ไบเดนประกาศสงครามกับโควิด-19 The Battle Against COVID-19/รายงานพิเศษ มงคล วัชรางค์กุล

รายงานพิเศษ

มงคล วัชรางค์กุล

 

ไบเดนประกาศสงครามกับโควิด-19

The Battle Against COVID-19

 

อเมริกาเสร็จศึกสงครามอัฟกานิสถานด้วยการถอนทหารออกเมื่อ 31 สิงหาคม 2021

แล้วไบเดนหันมาประกาศสงครามกับโควิด-19

เริ่มต้นเมื่อ 18 สิงหาคม 2021 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ปราศรัยเรื่องวัคซีนและการป้องกัน Delta virus บอกว่าจะให้มีการฉีดวัคซีนเข็มที่สามเริ่มต้นเดือนหน้าวันที่ 20 กันยายน ทุกคนจะได้ฉีดเข็มที่สาม โดยนับต่อจากการฉีดเข็มที่สองแปดเดือน

คนที่ฉีดเข็มที่สองวันที่ 20 มกราคม จะได้ฉีดเข็มที่สามวันที่ 20 กันยายน ส่วนคนที่ฉีดเข็มที่สองก่อน 20 มกราคม จะให้เริ่มฉีดเข็มที่สาม 20 กันยายน

(แต่ในความเป็นจริง มีการเริ่มฉีดเข็มที่สามตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน)

ไบเดนบอกว่า “อเมริกามีวัคซีนมากพอที่จะฉีดเข็มที่สามให้ทุกคน เลือกฉีดได้จากสถานฉีดวัคซีน 80,000 แห่งทั่วประเทศ”

การฉีดไม่ต้องโชว์ไอดี ไม่ต้องโชว์บัตรประกันสุขภาพ เพียงแต่โชว์การ์ดฉีดวัคซีนเดิม ทุกคนฉีดฟรี

 

ไบเดนบอกว่า มีผู้นำโลกบางคนบอกว่าอเมริกาไม่ควรฉีดวัคซีนเข็มที่สาม จนกว่าคนในประเทศอื่นจะได้ฉีดเข็มที่หนึ่งกันทั่วหน้าแล้ว

แต่ไบเดนบอกว่า ไม่เห็นด้วย คนอเมริกันควรจะได้รับการฉีดวัคซีนเต็มที่ ในขณะเดียวกัน อเมริกาก็ช่วยป้องกันประเทศอื่น ช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม อเมริกาฉีดวัคซีน 50 ล้านโดส แต่บริจาควัคซีน 100 ล้านโดส

อเมริกาบริจาควัคซีนมากกว่าทุกประเทศในโลก

ช่วงหน้าฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวจะบริจาค 100 ล้านโดส และจะบริจาคเพิ่มอีก 200 ล้านโดส รวมทั้งหมดจะทำยอดบริจาคให้เกิน 600 ล้านโดส

ไบเดนบอกว่า เดลต้าแพร่เร็วกว่าเชื้อเดิมสองเท่า ทางป้องกันมี 2 ทางคือ

ฉีดวัคซีนและใส่ Mask

คนอเมริกัน 90% ฉีดวัคซีนแล้วหนึ่งเข็ม อีก 70% ที่อายุเกิน 12 ปีฉีดแล้วสองเข็ม มีคนยังไม่ฉีดวัคซีนอีก 85 ล้านคน ทั้งที่มีวัคซีนให้ฉีดมากพียงพอ

นักศึกษาที่เข้า Class ฤดูใบไม้ร่วงต้องฉีดวัคซีนทุกคน เด็กนักเรียนในโรงเรียนทั่วประเทศต้องใส่ Mask

ไบเดนแถลงว่า มีเอกชนที่บังคับพนักงานให้ฉีดวัคซีน เช่น AT&T, Amtrak, McDonald’s ตัวไบเดนเองได้พบกับผู้บริหาร United Airlines, Keizer Permanente, Howard University ทุกแห่งต่างก็ทำอย่างเดียวกัน

ช่วงระบาดปีที่แล้ว มีคนแก่ใน Nursing Homes ติดเชื้อตายไป 130,000 คน ดังนั้น ทุกคนที่ทำงานในสถานพยาบาล คนแก่ต้องฉีดวัคซีนทุกคน

