สิ่งแวดล้อม : ‘เผานก-ฉกรัง’ ทำลายธรรมชาติ / ทวีศักดิ์ บุตรตัน

ทวีศักดิ์ บุตรตัน
ภาพประกอบจาก ข่าวสดออนไลน์

สิ่งแวดล้อม

ทวีศักดิ์ บุตรตัน / [email protected]

 

‘เผานก-ฉกรัง’ ทำลายธรรมชาติ

 

พฤติการณ์จุดไฟเผาถ้ำขโมยรังนกบนหมู่เกาะสี่ เกาะห้า อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง เป็นอีกหนึ่งพฤติการณ์อันโหดเหี้ยมทำลายธรรมชาติอย่างสุดๆ ในประเทศที่ได้ชื่อว่าดินแดนแห่งพุทธศาสนา

กลุ่มคนร้ายก่อกองไฟจงใจให้ควันลอยไปไล่นกอีแอ่นเกาะบนเพดานถ้ำแล้วปีนขึ้นไปเก็บรังนก

คาดว่าคนร้ายเก็บรังนกได้ราวๆ 500,000-600,000 รัง หรือประมาณ 2,000 กิโลกรัม

รังนกมีมูลค่าสูง ขายกันในตลาดไม่น้อยกว่า 2 หมื่นบาทต่อกิโลกรัม

ที่น่าสลดหดหู่ก็คือพบซากนกวัยอ่อนเกลื่อนถ้ำ เพราะคนร้ายลงมือก่อเหตุในช่วงเวลาที่นกอีแอ่นกำลังฟักไข่

ปกติแล้ว รังนกอีแอ่นแต่ละรังนั้นจะมีไข่นกเพียง 2 ฟอง หรือเท่ากับนกวัยอ่อนอยู่ในรัง 2 ตัว

ระยะฟักไข่ใช้เวลานาน 20-26 วัน และระยะเติบโตในรังราวๆ 37-49 วัน

ถ้าคนร้ายฉกรังนกไป 5 แสนรัง เท่ากับคนร้ายทำลายนกอีแอ่นบนหมู่เกาะสี่ เกาะห้ากว่า 1 ล้านตัว

ประเมินกันว่า นกอีแอ่น 1 ตัวสามารถทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาทภายในระยะเวลา 7 ปี

ถ้านกอีแอ่นตายไป 1 ล้านตัว นั่นหมายถึงจังหวัดพัทลุงจะเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท

 

เป็นที่รู้กันว่า นกอีแอ่นเป็นสัตว์แข็งแรงมาก เมื่อบินออกจากรังแล้วจะบินทั้งวัน เนื่องจากมีขางุ้มไม่สามารถเกาะเกี่ยวกิ่งหรือขอนไม้ แต่มีระบบนำทางเป็นเลิศ สายตาคมกริบ บินได้ทั้งกลางวันกลางคืน เลาะตามซอกหินที่สลับซับซ้อนได้อย่างคล่องแคล่ว

ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม นกอีแอ่นจะบินร่อนตามกระแสลมซึ่งพัดจากดินแดนอันหนาวเย็นแถบไซบีเรียลงมาหากินในถิ่นอบอุ่นมีแหล่งธรรมชาติอันสมบูรณ์ เช่น ประเทศไทย มาเลเซีย

เมื่ออากาศในแถบขั้วโลกเหนืออุ่นขึ้นก็จะบินกลับไป เป็นวงจรธรรมชาติของนกชนิดนี้

นกอีแอ่นบางชนิดบินเร็วมาก บิน 1 ชั่วโมงได้ 169 กิโลเมตรก็มี แถมมีความอึดเป็นพิเศษ บินได้นานถึง 2 วันโดยไม่ต้องแวะหยุดกินอาหาร

นกอีแอ่นจะหาแหล่งจับคู่ผสมพันธุ์ ทำรังตามผนังถ้ำ

ผนังถ้ำหินปูนที่นกอีแอ่นทำรังต้องมีความชื้นเหมาะสม อากาศถ่ายเทได้สะดวก ส่วนใหญ่อยู่ภายในถ้ำลึกลับสลับซับซ้อน บนเกาะที่เป็นภูเขาสูงชันเพื่อป้องกันศัตรู

นกอีแอ่นถือเป็นวิศวกรชั้นเยี่ยมเพราะสามารถทำรังติดกับผนังถ้ำได้อย่างแน่นหนา

โครงสร้างรังนกอีแอ่นประกอบด้วยฐานรังที่เกาะติดกับผนังถ้ำ และตัวรังตั้งฉากออกมาจากฐานรัง ลักษณะคล้ายพระจันทร์ข้างขึ้นครึ่งเสี้ยว

น้ำหนักรังละประมาณ 8 กรัม หรือประมาณ 120 รังต่อกิโลกรัม รองรับน้ำหนักลูกนกวัยอ่อนได้อย่างสบายๆ

วัยอ่อนนกอีแอ่นจะกินรังเป็นเส้นใยเล็กๆ ที่แม่นกสร้างเป็นเบาะให้ลูกนกนอน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรังนก

