ภาพอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสบอย่างที่เดินทางไปเยือนชัยภูมิ ภาพอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสบอย่างที่ เดินทางไปเยือนนนทบุรี

กำลังจะกลายเป็นภาพ”ประจำ” ตอกย้ำให้เห็นทั้งด้านทีสดสวยด้วยการต้อนรับ และการออกมาต่อต้าน ผลักไสไล่สง

ยิ่งเข้าสู่”โหมด”แห่ง”การเลือกตั้ง”ยิ่งจะกลายเป็นเรื่องปรกติ

ตราบใดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ยืนเรียงอยู่เคียงข้าง

การจัดตั้งผ่านเครือข่ายของผู้ว่าราชการ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ยังดำรงคงอยู่ มีการคัดสรรคนพิเศษเข้ามาต้อนรับ กีดกันคนอีกกลุ่มหนึ่งออกไป

ขณะเดียวกัน คนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งถูกกีดกันเบื้องต้นอาจไม่กล้า

แต่ยิ่งบรรยากาศแห่งความขัดแย้งทวีความแหลมคม การต่อสู้ในทางการเมืองก็ช่วยให้เกิด”ช่องทาง”ในการแสดงตัว

เสียงร้องตะโกน”ออกไป ออกไป”จึงดังขึ้นกึกก้อง

 

ความเหมือนเป็นอย่างยิ่งจากสถานการณ์การไปเยือนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมที่ชัยภูมิ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมที่นนทบุรี

แตกต่างไปจากภาพที่เคยเห็นเมื่อไปเยือนสมุทรปราการ ชัยนาท ชลบุรี เพชรบุรี สุโขทัยอย่างสิ้นเชิง

ภายในห้องประชุมอันรโหฐานทุกอย่างอาจดำเนินไปด้วยความสดสวยงดงาม เปี่ยมด้วยคำหวานเอมโอชะ แต่เมื่อเดินไปบนท้องถนนเสียงร้องตะโกน”ออกไป ออกไป”ก็กึกก้อง

ยิ่งเมื่อเข้าสู่พรมแดนของการต่อสู้ทางการเมืองเพื่อชิงตำแหน่งอันแหลมคม ยิ่งทำให้ความขัดแย้งยิ่งทวีความร้อนแรง

“พื้นที่”ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะย่อมน้อยไปด้วย

 

เวลาจากหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 กับเมื่อหลังการ เลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 กับที่กำลังประสบอยู่ในปัจจุบันแตก ต่างกันเป็นอย่างสูง

ไม่เพียงแต่จะดังมาจาก”เยาวชนปลดแอก”หรือ”ทะลุฟ้า”

หากแม้กระทั่งจาก”ภายใน”ของพรรคพลังประชารัฐก็เริ่มมีปิดบังอำพราง รวมถึงจากพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค

นี่ย่อมเป็นสัญญาณ”ถดถอย” เป็นเครื่องหมาย”ขาลง”เด่นชัด