ไบเดนบอกว่า ทั้งประเทศ คนที่เข้าโรงพยาบาลและคนตายทั้งหมดเป็นคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน

ที่รัฐ Alabama มากกว่า 90 % ของคนเข้าโรงพยาบาลไม่ได้ฉีดวัคซีน ที่เท็กซัสตัวเลขขึ้นไปถึง 95% และตัวเลขเป็นเช่นนี้ในรัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ

บางบริษัทจะตัดเงิน Pay check พนักงานที่ไม่ฉีดวัคซีนเดือนละ 50 เหรียญ

รัฐนิวยอร์กให้รางวัลคนฉีดวัคซีน 100 เหรียญ คนไม่ฉีดวัคซีนห้ามเข้าร้านอาหาร Fitness และสถานที่บางแห่ง รัฐแคลิฟอร์เนียก็ออกกฎเดียวกัน

 

9 กันยายน 2021 ไบเดนกล่าวปราศรัย the Battle Against COVID-19

“ไบเดนประกาศสงครามกับโควิด-19”

โดยออกกฎ แผนปฏิบัติการใหม่ (New Action Plan) 6 ประการ ในการต่อสู้ประจัญบาน (Combat) กับไวรัสและระดมฉีดวัคซีน ไล่เรียงได้ว่า

บรรดากิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คน หรือมากกว่านั้น นายจ้างจะต้องจัดให้ลูกจ้างได้ฉีดวัคซีน ถ้าใครไม่ฉีดจะต้องมีการตรวจโควิดทุกอาทิตย์

บริษัทที่ใหญ่ที่สุดได้ทำสิ่งนี้แล้ว เช่น United Airlines, Disney, Tysons Food รวมทั้ง Fox News

ข้อสำคัญคือ ต้องป้องกันคนงานที่ฉีดวัคซีนจากคนงานที่ไม่ฉีดวัคซีน หยุดยั้งโควิด-19 ด้วยการเพิ่มจำนวนคนงานที่ฉีดวัคซีนทั่วสหรัฐ

แผนกบริหารความปลอดภัยและสุขภาพแรงงาน (The Labor Department’s Occupational Safety and Health Administration) จะออกกฎควบคุมฉุกเฉินชั่วคราวเรื่องการฉีดวัคซีน ครอบคลุมแรงงานเอกชน 80 ล้านคน หน่วยธุรกิจใดปฏิบัติไม่ได้จะโดนปรับ 14,000 เหรียญต่อการละเมิดหนึ่งครั้ง

หน่วยธุรกิจจะต้องให้แรงงานไปฉีดวัคซีนโดยไม่ถือเป็นวันลา ยังได้ค่าแรง รวมทั้งให้เวลาพักฟื้นจาก side effects ของการฉีดวัคซีนที่เกิดขึ้น

ไบเดนมีคำสั่งถึงหน่วยงานลูกจ้างกลาง (federal employees) ที่ทำสัญญากับรัฐบาลกลาง (Federal) และคู่สัญญา (contractors) ทั้งหมดจะต้องให้ลูกจ้างทุกคนที่ทำงานในสนาม (work on-site) ฉีดวัคซีนภายใน 75 วัน คำสั่งนี้ใช้บังคับลูกจ้างหลายล้านคน

คำสั่งบังคับฉีดวัคซีนลูกจ้างจะครอบคลุมคนงาน 100 ล้านคน หรือ 2 ใน 3 ของคนงานในสหรัฐ

ไบเดนสั่งองค์การบริหารความปลอดภัยด้านการขนส่ง (the Transportation Safety Administration – the TSA) เพิ่มค่าปรับ (federal fines) คนขึ้นเครื่องบินที่ไม่ยอมสวม mask เป็นสองเท่า รวมทั้งยังคงกฎต้องสวม Mask ในที่ federal property

ไบเดนประกาศว่า รัฐบาลกลางจะเพิ่มปริมาณอุปกรณ์ตรวจไวรัส (virus tests) พร้อมประสานผู้ค้าปลีก (retailers) รายใหญ่ เช่น Walmart, Amazon และ Kroger’s ให้ขายเครื่องตรวจ home testing kits ในราคาทุน เริ่มสัปดาห์หน้า จะขายราคานี้ไป 3 เดือน ราคาจะลดลงมากกว่า 35%

