ในปี 1900

ณ ถนนสายที่ 5 (The Fifth Avenue) ในมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

ถ้าคุณตั้งกล้องถ่ายรูปเอาไว้

ภาพที่คุณจะได้คือ ท่ามกลาง “รถม้าลาก” เต็มท้องถนน จะมี “รถยนต์” อยู่หนึ่งคัน

ในปี 1913

ณ จุดถ่ายรูปเดิม ถ้าคุณแชะภาพ ถนนสายที่ 5

ภาพที่คุณได้คือ ท่ามกลาง “รถยนต์” เต็มท้องถนน จะมี “รถม้าลาก” หลงเหลือเพียงหนึ่งคันเท่านั้น

เวลาผ่านไปแค่ 13 ปี ได้เปลี่ยนภาพ “ถนนสายหลัก” ของมหานครนิวยอร์กแห่งนี้ไปตลอดกาล

“มันสำคัญมากที่เราไม่ควรจะคาดหวังกับอินเตอร์เน็ตมากจนเกินไป

ปริมาณผู้ใช้งานยังถือว่าน้อยมาก”

ผู้คร่ำหวอด “วงการไอที” ท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ เมื่อปี 1994

คุณรู้สึกอย่างไรบ้างครับ

ช่างเป็น “วิสัยทัศน์” ที่ตื้นเขินเสียนี่กระไร ใช่มั้ย

ผมให้ลองทายเล่นๆ ว่า “คนสายตาสั้น” ที่พูดประโยคนี้ คือใคร

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศเราได้รับเกียรติจาก “กูรู” ระดับโลกด้านพลังงานท่านหนึ่ง

บินตรงมาจาก “แคลิฟอร์เนีย” ถิ่นฐานของ “เทคโนโลยีพลังงาน” สะอาดทั้งหลาย

“โทนี เซบา (Tony Seba)” ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดท่านนี้

ได้เผยข้อมูลเด็ด ที่ทำให้ผู้ใหญ่ในวงการบ้านเรา “อ้าปากค้าง” ไปตามๆ กัน

หนึ่งในเรื่องที่ทำให้ “ตื่นตาตื่นใจ” กันมาก คือ “รถยนต์ไฟฟ้า” ครับ

รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อ “เทสลา” ของอัจฉริยะ “อีลอน มัสก์” เคยได้รับรางวัล “รถยนต์แห่งปี” จากนิตยสาร “มอเตอร์ เทรนด์” เมื่อปี 2013

ถ้าผมถามท่านว่า คะแนนเต็มหนึ่งร้อย ท่านคิดว่า “เทสลา” ได้กี่คะแนนครับ

…ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก…

เฉลย… “103” คะแนนครับ

เวอร์มั้ยล่ะครับ “รถไฟฟ้า” มันดีขนาดนั้นเลยหรือ เราลองมาดูคุณสมบัติกันสักนิด ครับ

หนึ่ง “ประสิทธิภาพพลังงาน”

สำหรับรถยนต์ทั่วๆ ไป เมื่อเราเติมน้ำมันเข้าไป

เครื่องยนต์จะใช้ “น้ำมัน” เป็นเชื้อเพลิงในการจุดระเบิด

ทำให้ “พลังงานความร้อน” เปลี่ยนเป็น “พลังงานกล” ไปขับเคลื่อนล้อทั้งสี่

ที่น่าเสียดายคือ พลังงานความร้อนสิบหน่วย จะแปลงเป็นพลังงานกลได้เพียงสองหน่วยเท่านั้น หรือ “ยี่สิบเปอร์เซ็นต์” เท่านั้น

ให้ทายว่า “พลังงานไฟฟ้า” จากแบตเตอรี่ของ “รถไฟฟ้า” แปลงเป็น “พลังงานกล” ได้เท่าไรครับ

ปิ๊งป่อง คำตอบคือ “เก้าสิบเปอร์เซ็นต์” ครับ

เรียกได้ว่า ประสิทธิภาพการใช้พลังงานของ “รถไฟฟ้า” มากกว่า “รถยนต์” ทั่วไป ถึงเกือบ “ห้าเท่า” เลยทีเดียว

สอง “ค่าเชื้อเพลิง”

โดยคร่าวๆ อ้างอิงจากราคาน้ำมัน ค่าไฟ และพฤติกรรมการขับรถในประเทศสหรัฐอเมริกา

ในหนึ่งปี คนจะต้องเสียค่าเติมน้ำมันประมาณ “แปดหมื่นบาท”

ถ้ารถยนต์ใช้ “ไฟฟ้า” แทน “น้ำมัน” แล้ววิ่งระยะเท่าๆ กัน

จะเสียค่าไฟฟ้าเพียง “แปดพันบาท” เท่านั้น

ช่วยประหยัดเงินผู้ขับรถไปถึง “สิบเท่า” ด้วยกัน

สาม “ซ่อมบำรุง”

เบื่อมั้ยครับ เวลารถเสีย

ต้องเสียเงิน เสียเวลา เอาเข้าอู่ เสียค่าประกัน เป็นหมื่นบาทต่อปี

ก็เพราะ “รถยนต์” ทั่วๆ ไปนั้นมี “ชิ้นส่วนเคลื่อนไหว” ถึง “สองพันกว่า” ชิ้นด้วยกัน

เรียกได้ว่า วันไหน ชิ้นไหน จะไม่ทำงานขึ้นมาเฉยๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่คาดไม่ถึง

