 2 รุ่น เปิดตัวออกมาไล่ๆ กัน จึงถือโอกาสนำมาเสนอไปพร้อมกันเลย

รุ่นแรกเป็นบิ๊กไบค์ จากค่าย “ดูคาติ” รุ่น All New Monster เป็นรถสไตล์เน็กเก็ตไบค์ หรือสปอร์ตเปลือย

อีกรุ่นเป็นแบรนด์เจ้าตลาดอย่าง “ฮอนด้า” มาในรุ่นที่โด่งดังในกลุ่มวัยรุ่นไทยยาวนาน All New CBR150Rž

 

เริ่มกันที่รุ่นใหญ่ Monsterž ที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามตลอดระยะเวลา 29 ปีที่ผ่านมา สร้างสถิติยอดขายกว่า 350,000 คัน ทั่วโลก ถือเป็นรุ่นที่ขายดีและทำยอดขายสูงสุดตั้งแต่เปิดดูคาติมา

รุ่นใหม่นี้มาในคอนเซ็ปต์ I AM A MONSTERž เพิ่มความปราดเปรียวมากขึ้น ด้วยการลดน้ำหนักไปถึง 18 ก.ก.

เฟรมแบบ Monocoque ได้รับการถ่ายทอดจากเทคโนโลยีทางสนามแข่ง Moto GP น้ำหนักเบาแต่แกร่งขึ้น

ไฟหน้าไม่ได้กลมดิกซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของดูคาติ แฮนด์ขนาดกว้างพอเหมาะ จับกระชับมือและเพิ่มความคล่องตัว ปรับระยะให้เข้าหาตัวผู้ขับขี่มากขึ้น

ถังน้ำมันขนาดใหญ่ มีส่วนเว้าส่วนโค้งที่สอดรับกับลำตัวของผู้ขับขี่

Double Side Swingarm ได้รับการพัฒนาทำให้มีน้ำหนักลดลงไปถึง 1.6 กิโลกรัม แต่ยังคงความแข็งแรง

ซับเฟรมด้านหลังใช้วัสดุ Glass Fiber Reinforced Polymer

ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยดีไซน์ใหม่

เบาะมีความสูงที่ 775 ม.ม. (มาตรฐาน) และ 820 ม.ม. (อุปกรณ์เสริม) ที่พักเท้าถูกปรับองศาให้มีความกระชับและสบายมากขึ้น

น้ำหนักรวมเพียง 166 กิโลกรัม ยิ่งง่ายต่อการควบคุมและทรงตัว

 

ขุมพลัง L-Twin Desmodromic valve Testastretta 11 ความจุ 937 ซีซี กำลังสูงสุด 111 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 93 นิวตัน-เมตร ทรงพลังกว่ารถเก๋งบางรุ่นด้วยซ้ำ

มาพร้อมโหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมด คือ Sport, Touring และ Urban

ขณะที่เทคโนโลยีความปลอดภัยพัฒนาให้ก้าวล้ำขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น และใช้งานง่ายขึ้น เช่น Cornering ABS (เฉพาะล้อหน้า) ช่วยปรับแรงดันน้ำมันเบรกให้เหมาะสม โดยเซ็นเซอร์จะทำงานตรวจวัดการเอียงของรถในขณะเข้าโค้ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกในโค้งให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น

Traction Control ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของตัวรถ เมื่อรถเกิดการลื่นไถล หรือสูญเสียการควบคุม ระบบนี้ก็จะเข้ามาช่วยผู้ขับขี่ในเสี้ยววินาที

Wheelie Control ระบบควบคุมการยกของล้อหน้าและหลัง

Launch Control เทคโนโลยีจากสนามแข่ง Moto GP ถูกเพิ่มเติมขึ้นมาใน New Monster ครั้งแรก ช่วยควบคุมการออกตัวรถด้วยความเร็วสูงอย่างมีเสถียรภาพ

Quickshifter up & down ระบบเปลี่ยนเกียร์ทั้งขึ้นและลง โดยไม่ต้องบีบคลัตช์ สร้างความสะดวกสบายและง่ายต่อการขับขี่

มีให้เลือก 2 สี คือ MONSTER RED ราคา 449,000 บาท และ MONSTER Aviator Grey ราคา 453,000 บาท

เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น ดูคาติ ไม่รอช้าที่จะจัดแคมเปญทันทีที่เปิดตัว ทั้งดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 4 ปี ฟรีค่าจดทะเบียน และ พ.ร.บ.

