แกะรอยอดีต ทีม ‘บิ๊กป้อม-บิ๊กน้อย-ธรรมนัส’ ลั่น ไม่หักหลังพี่น้อง ‘แอร์บูล’ ไร้สัญญาใจ ‘บิ๊กป้อง’ สร้างสามัคคี เล็ง Little Joe-Canon-Armstrong กับ 4 ฉลามในมือ ‘บิ๊กเฒ่า’/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

 

แกะรอยอดีต

ทีม ‘บิ๊กป้อม-บิ๊กน้อย-ธรรมนัส’

ลั่น ไม่หักหลังพี่น้อง

‘แอร์บูล’ ไร้สัญญาใจ

‘บิ๊กป้อง’ สร้างสามัคคี

เล็ง Little Joe-Canon-Armstrong

กับ 4 ฉลามในมือ ‘บิ๊กเฒ่า’

 

แม้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม จะพยายามกลบเกลื่อนรอยร้าวกับบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อันเป็นผลพวงจากการปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และนฤมล ภิญโญสินวัฒน์

แต่รอยแตกร้าวยิ่งลึก

พล.อ.ประยุทธ์ปลดทิ้ง แต่ พล.อ.ประวิตร พี่ใหญ่กลับยังโอ๋ งอนง้อให้ 2 คนนี่ช่วยงานต่อ โดยไม่ยอมให้ลาออกจากพรรค

เสมือนแยกวง แยกอาณาจักรกันอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นการฉายภาพความขัดแย้ง

จึงทำให้การที่ พล.อ.ประวิตรตั้งบิ๊กน้อย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา มาเป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ จึงถูกมองว่า เปิดตัวทายาททางการเมือง แถมเตรียมตั้งเป็นเลขานุการคณะกรรมการโอลิมปิคฯ เพิ่มบารมีในวงการอีกตำแหน่ง

แม้ พล.อ.วิชญ์จะปฏิเสธว่า พล.อ.ประวิตรไม่เคยบอกว่าจะให้เป็นหัวหน้าพรรคในอนาคต เพราะไม่เคยหวังตำแหน่ง มาช่วยเพราะสงสารพี่ป้อม ไม่มีใครที่ไว้ใจ และมองตารู้ใจ

แต่นาทีนี้ พล.อ.วิชญ์ถูกมองว่าจะเป็นหัวหน้าพรรค พปชร. เมื่อ พล.อ.ประวิตรถอยไปอยู่เบื้องหลัง และนั่นหมายถึง มีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ของพรรค พปชร.ด้วย อยู่ที่ว่า เวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์จะไปต่อ หรือขอพักผ่อน หรืออาจเสนอชื่อทั้งบิ๊กตู่และบิ๊กน้อย

พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา

หากดูโปรไฟล์ พล.อ.วิชญ์ก็ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นลูกชาย พล.อ.ยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตรอง ผบ.ทบ. และ รมช.กลาโหม ถือเป็นราชสกุล สมัยเด็กๆ เรียนโรงเรียนวชิราวุธฯ เป็นนักรักบี้ของโรงเรียน ด้วยรูปร่างหน้าที่สมาร์ต หล่อเหลา จึงเป็นดาวเด่นของโรงเรียนจนเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น11 และ จปร.22 และเป็นนักรักบี้ทีมชาติด้วย

สมัยนั้น เวลา พล.อ.วิชญ์แข่งรักบี้ นอกจากมีแฟนคลับไปเชียร์ข้างสนามแล้ว ก็มีเสธ.ไอ๊ซ์ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต และเพื่อนๆ ลูกทหารที่อยู่ซอยพิบูลย์วัฒนาเหมือนกัน ไปเชียร์ เพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน ก่อนที่จะไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารด้วยซ้ำ จึงสนิทสนม แม้ไม่ใช่ทหารม้า

ดังนั้น ในแวดวง พล.อ.ไตรรงค์ นายทหารผู้กว้างขวาง จึงรู้จัก พล.อ.วิชญ์หมด เพราะเป็นเพื่อน ตท.11 ของเสธ.ไอ๊ซ์ด้วย เพราะเข้า ตท.10 แต่มาจบ ตท.11 จึงยิ่งสนิทกับ พล.อ.วิชญ์

 