ฝ่ายบริหารของรัฐบาลกลางจะส่งความช่วยเหลือไปยังโรงเรียนที่กำลังจะเปิดเทอมให้เริ่มต้นด้วยความปลอดภัย เช่น ส่งทุนให้ใช้ตรวจไวรัส ให้ทุกคนใส่ Mask เด็กจะได้ปลอดภัย วันนี้ราว 90% ของเจ้าหน้าที่โรงเรียนและครูฉีดวัคซีนแล้ว แต่จะต้องทำให้ได้ถึง 100%

ประกาศให้บุคลากรในวงการศึกษาสังกัดรัฐบาลกลาง 300,000 คน ต้องฉีดวัคซีนทุกคน

และประกาศถึงผู้ว่าการรัฐทุกรัฐให้จัดการฉีดวัคซีนให้ครูในสังกัดทุกคน

ถ้าผู้ว่าการคนไหนไม่ให้ความร่วมมือต่อต้านโควิด จะใช้อำนาจประธานาธิบดี “ขจัด” ออกไป

เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปให้มาฉีดวัคซีน ส่วนเด็กที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ฉีดวัคซีนจะอยู่รอดปลอดภัยได้ ถ้าคนในบ้าน คนรอบข้างทุกคนฉีดวัคซีน

ไบเดนจะกำชับให้สถานบันเทิงและการแสดงต้องมีการฉีดวัคซีนหรือตรวจสอบเชื้อก่อนเข้าในสถานที่

ไบเดนมีคำสั่งให้ฉีดวัคซีนให้ผู้ปฏิบัติงาน healthcare ดูแลคนป่วยทั้งในระบบ Medicare หรือ Medicaid ทุกคนต้องฉีดวัคซีน นี่เป็นคำสั่งของรัฐบาลกลาง

และโดยอำนาจของรัฐบาลกลาง ไบเดนขยายคำสั่งให้ครอบคลุมถึงคนทำงานในโรงพยาบาล, สถานพยาบาล และสถานบำบัด รวมคนทำงานด้านสุขภาพ 17 ล้านคนต้องฉีดวัคซีน

 

แผนปฏิบัติการข้อที่ 5 เน้นเรื่องปกป้องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ไบเดนบอกว่า เพราะการฉีดวัคซีนและแผนการกอบกู้อเมริกัน (American Rescue Plan) ที่เริ่มต้นในสมัยการบริหารของไบเดน ได้สร้างงานใหม่จำนวนมาก เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงสุดในรอบ 40 ปี เราจะยอมให้พวกไม่ยอมฉีดวัคซีนมาทำให้สิ่งนี้กลับหลังไม่ได้

ไบเดนประกาศโครงการ COVID-19 Economic Injury Disaster Loan programs โครงการโปรแกรมเงินกู้เยียวยาธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โปรแกรมนี้จะให้เงินกู้แก่ธุรกิจขนาดย่อมถึง 2 ล้านเหรียญ จากเดิมที่ให้กู้แค่ 500,000 เหรียญ

โครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะยาวนี้ ไม่ต้องส่งเงินต้น 2 ปี ใช้เป็นเงินจ้างงาน, ซื้อสินค้าหรือจ่ายคืนเงินกู้ดอกเบี้ยสูงเมื่อตอนเริ่มต้นระบาด มาใช้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำนี้แทน

แผนปฏิบัติการข้อที่ 6 คือการปรับปรุงการรักษาพยาบาลคนที่ติด COVID-19 มีหลายหน่วยงานร่วมกันรับผิดชอบ – the Department of Health and Human Service, the CDC, the Defense Department และ the Federal Emergency Management Agency-FEMA ช่วยกันรักษาพยาบาลคนป่วยทั่วประเทศ ช่วยกันค้นคว้ายาตัวใหม่ในการรักษา จะเพิ่มการรักษาด้วย free monoclonal antibody treatments เพิ่มอีก 50 เปอร์เซ็นต์

ไบเดนกล่าวว่า “ขอสื่อสารถึงคนอเมริกัน 80 ล้านคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนว่า จะต้องรออะไรอีก จะยังอยากเห็นอะไรเพิ่มอีก เราได้ผลิตวัคซีนให้ฟรี ปลอดภัยและสะดวกสบาย วัคซีนได้รับการรับรองจาก FDA มีคนอเมริกันมากกว่า 208 ล้านคนฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งเข็ม

