เขย่าสนาม : จากเด็กบ้านนอกสู่ ‘ฮีโร่’ ‘กร’ พงศกร แปยอ วีลแชร์ผู้ไม่ยอมโชคชะตา

เขย่าสนาม / เงาปีศาจ

 

จากเด็กบ้านนอกสู่ ‘ฮีโร่’

‘กร’ พงศกร แปยอ

วีลแชร์ผู้ไม่ยอมโชคชะตา

 

ทัพนักกีฬา “พาราลิมปิก โตเกียว 2020” ทีมชาติไทย สร้างความสุขต่อเนื่องให้คนไทยหลังจากจบการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ทัพไทยออกสตาร์ตคว้าเหรียญทองแดงมาครองจาก “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักวีลแชร์ฟันดาบตัวเก๋าเบอร์ 1 โลกประเภทเอเป้

ก่อนที่จะมาเฮกันทั้งประเทศเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา เพราะได้เหรียญทองแรกของมหกรรมจากผลงานของ “กร” พงศกร แปยอ จากการแข่งขันวีลแชร์เรซซิ่ง 400 เมตรชาย คลาส T 53 ซึ่งเจ้ากรเป็นแชมป์เก่ารายการนี้เมื่อรีโอ 2016 อีกด้วย

พงศกร แปยอ เด็กหนุ่มวัย 25 ปี จาก จ.ขอนแก่น ยังทำลายสถิติโลกของ เบรนต์ ลากาตอส จากแคนาดาที่ทำไว้ 46.82 วินาที แถมยังทำลายสถิติพาราลิมปิกเกมส์ของตัวเองที่ทำไว้ในรอบคัดเลือกช่วงเช้าวันเดียวกันที่ 47.31 วินาที

จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้ พงศกร แปยอ ได้รับเงินรางวัลตอบแทนความสำเร็จจากรัฐบาลไทยผ่านทางกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ตามหลักเกณฑ์ โดยพงศกรมีสิทธิ์เลือกรับเงินรางวัล 2 เงื่อนไขตามที่กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติระบุในประกาศ

เงื่อนไขแรก เหรียญทองจะได้รับเงินอัดฉีด 7,200,000 บาท, เหรียญเงิน 4,800,000 บาท และเหรียญทองแดง 3,000,000 บาท

โดยเงื่อนไขนี้จะแบ่งจ่าย ซึ่งจ่ายเป็นก้อนให้นักกีฬาก่อนในอัตราร้อยละ 50 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 50 จะจ่ายเป็นรายเดือน ภายในระยะเวลา 4 ปี

ส่วนเงื่อนไขที่สอง จ่ายครั้งเดียวเป็นก้อนเดียว แต่จะได้รับในอัตราที่น้อยลง โดยเหรียญทองจะได้รับเงินรางวัลทั้งสิ้น 6,000,000 บาท, เหรียญเงิน 4,000,000 บาท และเหรียญทองแดง 2,500,000 บาท

 

กว่าจะมาเป็นฮีโร่ของคนไทย พงศกร แปยอ ต้องเผชิญโชคชะตาที่โหดร้ายเมื่อเขาเป็นโปลิโอขาทั้งสองข้างตั้งแต่กำเนิด แต่ด้วยความที่เด็กหนุ่มจากขอนแก่นไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เขากัดฟันสู้ มีสมาธิกับการเล่นกีฬาตั้งแต่เด็กเพื่อหวังลบปมด้อยในชีวิต

พงศกร แปยอ เริ่มเล่นกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งตั้งแต่อายุได้ 13 ปี โดยมีอาจารย์สากล ทัพสมบัติ ที่สนิทกันชักชวนให้ไปแข่งขันกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 30 “นครสุโขทัยเกมส์” เมื่อปี 2009 และประเดิมด้วยการคว้าเหรียญทองแดงวีลแชร์เรซซิ่ง ประเภท 100 เมตร กับ 400 เมตรทั้งที่เป็นกลุ่มนักกีฬาหน้าใหม่

ด้วยพรสวรรค์ของเด็กหนุ่มจากขอนแก่นที่ขอต่อสู้กับโชคชะตา และชีวิตที่เขาเลือกเกิดไม่ได้ ทำให้เส้นทางของการเป็นนักกีฬาทีมชาติเปิดกว้างขึ้นเมื่อ ประวัติ วะโฮรัมย์ และ เรวัตร์ ต๋านะ 2 นักวีลแชร์ตัวเก๋าดีกรีทีมชาติไทยเห็นในความพยายามและมุ่งมั่นของเจ้ากร จึงได้ไปขอพ่อ-แม่ของพงศกร เพื่อมาดูแลสนับสนุนในทุกๆ ด้าน รวมถึงเรื่องการเล่นกีฬา

