ต้นทุนแฝง : หน้า 8

รัฐบาลชุดนี้แตกต่างจากรัฐบาลอื่นๆ ที่ผ่านมา

ไม่ใช่เพียงแค่ว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารเท่านั้น

แต่ยังเป็นรัฐบาลที่มี “อำนาจพิเศษ” เป็น “ดาบอาญาสิทธิ์”

ใหญ่กว่ากฎหมายและระเบียบทั้งหลายในเมืองไทย

จะทำอะไรก็ได้

ในตอนแรก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธาน คสช. และนายกรัฐมนตรีจะใช้มาตรา 44 น้อยมาก

นานๆ จะใช้สักครั้งหนึ่ง

เพราะไม่อยากใช้ “อำนาจนอกระบบ” ที่ลัดทุกขั้นตอน

แต่ช่วงหลัง พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มใช้มาตรา 44 บ่อยมากขึ้น

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะปัญหาของเมืองไทยสั่งสมมายาวนาน ใช้ระเบียบปกติแก้ไม่ได้

หรือช้ามากไม่ทันใจ

พล.อ.ประยุทธ์ จึงใช้มาตรา 44 เป็นเส้นทางบายพาส

ทำอะไรก็ง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ

แต่ใครจะนึกว่ามาตรา 44 นั้นจะกลายเป็น “ปัญหาใหญ่” ของรัฐบาล

เพราะทุกคนรู้ว่ารัฐบาลมี “ดาบอาญาสิทธิ์”

มีอำนาจเต็มมือ

การเจรจากับต่างประเทศเริ่มยากขึ้น

ตามปกติทุกคนจะมี “ไพ่” ที่ปิดอยู่ในมือ

ไม่มีใครรู้ว่าเป็น “ไพ่” อะไร

แต่วันนี้ทุกประเทศรู้ว่ารัฐบาลชุดนี้สั่งได้ทุกอย่าง

ไม่เหลือ “ไพ่” ที่กบไต๋ได้เลย

ที่ผ่านมา “ความได้เปรียบ” เรื่องหนึ่งของรัฐบาลประชาธิปไตยหรือรัฐบาลที่ไม่มีมาตรา 44 ก็คือ เรามี “ข้ออ้าง” เรื่อง “ขั้นตอน” ต่างๆ

สามารถดึงจังหวะเรื่องการเจรจาได้

นี่คือ เรื่องปกติของการเจรจาต่อรอง

แต่วันนี้ทุกประเทศรู้ว่ารัฐบาลมี “มาตรา 44”

จะทำอะไรก็ได้

ไม่แปลกที่รถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย-จีน อำนาจต่อรองของไทยจึงน้อยมาก

เพราะ “จีน” รู้ว่าทุกอย่างรัฐบาลสั่งได้

เช่นเดียวกับหลายเรื่องในรัฐบาลชุดนี้ที่ข้าราชการใช้วิธีการ “รำวง”

ไม่ยอมตัดสินใจแก้ปัญหาอะไรที่ตัวเองต้องมีความเสี่ยง

ติ๊ดชึ่งไปเรื่อยๆ

เพราะรู้ว่าถ้ามีปัญหาอะไร เดี๋ยว คสช. ก็ใช้มาตรา 44 จัดการได้

เรื่องอะไรจะเปลืองตัว

นี่คือ หนึ่งตัวอย่างของประโยคที่ว่า “โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี”

มี “รายรับ”

ก็ต้องมี “รายจ่าย”