ความจริงของการเมืองไทย/โลกทรรศน์ อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

โลกทรรศน์
อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

ความจริงของการเมืองไทย

 

“…ใครเชื่อก็โง่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ระบุมีคนพยายามตีข่าวนายกฯ จะยุบสภา ต้องเอานายกฯ ออกตอนนี้ มีการเปลี่ยนแปลงไม่เอานายกฯ แล้ว ปัญหาอย่างนี้อย่าไปฟัง ใครเชื่อก็โง่ บอกจริงๆ…”

ข่าวสด 1 กันยายน 2564

เนื้อความนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดังที่ผ่านหัวข่าวข้างต้นนับเป็นข้อความหนึ่งของนายกฯ ประยุทธ์ที่มีข้อความอื่นๆ ไปปรากฏในสื่ออื่นๆ ด้วย แม้ว่านายกฯ ประยุทธ์จะบอกว่า ใครเชื่อก็โง่แล้ว แต่นี่คือความจริง ความจริงทางการเมืองไทยขณะนี้มีอยู่ มิฉะนั้น นายกฯ ประยุทธ์คงไม่ออกมาพูดอย่างนี้

อีกประเด็นหนึ่งที่ช่วยยืนยันว่า ความจริงทางการเมืองไทยที่เกิดขึ้นแล้วคือ นายกฯ ประยุทธ์ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จริง นายกฯ ประยุทธ์ยังบอกเลยว่า “…พล.อ.ประวิตรคุยกับข้างในแล้ว แต่ยังมีการปล่อยข่าวลือเช่นนี้อีก ผมไม่สบายใจและ พล.อ.ประวิทย์ก็ไม่สบายใจ…”

ยังมีข้อความตามข่าวอีกมาก แต่เพียงเท่านี้น่าจะบอกถึงความต้องการการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นภายในกลุ่มผู้นำชุดปัจจุบันนี่เอง ไม่ต้องพูดถึงความต้องการการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เป็นความต้องการของประชาชนกลุ่มต่างๆ มีแน่นอน

ถึงแม้ว่านายกฯ ประยุทธ์ได้รับความไว้วางใจจากรัฐสภาครั้งล่าสุด นายกฯ ประยุทธ์ก็หนีไม่พ้นความจริงของการเมืองไทยขณะนี้อยู่ดี

 

ความจริงทางการเมืองของคุณประยุทธ์

“…ทํางานหนัก เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ใครจะมาแทน ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ประเทศชาติกำลังมีปัญหา ยังต้องทำงานเพื่อแก้ปัญหาของประเทศต่อไป…”

นี่เป็นการ มองตัวเอง ของนายกฯ ประยุทธ์ซึ่งไม่ใช่เพิ่งมองเช่นนี้ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจกันยายนที่ผ่านมา คุณประยุทธ์และพวกพูดถึงตัวเองเสมอว่า ทำงานมากมายนับได้จาก ก ถึง ฮ ทำสงครามกับโควิด-19 เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่หากมองจากฝ่ายสนับสนุนและชอบคุณประยุทธ์ เขาทำอย่างที่น่าพอใจคือ

ประการแรก การเปลี่ยนสำคัญของชาติ

คุณประยุทธ์เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องการเปลี่ยนนั้น ตั้งแต่การทำรัฐประหารปี 2549 ซึ่งช่วงนั้นมีอยู่ 2 กลุ่มอำนาจ ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างการปกป้อง คุณประยุทธ์มามีบทบาทอีกครั้งในเรื่องนี้ เมื่อมาทำรัฐประหาร 2557 เพื่อโค่นล้มนอมินีทางการเมืองของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร คือล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ประการที่สอง การสกัดกั้นทักษิณ ชินวัตร ผลงานนี้เกี่ยวข้องกับผลงานแรกอย่างแยกไม่ออก มีการโค่นล้มรัฐบาลทักษิณ สลายรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช สลายรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งล้วนเป็นนอมินีทางการเมืองของทักษิณทั้งสิ้น

นอกจากนั้น ยังสลายองคาพยพของทักษิณอีกด้วยเช่น ยึดทรัพย์ทักษิณและเครือญาติ บั่นเซาะเครือข่ายการเมืองทักษิณในขบวนการคนเสื้อแดง ใช้ความพยายาม ค้นคิด ประดิษฐ์นโยบายประชารัฐเพื่อลบล้างนโยบายประชานิยม ซึ่งเป็นตัวแทน ตัวตนความคิดทางการเมืองของทักษิณ แต่ทำได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น

แม้ว่าทักษิณและยิ่งลักษณ์ยังอยู่ มีความสำคัญทางการเมือง แต่ทั้งสองคนก็ยังอยู่ในต่างประเทศ

 

ความจริงของการเมืองไทย

คุณประยุทธ์เป็นปัญหา

ตัวคุณประยุทธ์เป็นปัญหาและสร้างปัญหา ในขณะที่บางคนมองว่า โรคระบาดโควิด-19 การบริหารงานสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นงานประจำ ซึ่งหมายความว่า เป็นเรื่องที่ฝ่ายสาธารณสุขของไทยดำเนินการได้เองอยู่แล้ว