“เราอดทน (กับคนที่ไม่ยอมฉีด) แต่ความอดทนนั้นกำลังเปราะบาง (We’ve been patient, but our patience is wearing thin)”

“การปฏิเสธไม่ยอมฉีดวัคซีนของพวกคุณเป็นต้นทุนของพวกเราทุกคน พวกที่ไม่ยอมฉีดทำให้เกิดความเสียหาย (Damage) ที่เกิดขึ้นแล้วจริงๆ”

“นี่ไม่ใช่เรื่องของเสรีภาพ (Freedom) (ที่จะไม่ฉีด) หรือทางเลือกของแต่ละบุคคล (Personal Choice) แต่เป็นเรื่องการป้องกันตัวเองและคนรอบข้าง”

 

ไบเดนสรุปตอนท้ายว่า ถึงแม้ว่า แผนการสู้โควิดนี้จะเป็นแค่แผนการในบ้าน แต่เราก็ต้องต่อสู้กับไวรัสนอกประเทศด้วย เราภูมิใจที่ตอนนี้เราบริจาควัคซีนไปแล้ว 140 ล้านโดสให้มากกว่า 90 ประเทศ บริจาคมากกว่าทุกประเทศทั้งยุโรป, จีน และรัสเซียรวมกัน อเมริกันเป็นผู้นำการบริจาคในโลก (Global) และนั่นเพียงแค่เริ่มต้น

เรากำลังจะบริจาคอีก 500 ล้านโดส-วัคซีนไฟเซอร์ ซื้อมาบริจาคให้ประเทศรายได้ต่ำ 100 ประเทศที่ต้องการวัคซีนเร่งด่วน

22 กันยายน 2021 ประธานาธิบดีไบเดนจัดสัมมนาโควิด-19 โลกในหัวข้อ : หยุดการแพร่ระบาดแล้วนำสิ่งที่มีอยู่เดิม (ก่อนการระบาด) กลับคืนมาให้ดียิ่งขึ้น (Ending the Pandemic and Building Back Better)

ผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วยผู้นำองค์การระหว่างประเทศ, ภาคเอกชน, องค์การทำบุญกุศล (philanthropies), องค์การที่มิใช่ภาครัฐ และหุ้นส่วนอื่นของ the Global COVID-19 เป็นการประชุมสัมมนาร่วมออนไลน์ที่องค์การสหประชาชาติ

ไบเดนประกาศจุดยืนเป็นผู้นำโลกในการหยุดยั้งโควิด-19 ระบาดในปี 2022 และนำการสาธารณสุขโลกที่เคยดีอยู่ก่อนกลับคืนมาให้ดียิ่งขึ้น ด้วยวิธีการ

– ฉีดวัคซีนทั่วโลก (Vaccinate the World)

– ช่วยรักษาชีวิตในทันที (Save Life Now) แก้ปัญหาวิกฤติขาดออกซิเจน, ผลิตชุดตรวจโควิด, การบำบัดโรค (therapeutics), PPE

– สร้าง (สุขภาพ) ที่เคยดีอยู่แล้วกลับคืนมาให้ดียิ่งขึ้น (Building Back Better) ด้วยการจัดเตรียมพร้อมกันในทุกประเทศ, ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินเพื่อเสริมสร้างสุขภาพ, แสดงนโยบายการเป็นผู้นำสำหรับเหตุฉุกเฉินเกิดใหม่เพื่อเตรียมพร้อมป้องกันและระงับการแพร่ระบาด

– จัดระเบียบโลกให้เดินไปในแนวทางเดียวกัน (Calling the World to Account) ด้วยการประกาศวัตถุประสงค์โลกร่วมกัน, ชี้แนวทางให้พัฒนาก้าวหน้าและให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันมุ่งมั่นให้บรรลุวัตถุประสงค์

ไม่ว่าไบเดนจะประกาศสงครามกับโควิด-19 อย่างไร จนถึงขั้นระดมทำสงครามกับโควิดทั้งโลก

แต่คนอเมริกัน 75 ล้านคน (เมื่อ 26 กันยายน 2021) ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน

ก็จะยังไม่ฉีดวัคซีนเหมือนเดิม