มองปรากฏการณ์ ‘น้องไข่เน่า’ เซ็กซ์ครีเอเตอร์ สังคมเสื่อมศีลธรรม เพราะคลิป 18+ ?/บทความในประเทศ

บทความในประเทศ

 

มองปรากฏการณ์

‘น้องไข่เน่า’ เซ็กซ์ครีเอเตอร์

สังคมเสื่อมศีลธรรม

เพราะคลิป 18+ ?

 

ประเด็นข่าวดังที่ยึดพื้นที่สื่อและโลกโซเชียลในรอบสัปดาห์นี้ นั่นคือข่าวของ ‘‘น้องไข่เน่า” หรือ “น้องตะวัน” เซ็กซ์ครีเอเตอร์สาววัย 19 ปี ผู้โด่งดังจากการทำคลิปวีดีโอ 18+ ลงในเว็บไซต์ OnlyFans จนมีรายได้เกือบล้านบาทต่อเดือน ถูกตำรวจไซเบอร์นำกำลังพร้อมหมายศาลเข้าจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางพลี เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมแฟนหนุ่ม โดยถูกแจ้งข้อหาผลิตสื่อลามกอนาจาร นำเข้าข้อมูลลามกสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ในตอนแรกเจ้าหน้าที่ไม่ให้ประกันตัว เนื่องจากเล็งเห็นว่าพฤติกรรมของน้องไข่เน่าไม่เหมาะสมต่อเยาวชน

ภายหลังมีการพิจารณาให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยตีวงเงินประกันคนละ 100,000 บาท

และห้ามกลับไปทำผิดซ้ำอีก

 

อาชีพเซ็กซ์ครีเอเตอร์ ตอนนี้ยังถือเป็นข้อห้ามและจุดบอดในสังคมไทย

ทั้งประเด็นผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรมอันดีงามในสายตาคนไทยที่มองว่าการมีเซ็กซ์ระหว่างคนสองคน ไม่ใช่เรื่องที่ควรเอามาเปิดเผยสู่สายตาสาธารณชน

ประเด็นนี้เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในโลกออนไลน์

คำถามส่วนใหญ่ของชาวเน็ตหนีไม่พ้นการตั้งคำถามว่า อะไรคือตัววัดว่าอาชีพเซ็กซ์ครีเอเตอร์ไม่เหมาะสม?

การที่คนคนหนึ่งใช้สิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ที่พึงมี โดยการใช้เรือนร่างของตัวเองในการทำมาหากินยังไม่สามารถทำได้อีกหรือ

หรือมองไปไกลกว่านั้น ในประเทศที่เปิดกว้างและอนุญาตให้มีการถ่ายทำคลิปเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์ในเชิงพาณิชย์เป็นเรื่องเป็นราว มี sex worker ที่ได้รับการยอมรับและถูกกฎหมาย นำมาซึ่งเม็ดเงินมหาศาลเข้าประเทศ

ทำไมไม่มีการกล่าวอ้างว่าขัดกับศีลธรรมอันดีงามของประเทศแต่อย่างใด

กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในครั้งนี้ยังรวมไปถึงการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่แลดูจะเล่นใหญ่เกินเรื่อง รีบดำเนินการจับกุมหญิงสาวตัวเล็กๆ ประหนึ่งว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาระดับประเทศ

ในขณะที่ปัญหายาเสพติด คอร์รัปชั่น พยายามฆ่า หรือแม้แต่การข่มขืน การล่วงละเมิดทางเพศที่เห็นตามหน้าข่าวรายวัน กลับไม่ได้รับการดำเนินการอย่างรวดเร็วและทันท่วงทีดังเช่นกรณีของน้องไข่เน่าแม้แต่น้อย

ลามไปจนถึงการตั้งคำถามในเชิงกล่าวหาว่า เพราะตำรวจไม่สามารถหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้ได้ ถึงรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม?

 

ก่อนหน้านี้ เซ็กซ์ครีเอเตอร์รายหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันเลิกทำอาชีพนี้ไปแล้ว เล่าว่า เซ็กซ์ครีเอเตอร์หลายคนประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากการลงผลงานใน OnlyFans

บางคนมีรายได้จากการทำคลิป 18+ ตกหลักแสนบาทต่อเดือน

แต่ก็ต้องแลกกับปัญหาหลายอย่างที่ตามมา อาทิ กฎหมายที่ยังไม่รองรับ ถูกคุกคามทางเพศผ่านข้อความและรูปภาพ

ซึ่งกลุ่มเซ็กซ์ครีเอเตอร์เหล่านี้ล้วนอยากผลักดันให้อาชีพ sex worker เปิดกว้างและได้รับการยอมรับจากสังคมอย่างเท่าเทียมกับอาชีพอื่น