จึงไม่แปลกที่ พล.อ.วิชญ์จะเป็นที่เคารพรักนับถือของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ตั้งแต่สมัยเสธ.ไอ๊ซ์ยังเรืองอำนาจ และมีชีวิตอยู่ เพราะ ร.อ.ธรรมนัสก็เป็นทายาทในวงการที่เสธ.ไอ๊ซ์วางเอาไว้

หลังการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ร.อ.ธรรมนัสถูก คสช.ประกบและอายัดทรัพย์ เพราะอยู่ฝั่งทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ในเวลานั้น ทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่รู้จัก ร.อ.ธรรมนัสดีเพราะเป็นเพื่อน ตท.10 กับเสธ.ไอ๊ซ์ จึงเจรจาให้ ร.อ.ธรรมนัสอยู่นิ่งๆ ห้ามต่อต้าน

จากนั้นทั้ง พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ประยุทธ์ก็โทร.มาพูดคุยด้วย ก่อนที่ต่อมาจะชักขวนให้ย้ายมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ ให้มาช่วยกันทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง เพราะเป็นสายเลือด จปร.ด้วยกัน

อีกทั้งมี พล.อ.วิชญ์มาช่วยเจรจาอีกแรง และให้คุยกับ พล.อ.ประวิตร จึงทำให้ ร.อ.ธรรมนัสจำเสมอว่า ที่เข้ามา พปชร.เพราะ พล.อ.ประวิตร เมื่อ พล.อ.วิชญ์เป็นน้องรัก พล.อ.ประวิตร ร.อ.ธรรมนัสก็รักและเคารพด้วย

ความสัมพันธ์ในอดีตของ พล.อ.วิชญ์ กับ ร.อ.ธรรมนัส จึงทำให้วันนี้ถูกจับตามองว่า จะมายึดพรรค พปชร. ตีกัน พล.อ.ประยุทธ์ ที่อาจจะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคในอีกไม่ช้า

ดังนั้น หลังโดนปลดจาก รมช.เกษตรฯ ร.อ.ธรรมนัสจึงยอมเป็นเลขาฯ พปชร.ต่อตามที่ พล.อ.ประวิตรขอ และช่วยสู้ศึกเลือกตั้งต่อนั่นเอง

ในแง่ความสัมพันธ์กับ พล.อ.ประวิตรที่ยาวนานราว 30 ปีนั้น แม้จะโตมาจาก พล.ร.9 กาญจนบุรี แต่ พล.อ.วิชญ์ก็ถือเป็นบูรพาพยัคฆ์อีกคน แต่ทว่าเป็นทหารพรานบูรพาพยัคฆ์ ที่มาเป็นนักรบทหารพรานชุดดำ อยู่กรมทหารพรานที่ 12 อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สระแก้ว ปราจีนบุรี ในสมัยที่ พล.อ.ประวิตรเป็นผู้การกรม

จึงทำงานชายแดน ปราบโจรเขมรที่ข้ามมาปล้นราษฎรไทยด้วยกัน โดยเฉพาะการลาดตระเวนตามถนนศรีเพ็ญ ถนนสายความมั่นคงเลียบชายแดน จนเป็นน้องรัก เพราะมองว่าเป็นลูกผู้ใหญ่ แต่ติดดิน ลุยสู้เหมือนกัน

จากนั้น ก็ดูแลใกล้ชิดเป็นน้องรักของ พล.อ.ประวิตรเรื่อยมา แม้จะย้ายมาอยู่ ร.1 พัน 3 รอ.ก็ตาม ก่อนจะเติบโตในกองทัพภาคที่ 1 จนเป็น ผบ.มทบ.14 ผบ.มทบ.11 รองแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพน้อยที่ 1

แต่ทว่าหลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แม่ทัพภาคที่ 1 ที่เป็นแกนนำรัฐประหาร ก็หนุน พล.อ.ประยุทธ์รุ่นน้อง ตท.12 รองแม่ทัพภาคที่ 1 ขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 เข้าไลน์เลย แล้วเตะ พล.อ.วิชญ์ข้ามไปเป็นพลเอก ที่ปรึกษา สปท. ที่ บก.ทัพไทย

ก่อนที่จะกลับมาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ. และเป็น ผช.ผบ.ทบ. นั่ง 5 เสือ ทบ. ในยุคที่ พล.อ.อนุพงษ์เป็น ผบ.ทบ. แต่ทว่าในเวลานั้น ตามไม่ทัน พล.อ.ประยุทธ์แล้ว เพราะขึ้นจากเสธ.ทบ. มาเป็นรอง ผบ.ทบ. ครองอัตราจอมพล จ่อเป็น ผบ.ทบ.ไว้แล้ว แม้จะเหลืออายุราชการอีก 5 ปีในตอนนั้น ไม่เปิดโอกาสให้ พล.อ.วิชญ์ เพราะแม้จะเป็นน้องรักบิ๊กป้อม แต่ก็ไม่ใช่พี่น้อง 3 ป.

