ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 กันยายน 2564 |
---|---|
เผยแพร่ |
สถานีคิดเลขที่ 12 / สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
——————
กัดฟันทบทวนปฏิวัติ19 ก.ย.
——————–
ครบ 15 ปี การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
ความทรงจำ ที่ผุดขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆของเหตุการณ์นั้น
คือคำว่า “เสียของ”
อันนำมาสู่”ข้ออ้าง”การรัฐประหารครั้งต่อมา 22 พฤษภาคม 2557
8+7ปี ที่ผ่านมาสังคมไทย “ได้ของ” หรือไม่
ทุกคนคงมีคำตอบในใจ
จริงอยู่แม้ คณะรัฐประหาร จะสลายร่างไปแล้ว
แต่ตัวละครสำคัญ ที่พยายามโชว์ลบคำว่าไม่เสียของโดยได้ปูทางในทุกวิธีที่ทำได้ เพื่อสืบทอดอำนาจยังอยู่ใน”เวทีอำนาจ”ต่อไป
โดยพยายามคำว่าประชาธิปไตย มาปะ”แป้ง”เพื่อให้ดูดีว่า พวกตนมาตามระบอบอันชอบธรรม
ซึ่งปัจจุบันก็ลากกันมา 2ปี กว่า
เมื่อถามซ้ำว่า ประเทศชาติ และประชาชน ได้ของ หรือเสียของ
สิ่งที่เกิดขึ้นใน พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็น ผลิตผลของการรัฐญประหาร 2557 น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
กล่าวคือ นอกจากจะบริหารประเทศ ที่ถูกกล่าวหา ว่า “ถอยหลัง” ในแทบทุกด้านแล้ว
ยังมาแก่งแย่งอำนาจ โค่นล้มในหมู่กันเอง ทั้งพี่น้อง 3 ป. และน้องร่วมสถาบัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อย่างอื้อฉาว
แม้ว่าจะมีความพยายามกลบเกลื่อน ความขัดแย้งในหลายวิธีทาง รวมถึง การ”กอด”โชว์สื่อมวลชน
แต่ก็ไม่อาจ จะกลบเสียง “กัดฟันกรอด-กรอด”แห่งความไม่พอใจ และความไม่ลงรอยที่มีต่อกันได้
ตอนนี้ สังคม ก็ได้แต่เฝ้ามองว่า เมื่อไหร่ปัญหาขัดแย้งจะปะทุขึ้นมาอีก
และความขัดแย้งนั้นจะนำไปสู่อะไร
แน่นอน ในความรู้สึกของชาวบ้านแล้วย่อมนำไปสู่ความย่ำแย่ลงไปอีก
ชาวบ้านแทบจะไม่ได้อะไร
แถมอาจจะเกิดความรู้สึก อย่างที่ นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รู้สึก และทำจดหมายเปิดผนึกถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพ
โดยอ้างว่า เริ่มมีกระแสข่าวลือว่า ทหารอาจจะต้องออกมาปฏิวัติอีก
เพราะสถานการณ์บ้านเมืองกำลังอยู่ในวิกฤติ วุ่นวาย
สังคมมีความรู้สึกไม่ยอมรับในตัวผู้นำ รวมถึงการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส
มีผู้ออกมาประท้วงรายวันและไม่แน่ใจว่าจะมีแนวโน้มที่รุนแรงขึ้น
จึงอาจนำไปสู่การปฏิวัติได้อีก
นายอันวาร์ สาแล เลยตีปลาหน้าไซ โดยระบุในจดหมายเปิดผนึกว่า “กองทัพไม่จำเป็นต้องออกมาปฏิวัติ โดยใช้ข้ออ้างที่ว่า ต้องการทำให้บ้านเมืองสงบ ถามว่าแล้วสงบจริงหรือไม่ ก็เห็นๆกันอยู่ว่าเป็นอย่างไร ทุกครั้งที่มีการปฏิวัติสถานการณ์บ้านเมืองกลับเลวร้ายลงกว่าเดิม เช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และยังไม่มีท่าทีว่าจะยุติลงด้วยได้วิธีใด ดังนั้นแค่ทหารต้องให้โอกาส กลไกของประชาธิปไตยทำงานให้จนถึงที่สุด และหนทางสุดท้าย คือ การคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน”
แม้จะมีผู้วิจารณ์ว่านายอันวาร์ “ตื่นตูม” ด้วยประเมินเงื่อนไขต่างๆแล้ว ยังไม่น่าจะมีการปฏิวัติเกิดขึ้น
ซึ่งโดยส่วนตัวก็เชื่อเช่นนั้น และหวังว่าการปฏิวัติคงไม่เกิดขึ้น
เอาแค่การได้ย้อนทบทวนการรัฐประหารที่ผ่านมา โดยเฉพาะ 19กันยายน 2549 ที่ต่อเนื่องมาถึง 22พฤษภาคม 2557 ว่าได้สร้างบาปกรรมอย่างไรให้กับประเทศของเราขนาดไหน
แค่นี้ เราในฐานะประชาชนก็ได้แต่กัดฟันกรอดๆ ด้วยความรู้สึกคับแค้นแล้ว!