ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 28 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | หน้า8 |
เผยแพร่ |
รัฐบาลชุดนี้แตกต่างจากรัฐบาลอื่นๆ ที่ผ่านมา
ไม่ใช่เพียงแค่ว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารเท่านั้น
แต่ยังเป็นรัฐบาลที่มี “อำนาจพิเศษ” เป็น “ดาบอาญาสิทธิ์”
ใหญ่กว่ากฎหมายและระเบียบทั้งหลายในเมืองไทย
จะทำอะไรก็ได้
ในตอนแรก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธาน คสช. และนายกรัฐมนตรีจะใช้มาตรา 44 น้อยมาก
นานๆ จะใช้สักครั้งหนึ่ง
เพราะไม่อยากใช้ “อำนาจนอกระบบ” ที่ลัดทุกขั้นตอน
แต่ช่วงหลัง พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มใช้มาตรา 44 บ่อยมากขึ้น
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะปัญหาของเมืองไทยสั่งสมมายาวนาน ใช้ระเบียบปกติแก้ไม่ได้
หรือช้ามากไม่ทันใจ
พล.อ.ประยุทธ์ จึงใช้มาตรา 44 เป็นเส้นทางบายพาส
ทำอะไรก็ง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ
แต่ใครจะนึกว่ามาตรา 44 นั้นจะกลายเป็น “ปัญหาใหญ่” ของรัฐบาล
เพราะทุกคนรู้ว่ารัฐบาลมี “ดาบอาญาสิทธิ์”
มีอำนาจเต็มมือ
การเจรจากับต่างประเทศเริ่มยากขึ้น
ตามปกติทุกคนจะมี “ไพ่” ที่ปิดอยู่ในมือ
ไม่มีใครรู้ว่าเป็น “ไพ่” อะไร
แต่วันนี้ทุกประเทศรู้ว่ารัฐบาลชุดนี้สั่งได้ทุกอย่าง
ไม่เหลือ “ไพ่” ที่กบไต๋ได้เลย
ที่ผ่านมา “ความได้เปรียบ” เรื่องหนึ่งของรัฐบาลประชาธิปไตยหรือรัฐบาลที่ไม่มีมาตรา 44 ก็คือ เรามี “ข้ออ้าง” เรื่อง “ขั้นตอน” ต่างๆ
สามารถดึงจังหวะเรื่องการเจรจาได้
นี่คือ เรื่องปกติของการเจรจาต่อรอง
แต่วันนี้ทุกประเทศรู้ว่ารัฐบาลมี “มาตรา 44”
จะทำอะไรก็ได้
ไม่แปลกที่รถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย-จีน อำนาจต่อรองของไทยจึงน้อยมาก
เพราะ “จีน” รู้ว่าทุกอย่างรัฐบาลสั่งได้
เช่นเดียวกับหลายเรื่องในรัฐบาลชุดนี้ที่ข้าราชการใช้วิธีการ “รำวง”
ไม่ยอมตัดสินใจแก้ปัญหาอะไรที่ตัวเองต้องมีความเสี่ยง
ติ๊ดชึ่งไปเรื่อยๆ
เพราะรู้ว่าถ้ามีปัญหาอะไร เดี๋ยว คสช. ก็ใช้มาตรา 44 จัดการได้
เรื่องอะไรจะเปลืองตัว
นี่คือ หนึ่งตัวอย่างของประโยคที่ว่า “โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี”
มี “รายรับ”
ก็ต้องมี “รายจ่าย”