และเมื่อ พล.อ.อนุพงษ์เกษียณในปีต่อมา 2553 พล.อ.ประยุทธ์ก็ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.และนั่งยาว 4 ปี จนนำรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 และเป็นนายกฯ จนปัจจุบัน

ส่วน พล.อ.วิชญ์เป็นประธานที่ปรึกษา ทบ.ในปีสุดท้ายก่อนเกษียณ

เรื่องในกองทัพในอดีต จึงถูกจับตามองว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคู่ขัดแย้งกับ พล.อ.วิชญ์

แต่ พล.อ.วิชญ์ยืนยันว่า ตนเองกับ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ขัดแย้ง เพราะเป็นน้องบิ๊กป้อมเหมือนกัน นายกฯ เรียกตนเองว่าพี่น้อยตลอด มีอะไรก็ช่วยกัน ตอน พล.อ.ประยุทธ์เป็น ผบ.ทบ. สั่งงานอะไร พล.อ.วิชญ์ก็ทำให้ทุกเรื่อง

ส่วนที่มองว่า ผมจะเป็นหัวหน้าพรรค เป็นนายกฯ ในอนาคตนั้น “ไม่มี พี่ป้อมไม่เคยพูดเรื่องนี้ ผมก็ไม่คาดหวัง ไม่เคยหวังตำแหน่งอะไร แค่มาช่วยพี่ป้อม และได้คุยกับนายกฯ แล้วว่า พี่น้องกัน ช่วยกันทำงาน เพื่อชาติบ้านเมือง ไม่มีวันหักหลังกัน” พล.อ.วิชญ์กล่าว

แม้ว่า พล.อ.วิชญ์จะเป็นสมาชิกพรรค พปชร.มา 2 ปีแล้ว ก็ใช่ว่าวางแผนจะมาเล่นการเมือง แต่เพราะตอนที่ พล.อ.ประวิตรสมัครสมาชิกพรรค และเป็นหัวหน้าพรรค ก็ขอให้ พล.อ.วิชญ์สมัครเป็นสมาชิกพรรคไว้ด้วย

แม้ว่าหลังเกษียณ พล.อ.วิชญ์จะช่วยงานในมูลนิธิป่ารอยต่อฯ และงานในวงการกีฬาให้ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เกี่ยวกับงานการเมือง แต่ในวงการกีฬา ก็มีการเมืองไม่แพ้กัน ส่วนงานการเมืองนั้น พล.อ.วิชญ์ก็รับรู้ตลอดเพราะ พล.อ.ประวิตรเล่าให้ฟัง

อีกทั้งยังเป็นมือทำงานของ พล.อ.ประวิตร ในการไปยึดราชตฤณมัยสมาคม จน พล.อ.วิชญ์นั่งเป็นเลขาฯ แทนเสธ.อ้าย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ที่นั่งมายาวนาน

อีกทั้งชีวิตของการเป็นลูก พล.อ.ยศ ก็เรียนรู้เกมการเมืองในกองทัพมาตั้งแต่สมัยบิดา พล.อ.วิชญ์จึงไม่ได้ห่างจากการเมืองเลย

 

ตอนนี้ ถึงเวลาที่ พล.อ.วิชญ์ต้องลงสนามการเมืองเอง เคียงข้างพี่ป้อม ในฐานะน้องรัก ที่มองตารู้ใจ หลังจากที่เกิดปัญหาทางใจกับ พล.อ.ประยุทธ์ หลังการปลด ร.อ.ธรรมนัสและนฤมล

แม้พี่น้อง 3 ป.จะยังรักกัน สู้ไปด้วยกันต่อ แสดงความรักใคร่กลมเกลียวให้เห็น และถึงขั้นที่ พล.อ.ประวิตรบอกว่า ตายจากกันเท่านั้น เรา 3 ป.ถึงจะเลิกรักกันก็ตาม

