ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10 - 16 กันยายน 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | คลุกวงใน |
ผู้เขียน | พิศณุ นิลกลัด |
เผยแพร่ |
คลุกวงใน
พิศณุ นิลกลัด
Facebook : @Pitsanuofficial
วิธีนอนหลับสบาย
สไตล์โรนัลโด้
วันที่ 11 กันยายน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับคืนสู่ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกครั้ง ในวัย 36 ปี หลังจากเริ่มเล่นให้กับทีมแมนฯ ยู ตอนอายุแค่ 18 เมื่อปี 2003 จนถึงปี 2009
โรนัลโด้ในวัย 36 ปี ดูดี ดูฟิตยิ่งกว่าสมัยอายุ 18
ในอดีต โรนัลโด้หน้าเป็นสิว ฟันเก ผมยุ่ง ทำไฮไลต์สีทอง แต่งตัวไม่ทันสมัย
ซึ่งโรนัลโด้เองก็ยอมรับว่าเห็นรูปตัวเองสมัยวัยรุ่นอายุ 16-17 ปี ยังอดถามตัวเองไม่ได้ว่า คิดอะไรอยู่ถึงทำผม แต่งตัวแบบนั้น และบอกว่า ผมตัวเองมีปลายสีเหลืองดูแล้วเหมือนเส้นสปาเกตตี
การที่โรนัลโด้ดูแลตัวเองอย่างดีเยี่ยมตั้งแต่ตื่นยันหลับ ทำให้เขายืนระยะเป็นนักฟุตบอลอาชีพแถวหน้าของโลกได้ยืนยาวขนาดนี้
การพักผ่อนฟื้นฟูร่างกายเป็นสิ่งที่โรนัลโด้ให้ความสำคัญมาก เขาเข้านอนเร็ว หลับวันละ 8 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยทุกคืน และยังมีช่วงที่งีบหลับสั้นๆ ตอนกลางวัน ซึ่งบางวันเขางีบมากถึง 5 ครั้ง
โรนัลโด้มีโค้ชด้านต่างๆ คอยดูแลเรื่องการออกกำลัง การกินอยู่ และการนอนหลับ
นิก ลิตเติลเฮลส์ (Nick Littlehales) เป็นโค้ชสอนการนอนหลับ หรือ Sleeping Coach ของโรนัลโด้ และนักฟุตบอลระดับโลกอีกหลายคน
นิกเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นโค้ชสอนการนอนหลับให้กับนักฟุตบอลว่า ตัวเขาเป็นคนชอบฟุตบอลมาก และเคยเป็นนักกอล์ฟอาชีพเมื่อ 20 กว่าปีก่อน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงมาเอาดีทางทำงานด้านที่นอน แต่ก็ยังติดตามกีฬาต่างๆ อยู่ตลอด จนปัจจุบันก็กลายเป็นโค้ชสอนการนอนให้กับนักกีฬา
นิกเล่าว่า ตอนเขาได้รับเชิญไปให้คำปรึกษาเรื่องการนอนกับสโมสรเรอัล มาดริด สมัยที่คาร์โล อันเชล็อตติ (Carlo Ancelotti) ยังเป็นผู้จัดการทีม ระหว่างที่นิกกำลังยืนคุยกับทีมงานของเรอัล มาดริดอยู่ข้างสนามซ้อม โรนัลโด้ที่เพิ่งเสร็จจากการซ้อมฟุตบอลมาทั้งวัน เข้ามาทักทายและถามด้วยความสนใจว่ากำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่
ซึ่งถ้าเป็นนักเตะคนอื่นก็จะปรี่เข้าห้องแต่งตัวไปอาบน้ำให้หายเหนื่อย แต่โรนัลโด้กลับมีความสนใจในเรื่องที่นิกกำลังจะทำกับสโมสร
จากประสบการณ์ที่ทำงานร่วมกัน โรนัลโด้เป็นคนที่มีความทุ่มเทในฐานะนักกีฬามาก ทั้งตอนซ้อมและตอนแข่ง เขาไม่ใช่คนประเภทที่หลับหูหลับตาทำอะไรตามคนอื่นเพียงเพราะหลายคนบอกว่าดี
แต่เขาพร้อมเปลี่ยนแปลงและเปิดรับแนวทางใหม่ๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่เหมาะสมที่สุดให้กับตัวเองทั้งเรื่องการกินอาหาร และการนอน