“ชิ้นส่วนเคลื่อนไหว” มากชิ้น ก็ดูแลรักษายาก ต้องซ่อมบำรุง คอยตรวจเช็กอยู่ตลอด

หมื่นโลบ้าง สองหมื่นโลบ้าง สามหมื่น สี่หมื่น ว่ากันไป

ยิ่งรถเก่าๆ เนี่ยจะต้อง “เสียเงินเสียทอง” เอง ไม่มีประกันที่ไหนคุ้มครองให้

ทีนี้ ให้ทายครับว่า รถไฟฟ้า มี “ชิ้นส่วนเคลื่อนไหว” กี่ชิ้น

น้อยกว่าแน่ล่ะครับ แต่เท่าไรดี

คำตอบ “สิบแปดชิ้น” ถ้วนครับ

ถ้าคุณซื้อรถไฟฟ้า “เทสลา” เขาจะไม่ได้มาพร้อม “ประกันอุบัติเหตุ” หนึ่งหรือสองปีนะครับ

เขาให้ “ประกันตลอดชีพ” หรือที่เรียกว่า “อินฟีนิต ไมล์ วอร์รันที (Infinite Miles Warranty)”

“กล้าให้” เพราะเชื่อว่า รถฉันไม่เจ๊งง่ายๆ แน่ๆ

แถมวันดีคืนดี ส่ง “สัญญาณ” ผ่านระบบ “อินเตอร์เน็ต” แบบอัตโนมัติ เพื่อช่วย “เช็ก” และ “อัพเกรด” รถของเรา ยามเราหลับ ไม่ต้องไปแตะอะไรเลยทั้งสิ้น เหมือนกับการอัพเดต “เฟิร์มแวร์ (Firmware)” ของไอโฟนของเรา ยังไงยังงั้นเลยครับ

เขาว่า รถไฟฟ้า ก็เหมือนกับ “ไอแพดติดล้อ”

มันคือ “คอมพิวเตอร์ที่เคลื่อนที่ได้” ไม่ใช่ “เหล็กวิ่งได้” เหมือนรถยนต์ทั่วไป

การ “เชื่อมต่อข้อมูล” ก็จะทำให้ “รถไฟฟ้า” ได้รับการดูแล แม้ยามคุณ “หลับใหล”

ไม่ต้องเอาเข้า “อู่” ถ้าไม่จำเป็น

สี่”ความมันส์ในการขับ”

รถไฟฟ้า “เทสลา” เร่งจาก “ศูนย์” ถึง “ร้อย” กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ใช้เวลาเพียง “สามวินาที”

แรงไม่แพ้รถสปอร์ตสุดหรู อย่าง “เฟอร์รารี่” หรือ “พอร์ช” เลยทีเดียว

หลังติดเบาะไปตามๆ กัน

ห้า “ราคา”

ดีแบบนี้ ราคาก็คงจะไม่เบาอยู่เหมือนกันล่ะสิ

คุณคิดแบบนี้อยู่หรือเปล่า

สิบล้าน ห้าล้าน หรือ สามล้านบาท

ถ้าผมบอกว่า “หนึ่งล้าน” ล่ะครับ

นี่คือ ราคาตั้งต้นของรถยนต์ไฟฟ้า “เทสลา โมเดล สาม” ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนที่แล้ว

ภายใน 24 ชั่วโมงแรก มีผู้จองไปแล้วถึงกว่า “หนึ่งแสนแปดหมื่นคัน”

ด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นเหล่านี้ ทำให้ “รถไฟฟ้า” ไม่ใช่แค่ “ความฝัน” อีกต่อไป

ปัจจุบัน “เทสลา” มีการตั้งสถานี “ชาร์จไฟ” กันทั่วโลกแล้วกว่า “สามพัน” แห่ง

และจะเพิ่มเป็น “หมื่นแห่ง” ภายในปีหน้า

แน่นอนว่า คงจะไม่ “สมบูรณ์แบบ” คงจะต้องจับดูว่าเป็น “ราคาคุย” หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ผมก็แอบสงสัยไม่ได้ว่า…

ประเทศของเรา “เตรียมพร้อม” กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้วหรือยัง คงต้องถามท่าน “ผู้ใหญ่” ทั้งหลาย

ที่น่าเสียดายเล็กๆ คือ ค่อนข้างชัดเจนว่า “เราตามไม่ทันอีกแล้ว”

เราทะเลาะกันจนลืมเหลียวดูโลกภายนอก ว่าเขาไม่ได้รอเราเลยครับ

รถไฟฟ้าจะเกิดเมื่อไรก็เมื่อนั้น พี่ไทยเราก็คงต้อง “นำเข้า” เทคโนโลยีกันต่อไป

เสียดายครับ บอกตรงๆ

กลับมาที่ “คนสายตาสั้น” ข้างต้น

ที่ “บังอาจ” กร้าวว่า “อินเตอร์เน็ต” จะไม่มีคนใช้

คนสายตาสั้น คนนั้นคือ “บิลล์ เกตส์” ผู้ก่อตั้งบริษัท ไมโครซอฟต์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก

โลก “หมุน” เร็วเหลือเกิน

การใช้ประสบการณ์เก่าๆ มา “พยากรณ์” เรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น จึงเป็นเรื่องยาก

แม้แต่ “บิลล์ เกตส์” เอง ยังปล่อยไก่มาแล้ว

เมืองไทยเราจะ “วางแผน” ตั้งท่ารอกันจนโลกหมุนไปอีกกี่สิบรอบ

ก็คงจะยังไม่ก้าวไปไหน จนกว่าจะ “ลงมือทำ” กันเสียที