ถ้าเชื่อว่าเป็นเรื่องประจำ ใครๆ ก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้ซิครับ ผมไม่เชื่อ แต่กลับมีประจักษ์พยานมากมายที่ชี้ให้เห็นความล้มเหลวของการจัดการแก้ปัญหาโรคระบาด เช่น เรื่องวัคซีน ฟุ้งว่ามีวัคซีนหลายยี่ห้อ มีวัคซีนเข้ามามาก หลายเรื่องคุณประยุทธ์พูดเหมือนอยู่คนละโลก มีการรวมศูนย์สั่งการ แต่สาธารณสุข กรุงเทพมหานคร ภูมิภาคและพรรคการเมืองสั่งกันคนละเรื่อง เช่น การกระจายวัคซีน เตียงผู้ป่วย

ตัวคุณประยุทธ์เป็นปัญหา มีกฎหมายหลายฉบับให้อำนาจทุกด้านแก่นายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการ นั่งเป็นประธานในที่ประชุม

จู่ๆ มีประกาศ แถลงการณ์นายกรัฐมนตรี แต่กลับเป็นความมุ่งหวังนายกฯ ที่ต้องการเปิดประเทศ

รูปธรรมคุณประยุทธ์เป็นปัญหาคือ คุณประยุทธ์ Work from Home อยู่ราว 1 เดือน เมื่อเขาไม่ต้องตอบคำถามต่างๆ ปัญหาต่างๆ ก็ดูเบาลง

คุณประยุทธ์เป็นปัญหา นับเป็นครั้งแรกที่ใหญ่มากๆ เป็นมากกว่าสาธารณสุขไทย คุณประยุทธ์เป็นตัวแทนที่แสดงถึงหมดยุคแล้วที่ทหารจะเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย ไม่มีสงคราม ไม่มีคอมมิวนิสต์ สกัดทักษิณและพวกได้แล้ว

ตอนนี้สังคมไทยไม่ใช่แค่หมดศรัทธาทหารแค่เรื่องงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำ ช่วงเกิดโควิดและเศรษฐกิจไทยย่ำแย่อย่างนี้

สังคมไทยไม่ใช่แค่ไม่เชื่อมั่น แต่หมดศรัทธาคุณประยุทธ์ด้วย

 

รัฐประหารยังไม่สิ้นสุด

ตัวคุณประยุทธ์เป็นปัญหาซ้อนปัญหา ด้วยวิธีคิด คุณประยุทธ์ทำตัวเหมือนยังเป็น ผบ.ทบ. ยังเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารอยู่

ให้ดูบ้านพักอาศัยของเขาก็เห็นได้ชัด

ถ้าจะว่าไปแล้ว ศบค.ก็คือรูปแบบรัฐประหารนั่นเอง

เขาจึงออกคำสั่งว่า ต้องไม่เห็นคนนอนตายจากโควิดตามท้องถนน ตามตรอกซอกซอยอีก

ตลอดเวลาดูเหมือนพยายามสั่งให้โควิดหมดไป สั่งให้เศรษฐกิจดีขึ้น

 

ความจริงของการเมืองไทยในวันหน้า

แม้คุณประยุทธ์ได้รับความไว้วางใจจาก ส.ส.ในรัฐสภา แต่นี่ไม่ใช่ความจริงทางการเมืองไทย มันคือคณิตศาสตร์การเมืองของรัฐบาล สร้างภาพลวงตาหลอกตัวเอง

คุณประยุทธ์และคุณประวิตรรู้ดี คนที่รู้เรื่องนี้ดีและเห็นอันตรายตามมาก็คือ ส.ส. โดยเฉพาะ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐนั่นเอง

เพราะอีกไม่นานก็ต้องมีการเลือกตั้งทั่วไป ส.ส.จะหาเสียงกับประชาชนของพวกเขาโดยขายอะไรของคุณประยุทธ์ได้บ้าง ส.ส.จะขายอะไรในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาของคุณประยุทธ์ ช่วงก่อนเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า เศรษฐกิจจะดีขึ้นและโควิดจะลดลงด้วยโฆษณาชวนเชื่อ แต่ไม่ใช่ความจริง ส.ส.เขารู้เรื่องนี้ดีกว่าใครๆ พวกเขามองออกว่าจะแพ้การเลือกตั้งหนหน้า แล้วพวกเขาจะยอมให้ตัวเองแพ้เลือกตั้งหรือ

ความจริงของการเมืองไทยตอนนี้ไม่ใช่เรื่องนโยบาย ไม่ใช่ไม่มีนโยบาย ไม่ใช่เรื่องอะไรทั้งสิ้น แต่อยู่ที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่ไม่ใช่ชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา

ส.ส.พรรคพลังประชารัฐแพ้เลือกตั้งแน่ๆ ถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้

แต่สำหรับคนไทย การไม่มีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น การข่มขู่ ปราบปรามและใช้ความรุนแรง การผูกขาดอำนาจและความมั่งคั่ง ก็นับว่าสาหัสและเลวร้ายมากอยู่แล้ว แต่เศรษฐกิจตอนนี้มีแต่จนและตาย แต่โควิดตายอย่างเดียว

ความจริงของการเมืองไทยปรากฏและแผลงฤทธิ์ ไม่ต้องรอนานถึงวันเลือกตั้งหนหน้า

ไม่มีประโยชน์อันใดเลยที่คุณประยุทธ์จะพูดคุยกับ ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐมากขึ้น เพราะตัวคุณประยุทธ์ไม่มีบุคลิกนักการเมือง ไม่ได้เกิดมาเป็นนักการเมือง

เขาเป็นได้เพียงทหารคนหนึ่ง