แต่ในใจของทั้งพี่ใหญ่และน้องเล็กนั้น ไม่เหมือนเดิมแล้ว หลัง พล.อ.ประยุทธ์ปฏิบัติการต้านปฏิวัติเงียบกลางสภา ที่มีพยานหลักฐาน และเชื่อว่า ร.อ.ธรรมนัสเกี่ยวข้องจริง แม้ พล.อ.ประวิตรยืนกรานไม่มี แต่ พล.อ.ประยุทธ์ปลด ร.อ.ธรรมนัส ก็สะท้อนแล้วว่าไม่เชื่อพี่

เพราะจากแผนล้มนายกฯ ในสภาของ ร.อ.ธรรมนัส ยังคาใจ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ว่า พี่ใหญ่รู้เรื่องด้วยหรือไม่ เพราะงานนี้บิ๊กตู่ตรวจสอบเองคุยเอง นอกเหนือจากใช้เสธ.อ้น พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา ส.ว.สายบิ๊กตู่ ตรวจสอบและแก้เกม

ตัวละครใหม่ที่บิ๊กป้อมเปิดตัวมาอย่าง พล.อ.วิชญ์ จึงถูกจับตามอง เพราะการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน

พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์,พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์

ในขณะที่ในกองทัพก็ไม่มีอะไรแน่นอน หลังโผโยกย้ายประกาศออกมา จนทำให้ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผบ.ทอ. ที่กำลังเคาต์ดาวน์เกษียณในอีกไม่กี่วัน ถูกจับตามองว่า กับบิ๊กป้อง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ.คนใหม่นั้นมีสัญญาใจ หรือสัญญาใดๆ ต่อกันหรือไม่ ว่าจะต้องดันใครขึ้นเป็น ผบ.ทอ.

เพราะในโผนี้ จะดึงบิ๊กป้อม พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ รองเสธ.ทหาร กลับจาก บก.ทัพไทย มาเป็นรอง ผบ.ทอ.จ่อไว้แล้ว

“ไม่มีสัญญาใจอะไรทั้งนั้น เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับ ผบ.ทอ.คนใหม่” พล.อ.อ.แอร์บูลสยบข่าว

เพราะเชื่อว่า พล.อ.อ.นภาเดชจะยึดหลักการเช่นเดียวกัน เพราะการที่เลือกเสนอชื่อ พล.อ.อ.นภาเดชเป็น ผบ.ทอ.นั้น เพราะอาวุโสสูงสุด เป็นประธานที่ปรึกษา ทอ. อัตราพลอากาศเอกพิเศษ

ที่สำคัญคือ คุณสมบัติครบถ้วนทุกประการ และทำงานมาหลายหน่วยใน ทอ. และมีความเป็นทหารอากาศเต็มตัว

พร้อมชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ที่ไม่แม้แต่จะถาม หรือเสนอชื่อนายทหารอากาศคนใดให้พิจารณา ตามที่มีกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้ว่า นายกฯ สนับสนุนใคร เสนอขึ้นมาอย่างไร ก็เป็นไปตามนั้น

พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ

และที่ พล.อ.อ.แอร์บูลต้องชื่นชมคือ บิ๊กตั้ว พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์ วัฒนวรางกูร ผบ.คปอ. ที่ถูกโยกออกไปเป็นรองปลัดกลาโหม

เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า เป็นเพื่อนรักเตรียมทหาร 21 เขาเป็นสุภาพบุรุษมาก นับถือน้ำใจเขามาก ไม่เคยมากดดัน หรือเจรจาอะไรเลย

ส่วนบางคนที่ไม่ได้ขึ้นมานั้น เพราะได้พิจารณาแล้วว่า ต้องเป็นไปตามอาวุโส ตามสเต็ป ถ้าเรารีบดันใครขึ้นมาเร็วจนเกินไป จะไม่เป็นผลดีต่อผู้รับตำแหน่ง

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ พล.อ.อ.แอร์บูลไม่ได้กันบิ๊กเบิร์ท พล.อ.ท.อนันตชัย แก้วศรีงาม ขึ้นมาเป็นรองเสธ.ทอ. เพราะจากเจ้ากรมส่งกำลังบำรุง ทอ. ก็ต้องขึ้นรองเสธ.ทอ.ก่อน