นิกใช้วงจรการนอนหลับรอบละ 90 นาทีสอนให้โรนัลโด้นอนสะสมให้ได้ 5 รอบในหนึ่งวัน โดยอาจจะตั้งเป้าไว้ว่าในกลางคืนนอนสะสมสัก 3-4 รอบ และสะสมจากการงีบกลางวันอีกสัก 1-2 รอบ ให้ครบ 5 รอบ เท่ากับว่าวันนั้นโรนัลโด้จะได้นอน 7 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 8 ชั่วโมง
แบบนี้ก็ถือว่าได้พักผ่อนอย่างเพียงพอในแต่ละวันโดยไม่จำเป็นต้องนอนรวดเดียว 8 ชั่วโมงตอนกลางคืน
เพราะตามปกติถ้าเรานอนรวดเดียว 8 ชั่วโมงและตื่นตอนเช้า พอถึงช่วงเวลาบ่ายโมงถึงบ่ายสามร่างกายจะแสดงอาการล้าให้เห็น ช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่เรามีประสิทธิภาพในการทำงานน้อยที่สุด
ดังนั้น นิกจึงไม่เชื่อว่าการนอนรวดเดียวจะมีผลดีกว่าการแบ่งรอบการนอนแบบของเขา
ในส่วนของลักษณะการนอน นิกแนะนำให้โรนัลโด้นอนตะแคงแบบเด็กทารก (Fetal Position) บนผ้าปูที่นอนซักใหม่ทุกๆ คืน
และก่อนเข้านอนประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โรนัลโด้จะปิดโทรศัพท์มือถือ ปิดโทรทัศน์และหยุดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงแสงสีฟ้าที่จะส่งผลให้เขาหลับได้ไม่สนิท
นิกบอกว่า ความจริงแล้วร่างกายของเราต้องการแค่ฟูกโฟมหนา 10 เซนติเมตร ก็เพียงพอแล้วสำหรับการนอนพักผ่อน ถ้าใครเคยไปเข้าค่ายและต้องนอนบนฟูกบางๆ สังเกตได้ว่าพอตื่นขึ้นมาตัวเองจะรู้สึกดีมาก
ในความเห็นของนิก ที่นอนคือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญที่สุดในบ้าน เพราะคนเราใช้ชีวิตอยู่เตียงนอนอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง
การได้นอนหลับอย่างถูกวิธีจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บ ความเหนื่อยล้า และความเครียดได้ดีที่สุด
แต่นักกีฬาหลายคนอาจยังมองข้ามและหันไปแก้ปัญหาด้วยการพึ่งอาหารเสริม กาเฟอีน หรือแอลกอฮอล์ จนติดงอมแงม
นิกบอกว่าสิ่งที่พวกเขาต้องทำก็แค่เรียนรู้วิธีนอนหลับพักผ่อนที่ถูกต้องเหมาะสมกับสรีระตัวเอง แล้วปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไป
นิก ลิตเติลเฮลส์ แนะนำเคล็ดลับในการหลับให้สนิท หลับอย่างถูกต้อง ดังนี้
1. ไม่ควรดื่มกาแฟหรือกินสิ่งที่มีกาเฟอีนก่อนนอน อย่างน้อย 12 ชั่วโมง
2. ห้องนอน ผ้าปูที่นอนควรมีสีขาว เพราะสีขาวทำให้จิตใจผ่อนคลาย ลืมเรื่องต่างๆ
ช่วยให้หลับง่าย นิกได้ให้คำแนะนำกับภรรยานักเตะหลายคน ซึ่งเป็นคนเลือกเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน ผ้าปูที่นอนว่า ควรเน้นสีขาว เพราะหากสีฉูดฉาด ลายตา สามีที่เป็นนักเตะอาจนอนไม่หลับ และส่งผลเสียเวลาแข่งขันได้
3. ท่านอนที่เหมาะสมของตัวเองนั้น คือท่าที่นอนแล้วรู้สึกสบาย แม้จะไม่มีหมอนรองศีรษะ
4. เวลานอนไม่ควรห่มผ้าห่มหนา เพราะทำให้ร่างกายร้อนเกินไปขณะหลับ และตื่นขึ้นมาจะมีอาการขาดน้ำ
5. หากจะดูว่าตัวเองหลับสนิทหรือไม่ ให้ดูว่าตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกว่าตัวเองพร้อมที่จะลุกขึ้นทำกิจกรรมต่างๆ โดยไม่มีความอยากพลิกไปพลิกมา ประวิงเวลา ขอนอนต่อ