หรือเลือกผ่อนเดือนละ 7,016 บาท นอกจากนี้ยังมีแบบดาวน์เพียงแค่ 67,350 บาท

พร้อมรับประกันตัวรถ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ฟรีค่าบำรุงรักษา 2 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร และให้ประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี และฟรีค่าจดทะเบียนและ พ.ร.บ.

 

ส่วน All New CBR150Rž ได้รับการพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ For The Real Racing Heart แรงเท่าที่ใจอยากแรง ออกแบบใหม่ทั้งคันในแบบ Sport Aggressive Design ที่ให้ความโฉบเฉี่ยวและดุดัน

ฮอนด้า ตั้งเป้าหมายให้ CBR150Rž เปิดประสบการณ์การขับขี่และสัมผัสความแรงสไตล์เรซซิ่งสปอร์ต ก่อนต่อยอดสู่สปอร์ตไบค์ในตระกูล CBR Series ในพิกัดที่สูงขึ้น

ไฟหน้า LED 2 ชั้น แบบ Double-Layered ทั้งหน้าและหลัง มาพร้อมกับ Position Light คู่บน และไฟเลี้ยว LED

เส้นสายบนตัวรถที่บ่งบอกความเป็นสปอร์ตขั้นสุด ออกแบบตามหลัก Aero Dynamics ให้มีแรงเสียดทานต่ำที่สุด

วางตำแหน่งท่านั่งในแบบ Super Sport Riding PositionŽ ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสอารมณ์ของความเป็นรถซูเปอร์สปอร์ต

ระบบกันสะเทือนใช้โช้คหน้าแบบหัวกลับ (Upside-down Shock Absorber) จากแบรนด์ SHOWA

เพิ่มความปลอดภัยด้วยดิสก์เบรกหน้า-หลัง พร้อมระบบเบรกแบบ ABS (เฉพาะรุ่น ABS) ระบบไฟฉุกเฉิน ESS แสดงสัญญาณไฟกะพริบเมื่อเบรกอย่างกะทันหัน

เครื่องยนต์ DOHC 4 วาล์ว ขนาด 150 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ชุดเกียร์ 6 สปีด มาพร้อมระบบ Assist Slipper Clutch ช่วยลดแรงกระชากของล้อหลังขณะเปลี่ยนเกียร์ เพื่อความนุ่มนวลและความต่อเนื่องของการขับขี่แบบเรซซิ่งสปอร์ต

All New CBR150R มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น ABS สีแดง Tri-color และสีดำ-แดง Mat-Gunpowder ราคาแนะนำ 99,900 บาท

ส่วนรุ่น Standard มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ-แดง Mat-Gunpowder, สีแดง-ดำ Millennium และสีเทา-เหลือง Mat-Axis Grey ราคาแนะนำ 92,900 บาท

 

ปิดท้ายกันที่ยอดขายรถยนต์เดือนสิงหาคม ที่ถือว่าย่ำแย่สุดๆ ในรอบปี

สาเหตุหลักๆ ไม่พ้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงอย่างต่อเนื่อง บวกกับการประกาศล็อกดาวน์ กระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน และภาคธุรกิจต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคเริ่มกังวลถึงอนาคตจึงเลือกคุมค่าใช้จ่ายมากขึ้น

ยอดขายรถเดือนสิงหาคมมีปริมาณการขายรวม 42,176 คัน ลดลง 38.8%

แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 13,845 คัน ลดลง 35% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 28,331 คัน ลดลง 40.5% ขณะที่รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนต์นี้ มีจำนวน 21,875 คัน ลดลง 40.9%

แยกตามยี่ห้ออันดับที่ 1 โตโยต้า ยอดขาย 12,364 คัน ลดลง 42.8%

อันดับที่ 2 อีซูซุ ยอดขาย 11,035 คัน ลดลง 33.4%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า ยอดขาย 5,345 คัน ลดลง 37.9%

ตลาดรถยนต์นั่งฮอนด้า ยังมาอันดับ 1 ยอดขาย 4,906 คัน ลดลง 30.9% โตโยต้า 3,694 คัน ลดลง 30.0% และมาสด้า 1,061 คัน ลดลง 49.6%

รถปิกอัพ+พีพีวี (ปิกอัพดัดแปลง) อีซูซุ 9,638 คัน ลดลง 36.9% โตโยต้า 7,754 คัน ลดลง 42.8% และฟอร์ด 2,012 คัน ลดลง 23.3% ส่วนแบ่งตลาด 9.2%

รถพีพีวีขายดี 5 อันดับแรกโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 14,525 คัน อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 11,022 คัน มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต 4,204 คัน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 3,015 คัน และนิสสัน เทอร์รา 357 คัน