อาหารของนกอีแอ่นส่วนใหญ่เป็นแมลงเล็กๆ ที่บินว่อนในอากาศ เช่น แมลงปอ เพลี้ย แมงมุม

นกอีแอ่นโฉบจับแมลงเหล่านี้แล้วอมในกระพุ้งแก้ม จากนั้นก็ปล่อยสารพิเศษออกมาทำปฏิกิริยาจนมีลักษณะเป็นก้อนกลมๆ เหมือนลูกบอล หรือที่เรียกว่า bolus

บอลแต่ละลูกจะอัดแน่นไปด้วยแมลง 300-500 ตัว

แต่ละวันนกอีแอ่นกินแมลงเป็นอาหารนับร้อยกิโลกรัม เป็นการสร้างสมดุลของระบบนิเวศ

 

รังนกอีแอ่นมีคุณค่าทางโภชนาการ แพทย์แผนโบราณของจีนเชื่อว่ารังนกมีสรรพคุณช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แก้ไอ ช่วยฟอกปอด เป็นยาอายุวัฒนะ

รังนกบนเกาะสี่ เกาะห้า เป็นรังนกที่มีคุณภาพดีมาก เส้นรังนกใหญ่เหนียวไม่ละลายแม้ตุ๋นด้วยความร้อนสูง เนื่องจากนกอีแอ่นจะบินหาอาหารกลางทะเลสาบสงขลาที่มีสิ่งแวดล้อมดีเยี่ยม เป็นแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์

รังนกของเกาะสี่ เกาะห้าทำรายได้ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศมานานไม่น้อยกว่า 300 ปี

เว็บไซต์ของหนังสือศิลปวัฒนธรรม ระบุว่า ในสมัยพระเจ้าตาก ทรงแต่งตั้งหลวงอินทคีรีสมบัติ หรือนายเหยี่ยง แซ่เฮา เป็นนายอากรรังนก ทำหน้าที่เก็บอากรรังนกไปถวาย และโปรดเกล้าฯ ให้เป็น “หลวงสุวรรณคีรีสมบัติ” เจ้าเมืองสงขลาคนแรก

สมัยรัชกาลที่ 5 หลวงอุดมภักดี ได้รับมอบหมายให้ดูแลรังนกบนเกาะสี่ เกาะห้า ทำหน้าที่นำอากรเข้าท้องพระคลังหลวง และในเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ.2432 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จทางชลมารคไปประทับแรมบนเกาะ เป็นเวลา 2 วัน

เกาะสี่ เกาะห้าจึงไม่ใช่เป็นแค่แหล่งธรรมชาติอันสมบูรณ์ ที่อยู่อาศัยของนกอีแอ่น ซึ่งทำรายได้ให้กับจังหวัดพัทลุงอย่างมหาศาลเท่านั้น หากยังเป็นแหล่งประวัติศาสตร์อันสำคัญยิ่งอีกด้วย

 

การจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่น เพิ่งเปลี่ยนแปลงเมื่อปี 2540 หลังมีการออกพระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น อนุญาตให้เอกชนยื่นประมูลขอสัมปทานจัดเก็บรังนก และให้มีคณะกรรมการรังนกของแต่ละจังหวัดเป็นฝ่ายดูแลควบคุมเก็บภาษีอากร

การจัดประมูลเก็บรังนก เกาะสี่ เกาะห้า ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทที่ชนะการประมูลเสนอราคา 400 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี ระหว่างปี 2564-2569

ก่อนยื่นซองเปิดประมูลคณะกรรมการรังนกอีแอ่นพัทลุงเข้าไปตรวจสอบและรับมอบพื้นที่สัมปทาน พบว่ามีรังนกตามถ้ำต่างๆ อยู่หนาแน่น

คาดว่ากลุ่มคนร้ายก่อเหตุช่วงรอยต่อระหว่างการส่งมอบสัมปทานให้กับผู้ชนะการประมูลรายใหม่ เพราะเมื่อวันที่ 15 กันยายน พนักงานของบริษัทที่ชนะการประมูลเข้าไปเก็บรังนกตามถ้ำต่างๆ บนเกาะสี่ เกาะห้าพบซากนกวัยอ่อนตายเกลื่อน และอุปกรณ์ที่ใช้ในการขโมยรังนก เช่น เชือกโรยตัว แสกเหล็กที่ใช้แซะรังนก

การจุดไฟเผาขโมยรังนกในครั้งนี้จึงถือได้ว่ามีเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นกอีแอ่นซึ่งเป็นสัตว์ที่มีคุณค่าทั้งทางธรรมชาติสิ่งแวดล้อม มุ่งทำลายเศรษฐกิจและแหล่งประวัติศาสตร์อันสำคัญของจังหวัดพัทลุง

พฤติการณ์ดังกล่าวยังส่งผลกระทบในระยะยาว นกอีแอ่นอาจจะไม่หวนกลับมาทำรังบนเกาะสี่ เกาะห้าอีกเลยก็เป็นได้ หรือสุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในอนาคต

ใครรับผิดชอบในเรื่องนี้ อย่าปล่อยให้คนร้ายลอยนวล เย้ยกฎหมายเด็ดขาด