ดังนั้น พล.อ.อ.แอร์บูลจึงเลือกเสธ.ทอ. จากรองเสธ.ทอ. และก็เป็นบิ๊กไก่ พล.อ.ท.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ที่ได้ขึ้นมาเป็นเสธ.ทอ.คนใหม่

แถมถูกจับตามองด้วยว่า เป็นแคนดิเดต ผบ.ทอ.ด้วยอีกคน นอกเหนือจากบิ๊กหนึ่ง พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา (ตท.23) เสธ.ทอ. ที่ขึ้นมาเป็น ผช.ผบ.ทอ. และ พล.อ.อ.ธนศักดิ์ (ตท.22) ที่ครองอาวุโส รอง ผบ.ทอ. อัตราพลอากาศเอกพิเศษ เสียบจ่อรออยู่แล้ว

พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา,พล.อ.ท.พันธ์ภักดี พัฒนกุล

ทั้ง พล.อ.อ.ธนศักดิ์ และ พล.อ.อ.ชานนท์ เกษียณ 2567 ขณะที่ ว่าที่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี (ตท.24) เกษียณ 2568

พล.อ.อ.ธนศักดิ์จึงได้เปรียบที่ครองอาวุโส เสียบจ่อไว้แล้ว

แต่เสียเปรียบแคนดิเดตคนอื่นที่เป็นนักบินขับไล่ F16 ส่วน พล.อ.อ.ธนศักดิ์เป็นนักบินเครื่องบิน OV-10 เครื่องบินโจมตี จึงไม่มี Call Sign นามเรียกขานแบบนักบินขับไล่ แต่มี Call Sign ที่เรียกกันในหมู่พี่น้องนักบินว่า Little Joe เพราะสมัยหนุ่มๆ หน้าตาออกแนวฝรั่ง แต่ตัวเล็ก

แต่ทว่า ในอดีตมี ผบ.ทอ.หลายคนที่ไม่ใช่นักบินขับไล่ไอพ่นตระกูล F เช่น พล.อ.อ.แอร์บูลก็เป็นนักบินลำเลียง C-130 พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง พล.อ.อ.สนั่น ทั่วทิพย์ บิน C-123 หรือยุคเก่า อย่างบิ๊กเต้ พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล ก็บินลำเลียง C-123 พล.อ.อ.ปอง มณีศิลป์ พล.อ.อ.ธนนิตย์ เนียมทันต์ ก็บิน OV10

เพราะตามธรรมเนียม ทอ. จะตัองเป็นนักบินเท่านั้น ไม่เกี่ยงว่าเครื่องบินอะไร และต้องเป็นผู้ฝูง ผู้การกองบิน และเป็น ผช.ทูตทหารอากาศในต่างประเทศมา

 

พล.อ.อ.ธนศักดิ์เคยเป็น ผช.ทูตทหารอากาศ ประจำวอชิงตัน ดี.ซี. ก่อนหน้านั้น เคยเป็นผู้ฝูง 561 กองบิน 56 หาดใหญ่ และไปเป็นรองผู้การกองบิน 41 เชียงใหม่ และเป็น ผอ.กองยุทธการ กลับจากสหรัฐ ก็เป็นรองเจ้ากรมยุทธการ ทอ. และเจ้ากรมยุทธการ ทอ. ขึ้นรองเสธ.ทอ. แต่ถูก พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ตอนเป็น ผบ.ทอ. เตะออกไปอยู่ บก.ทัพไทย เป็นรองเสธ.ทหาร 1 ปี แล้วข้ามกลับมาเป็นรอง ผบ.ทอ.

ส่วน พล.อ.อ.ชานนท์เป็นทั้งนักบิน F5 และ F16 มี Call Sign “Canon” เพราะมองเผินๆ คล้ายๆ ชื่อ Chanon ชานนท์ในภาษาอังกฤษ เคยเป็นผู้ฝูง 103 และ ผบ.กองบิน 4 และ ผช.ทูตทหารอากาศ สวีเดน เป็นเจ้ากรมข่าว ทอ. เจ้ากรมยุทธการ ทอ. รองเสธ.ทอ. เป็นเสธ.ทอ. และ ผช.ผบ.ทอ.