“คนไทยจริงๆ ไม่ได้ไม่ชอบนะ เขาแค่ต้องคีฟลุคตัวเอง ว่าไม่ได้ ฉันเข้าวัดทำบุญ ฉันไม่ชอบเรื่องอะไรอย่างนี้หรอก ขาดการยอมรับว่าเรื่องเซ็กซ์ เรื่องอย่างว่า มันเป็นเรื่องที่พูดคุยกันได้ เอาออกมาทำให้มันดีๆ ได้ แต่เอาเราไปรวมกับพวกคลิปหลุด คลิปข่มขืน จะมองว่าการทำคลิปขาย ส่งเสริมอย่างนู้นอย่างนี้ คือหนังโป๊มันเป็นอะไรที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม ฉะนั้น เราก็อยู่ในแพลตฟอร์มที่กำหนดอายุคนเข้ามาดูอยู่แล้ว แล้วคุณจะมาบอกว่าเราส่งเสริมให้เด็กไปทำอย่างนู้นอย่างนี้ก็ไม่ถูก”

“sex worker ถ้าทำให้มันถูกกฎหมาย มันจะเป็นการชำระล้างทั้งระบบไปเลย แล้วการสอนเรื่องเซ็กซ์ มันจะพูดถึงได้ง่ายกว่า ทำให้คนไทยมีความเข้าใจในทางที่ถูก ถามว่ามันมีจริงๆ ไหม คนที่เขาพร้อมจะขายตัวเองด้านนี้ มันมี มีเยอะเลยด้วย ถ้าเขาเต็มใจเราก็ควรจะมีกฎหมายรองรับ มีสวัสดิการให้เขา มีการตรวจโรค ในส่วนของคนที่เป็น คอนเทนต์ครีเอเตอร์ด้านเซ็กซ์ อาจจะต้องเป็นอีกฎหมายหนึ่ง ให้เขาคุ้มครองสิทธิ์ในส่วนที่เขาทำคลิปออกมา”

อดีตเซ็กซ์ครีเอเตอร์กล่าว

 

ขณะที่ “แนท เกศริน” นางแบบสาวชื่อดังผู้ที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวง 18+ มานาน ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว ผ่านการคอมเมนต์ในโพสต์ของเพจ Drama-addict โดยระบุว่า คอนเทนต์ก็บอกอยู่แล้ว 18+ ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของคอนเทนต์ในการนำเสนอ อีกอย่าง OnlyFans ไม่ได้เป็นกลุ่มเปิด ใครสนใจก็ต้องเสียเงินเข้าไปชม เพื่อซื้อคลิป แต่คนขายคลิปต้องทำใจยอมรับสภาพว่าคลิปที่คุณขายไม่มีทางที่คนซื้อจะไม่มีทางไปขายต่อที่อื่น ต้องเลือกและตัดสินใจให้ดีๆ

“คนทำคอนเทนต์ใช่ทุกคนจะนำเสนอคลิปลามกอนาจารเสมอไปทุกคน เพราะฉะนั้น ไม่ควรปิดกั้นช่องทางเหล่านั้น เพราะช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจไม่ดี ก็เห็นน้องๆ หลายคนหันมาทำคอนเทนต์ เพื่อสร้างรายได้ที่หายไป และหลายคนก็แค่ทำแนวเซ็กซี่ทั่วไป ตอนนี้โซเชียลเปิดกว้าง เราต้องเข้าใจตรงจุดนี้ อย่าแก้ที่ปลายเหตุ คุณปิดไปเดี๋ยวก็มีเปิดใหม่ขึ้นมาอีก ทำให้ถูกต้อง และอยู่ในกรอบก็จะมีประโยชน์แก่หลายๆ คนมากกว่าโทษ”

“สิ่งสำคัญ ตราบใดที่ไทยยังมีหนังเน็ตฟลิกซ์ ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เรามีหนังแนวผู้ใหญ่ฉาย แบบนั้นเด็กเล็กที่ยังไม่ถึง 18 ยังหาดูและเปิดง่ายกว่าแพลตฟอร์มแบบนี้”

 

ผศ.ดร.อดิศร จันทรสุข รักษาการแทนรองคณบดี คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า ระหว่างเว็บสำหรับช่วยตัวเองกับเว็บสำหรับเล่นพนัน อะไรเป็นภัยต่อสังคมมากกว่ากันครับ สังคมนี้มันช่างเต็มไปด้วยคนดัดจริตทางศีลธรรม

ท้ายที่สุดแล้วผลสรุปเรื่องนี้ก็วนมาที่การตั้งคำถามว่าสังคมไทยยังคงเป็นสังคมปากว่า ตาขยิบ กับเรื่อง 18+ เหมือนเดิม

ปากบอกต้องรักษาศีลธรรมอันดีงาม แต่พอมีข่าวคลิปหลุด ก็ถามหาวาร์ปเพื่อรับชม

หรือละครบางเรื่องก็ยังฉายภาพฉากข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

คนบันเทิงบางคนยังสนุกกับการเล่นมุขคุกคามทางเพศอยู่

หรือแม้แต่ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติก็เคยเปิดรูปเปลือยเด็กในสภาจนเป็นข่าวโด่งดังมาแล้ว

และหากจะพูดแบบไม่หลอกตัวเอง มุมมองของคนต่างชาติ หากเอ่ยถึงประเทศไทย นอกจากเรื่องของอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว sex worker ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต่างชาตินึกออกด้วยซ้ำไป

นี่คือ ฉากของสังคมมือถือสาก ปากถือศีลแบบไทยๆ?!?