แต่เป็นที่จับตาว่า จะล้างอาถรรพ์ผู้การกองบิน 4 ที่ไม่เคยได้เป็น ผบ.ทอ.เลย ได้หรือไม่ เพราะโอกาสน้อยลงมาก เมื่อมี Little Joe ข้ามกลับมาเสียบรอง ผบ.ทอ.

ส่วน ว่าที่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี เป็นนักบิน F5 และ F16 มี Call Sign ว่า Armstrong เพราะชอบดึง 9 G เวลาบิน ราวกับจะพุ่งออกไปอวกาศ จนครูฝึกศิษย์พี่บ่นเลยทีเดียว

ผ่านทั้งการเป็นผู้บังคับฝูงบิน 403 กองบิน 4 ผู้บังคับการกองบิน 7 ผู้ช่วยทูต ทอ.ไทยประจำกรุงลอนดอน อังกฤษ เจ้ากรมข่าวทหารอากาศ รองเสธ.ทอ. และขึ้นเสธ.ทอ. และเคยเป็นนักบิน ทอ.ไทย 1 ใน 2 คนแรกที่ไปบิน Gripen ที่สวีเดน พร้อมกับบิ๊กเจ๋ง พล.อ.ท.มนัส ชวนะประยูร รองเสธ.ทอ.

 

จึงต้องจับตาการตัดสินใจของ พล.อ.อ.นภาเดช ที่เป็นนักบิน F16 ว่าจะมีมุมมองอย่างไร จะสนับสนุนนักบิน F16 ให้เป็น ผบ.ทอ.หรือไม่ แม้ พล.อ.อ.แอร์บูลจะดัน พล.อ.อ.ธนศักดิ์ที่ไม่ใช่นักบินตระกูลเอฟ ขึ้นมาจ่อ

เพราะในหมู่นักบินขับไล่ ก็ว่า รร.การบินมีระบบการให้คะแนน และดูหลายด้าน คัดตัวมาให้แล้วว่า จากการที่ศิษย์การบินคนใดจะเป็นนักบินขับไล่ หรือลำเลียง

อีกทั้งย้อนไป อดีต ผบ.ทอ.ส่วนใหญ่มาจากนักบินขับไล่ตระกูลเอฟ

ตั้งแต่บิ๊กอู๊ด พล.อ.อ.วรนารถ อภิจารี บิ๊กกันต์ พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ บิ๊กหม่อม พล.อ.อ.ม.ร.ว.ศิริพงษ์ ทองใหญ่ พล.อ.อ.อมร แนวมาลี บิ๊กบิ๊ก พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา บิ๊กต๋อย พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข บิ๊กจอม พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ที่เป็นนักบิน F5 บิ๊กเฟื่อง พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง บิ๊กต่าย พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน

และมา พล.อ.อ.นภาเดชที่เป็น ผบ.ทอ.คนที่ 4 ที่เป็นนักบิน F16

 

กองทัพอากาศจึงน่าจับตามองยิ่ง เพราะคู่ขัดแย้งทั้ง พล.อ.อ.มานัต และ พล.อ.อ.แอร์บูล ก็พ้นจาก ทอ.ไปแล้วทั้งคู่ แต่ยังมีการวางตัวทายาท และวางหมากสกัดทายาทของอีกฝ่ายเอาไว้ด้วย เช่น เอา พล.อ.อ.ธนศักดิ์มานั่ง ผบ.ทอ. แซงหน้า พล.อ.อ.ชานนท์ แต่ดีที่ทั้ง พล.อ.อ.ธนศักดิ์ และ พล.อ.อ.ชานนท์ นั้นสนิทสนมรักใคร่กันดี

อีกทั้ง พล.อ.อ.นภาเดช Call Sign “Snowy” ก็จะลดอุณหภูมิร้อนของทุ่งดอนเมืองด้วยความรักสามัคคี เพราะยึดม็อตโต้ประจำใจที่ใช้มากว่า 20 ปีแล้วว่า “จงรักภักดี สำนึกหน้าที่ สามัคคี เสียสละ”

“พวกเราพร้อมจะก้าวเดินต่อไป ที่ผ่านมาก็ให้ผ่านไป พวกเราที่ยังอยู่ ก็เริ่มกันใหม่ด้วยความรัก ความสามัคคี เพราะความสามัคคีกลมเกลียว เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนั้น คือสิ่งที่สำคัญที่สุดของหน่วยทหาร” พล.อ.อ.นภาเดชกล่าว

เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่ความขัดแย้ง แต่เป็นความคิดเห็น และแนวทางในการสร้างความเจริญให้กองทัพอากาศที่อาจจะแตกต่างกันไป

“ผมจะพยายามพัฒนากองทัพอากาศในทุกๆ ด้านให้มีเครื่องไม้เครื่องมือ อาวุธยุทโธปกรณ์ อาคารสถานที่ และวิทยาการที่ทันสมัย ปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเป็นธรรม ดูแลทุกข์สุข ชีวิตความเป็นอยู่ และเป็นที่พึ่งให้พวกเขา เน้นสวัสดิการและการบำรุงขวัญแก่ข้าราชการและครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการชั้นผู้น้อย”

คือความตั้งใจและปณิธานของว่าที่ ผบ.ทอ.คนใหม่

พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ -พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข

ขณะที่กองทัพเรือก็ถูกมองว่า มี “สัญญาใจ” กันหรือไม่ ระหว่างเพื่อนรัก ตท.20 บิ๊กอุ้ย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร. ที่กำลังจะเกษียณ กับบิ๊กเฒ่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ว่าที่ ผบ.ทร.คนใหม่

เพราะ พล.ร.อ.ชาติชายเคยเสนอชื่อบิ๊กโต้ง พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ เสธ.ทร. รุ่นน้อง ตท.21 ขึ้นเป็น ผบ.ทร.คนใหม่ แต่ต้องเปลี่ยนเป็น พล.ร.อ.สมประสงค์ ตามที่กลาโหมเสนอมา

จึงทำให้จับตามองกันว่า พล.ร.อ.สมประสงค์จะส่งต่อเก้าอี้ ผบ.ทร.ให้ พล.ร.อ.ธีรกุลหรือไม่ เพราะยังเหลืออายุราชการถึงกันยายน 2566 ได้นั่ง 1 ปี

แต่มีประเด็นที่ว่า พล.ร.อ.ธีรกุลเป็นทายาทของบิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีต ผบ.ทร. ที่วางตัวเอาไว้ ก็อาจจะทำให้ พล.ร.อ.สมประสงค์ไม่สนับสนุน เพราะตัวเขาเองโดน พล.ร.อ.ลือชัยเตะข้ามไปเป็นรองปลัดกลาโหมถึง 2 ปี แม้จะพยายามจะกลับมา ทร.แต่ก็โดนคัดค้าน

กล่าวกันว่า การที่ พล.ร.อ.ชาติชายเสนอชื่อ พล.ร.อ.ธีรกุล ส่วนหนึ่งก็เพราะเป็นน้องรักของ พล.ร.อ.ลือชัยที่เคยสนับสนุน พล.ร.อ.ชาติชายเป็น ผบ.ทร.ด้วย

 

ขณะที่บิ๊กปู พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ (ตท.22) ผบ.กองเรือยุทธการ ที่ขึ้นมาเป็น ผช.ผบ.ทร. ก็ยังลุ้นเก้าอี้แม่ทัพเรือได้ แต่ก็แรงแผ่ว แถมยังมีภาพของการเป็นน้องเลิฟของบิ๊กลือเสียอีก

จึงทำให้บิ๊กแจ๊ค ว่าที่ พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ (ตท.23) ว่าที่เสธ.ทร.คนใหม่ น่าจับตามอง แม้จะเหลืออายุราชการถึง 2566 เท่ากัน แต่เพราะโปรไฟล์ก็ไม่น้อยหน้าใคร

แถมเป็นไปตามธรรมเนียมทหารเรือ ที่เคยเป็นผู้การเรือ แม้จะเป็นเรือ ต.110 ก็ตาม และเคยเป็น ผช.ทูตทหารเรือที่อินเดีย และโตในสายยุทธการ จนเป็นเจ้ากรมยุทธการ ทร. รองเสธ.ทร. และขึ้นเสธ.ทร.

อีกทั้งการเป็นเสธ.ทร. จะได้เปรียบในเรื่องการทำงาน เพราะรับงานสำคัญทุกเรื่อง และความใกล้ชิดในการทำงานกับ ผบ.ทร.

ขณะที่ “บิ๊กวิน” ว่าที่ พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ที่ได้ขยับขึ้นพลเรือเอก เป็น ผบ.กองเรือยุทธการ คุมกำลังรบทางเรือ หากดูโปรไฟล์ ก็ถือว่าไม่ธรรมดา ถึงขั้นถูกจับตามองว่าจะขึ้นถึง ผบ.ทร. ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นผู้บังคับการเรือหลวงจักรีนฤเบศร ที่ถือเป็นเรือธง เรือพระเอกของ ทร.แถมเป็นนาน 5 ปี จนยังถูกเรียกติดปากว่า “ผู้การวิน” จนปัจจุบัน

เพราะเติบโตมาจากสายคอมมานด์ ทั้งเป็นกำลังพลรบเรือ รล.กระบุรี จากจีน และ รล.จักรีนฤเบศร ที่สเปน และเคยเป็นผู้บังคับการเรือใหญ่ ทั้งเรือหลวงปิ่นเกล้า เรือหลวงสุโขทัย และเรือหลวงจักรีนฤเบศร และเคยเป็นผู้ช่วยทูตทหารเรือ ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ เคยเป็น ผบ.กองเรือลำน้ำ และ ผบ.ฐานทัพเรือกรุงเทพฯ

แถมจบหลักสูตรยุทธการทางเรือจากอังกฤษ หลักสูตรยุทธวิธีเรือผิวน้ำจากสหรัฐ จบปริญญาโท รามคำแหง และ วปอ.ออสเตรเลีย และ วปอ. 61 และ นธป. 9 และเป็นน้องชายของบิ๊กปั๊ด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.

ด้วยดีกรีที่ครบเรื่อง จึงทำให้ถูกดึงตัวมาเป็นฝ่ายเสธ.ของ ผบ.ทร.ถึง 3 คน คือ บิ๊กหรุ่น พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ บิ๊กนุ้ย พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ และมาบิ๊กอุ้ย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน

แต่ด้วยอายุราชการถึง 2568 และรุ่น ตท.25 จึงอาจทำให้ถูกมองว่า ควรให้นายทหารรุ่นพี่ที่จะเกษียณขึ้นก่อน

อีกทั้ง พล.ร.อ.สมประสงค์อาจมีทายาทในใจแล้ว และโยกย้ายเมษายน 2565 อาจจะดันขึ้นมาจ่อ รอขึ้นโยกย้ายปลายปีหน้า ต่อจากตนเองเลยก็เป็นได้

พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ -พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์

แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า หากมองภาพรวมกองทัพ จากโผนี้มีการดันนายทหาร ตท.24 ที่มีอายุราชการเหลือ 3-5 ปีขึ้นมาจ่อ ทั้งบิ๊กหนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ลูกรักบิ๊กป้อม ที่ขึ้นมาเป็นรองปลัดกลาโหม จ่อเป็นปลัดกลาโหมในปลายปีหน้า ก็เกษียณ 2568 นั่งยาว 3 ปี เหมือน พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ก็เป็นปลัดกลาโหม 3 ปีเต็ม

รวมทั้งบิ๊กไก่ ว่าที่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี เสธ.ทอ.คนใหม่ ก็ ตท.24 เกษียณ 2568 ก็ลุ้นชิง ผบ.ทอ.อีกคนเช่นกัน

ส่วน ทบ. ดันบิ๊กหนุ่ย พล.ท.ธราพงษ์ มะละคำ (ตท.24) บูรพาพยัคฆ์คอแดง สาย 3 ป. ขึ้นมาเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 จ่อเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และถูกวางตัวเป็น ผบ.ทบ.ในอนาคต และมีอายุราชการถึงกันยายน 2569 เลยทีเดียว ส่วน ทร.นั้น ตท.24 ไม่มีดาวเด่น จึงขยับมาเป็น พล.ร.ท.สุวิน ตท.25

อีกทั้งย้อนกลับมาดูบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด และบิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ก็นั่งยาว 3 ปี

ดังนั้น อะไรจึงไม่แน่นอน หาก พล.อ.ประยุทธ์ยื้ออยู่ถึงโยกย้ายปลายปีหน้า เผื่อจัดโผทหารก่อนแล้วยุบสภา ก็อาจจะดันแคนดิเดตที่มีอายุราชการมากกว่า 2 ปีขึ้น จะได้มั่นใจในกองทัพ และไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย

แต่ในเมื่อการเมืองไม่แน่นอน เรื่องในกองทัพก็ไม่แน่นอนเช่นกัน