ประวัติและเรวัตร์เปรียบเสมือนพี่ เหมือนโค้ช เหมือนพ่อ เหมือนเพื่อน ได้มอบรถวีลแชร์ที่เคยใช้ และสภาพยังดีอยู่ให้พงศกรเพื่อเข้าแข่งขันรายการต่างๆ จนประสบความสำเร็จ

กลายเป็นฮีโร่ของคนไทยตามรอย ประวัติ วะโฮรัมย์ และ เรวัตร์ ต๋านะ ที่ขึ้นทำเนียบนักวีลแชร์เรซซิ่งฮีโร่ที่สร้างชื่อเสียงให้คนไทยในเวทีโลกมาอย่างยาวนาน

 

ก่อนจะมาคว้าเหรียญทอง “พาราลิมปิก โตเกียว 2020” ชื่อของ พงศกร แปยอ ดังเป็นพลุแตกเมื่อ 5 ปีก่อนในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2016 ที่นครรีโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล หลังจากเขาคว้า 2 เหรียญทองรายการ 400 เมตร คลาส T 53 และ 800 เมตร คลาส T 53 แถมพงศกรยังก้าวไปครองบัลลังก์แชมป์โลก 400 เมตร คลาส T 53 เมื่อปี 2019 ที่นครดูไบได้อีกด้วย

พงศกร แปยอ เล่าว่า ตั้งแต่เกิดมา 25 ปีเขาไม่เคยลุกเดินได้เลย ผมมาจากขอนแก่น ได้วีลแชร์คันนี้มาจากพี่ประวัติ วะโฮรัมย์ และพี่เบิ้ม (เรวัตร์ ต๋านะ) ซึ่งเป็นไอดอลของผม เป็นคนที่ทำให้ผมมีแรงผลักดันอยากเป็นอย่างเขา ตอนเด็กผมไม่รู้เรื่องเลย ไม่คิดจะเป็นนักกีฬา วันๆ ก็เล่นกับเพื่อนเหมือนเด็กคนอื่น จนอาจารย์สากล ทัพสมบัติ ชวนให้รู้จักกับการแข่งวีลแชร์เรซซิ่งที่สุโขทัยเกมส์ ตอนนั้นอายุ 13 ซ้อมอยู่เดือนเดียวแล้วไปแข่ง ก็ได้เหรียญทองแดง

พอพี่ประวัติและพี่เบิ้มไปขอพ่อ-แม่ พร้อมกับมอบวีลแชร์สภาพดีให้ นับแต่วันที่ผมเริ่มฝึกซ้อมในปี 2552-2559 เป็นเวลา 7 ปี ก่อนที่ผมจะไปคว้า 2 เหรียญทองที่ประเทศบราซิล

“ผมไม่ค่อยท้อแท้ ผมเป็นคนอารมณ์ดี คือมีอะไรให้ทำ เราก็ทำให้ดีที่สุด แล้วก็จะไม่มีเวลามาท้อแท้ อุปสรรคของผมจะมีตอนแข่ง บางทีถ้าเครียดมาก ผมจะปวดขา คือมันจะสั่นแล้วก็บังคับลำบาก ผมต้องพยายามไม่กดดันมาก”

“ผมโตมากับเด็กพิการด้วยกันเลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการโดนล้อเลียน หรือดูว่าผมมีปมด้อย ข้อดีคือ ผมไม่คิดมาก เลยไม่คิดอยากได้โน่นได้นี่ ที่ได้เหรียญทองมานี่ก็ไม่ได้คิดเหมือนกัน แค่ตั้งใจทำให้ดีที่สุด พอได้มาแล้วมันก็ดีนะ ยิ่งตอนแข่งเราต้องคิดให้น้อยที่สุด ความคิดทำให้กังวล แล้วพอกังวลก็กดดัน และคนที่กดดันผลงานก็ออกมาไม่ดี ถ้าตัดความคิดออกไปได้ ร่างกายเราจะทำอย่างที่ถูกฝึกฝนมา โดยไม่มีความคิดมาเป็นอุปสรรค”

พงศกรกล่าว

 

พงศกรบอกว่า จะยังไม่หยุดที่จะประสบความสำเร็จ จะมุ่งมั่นตั้งใจฝึกซ้อมแม้ว่าเขาจะมีชื่อเสียงและเงินทองแล้ว แต่การได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ ได้เป็นตัวแทนไปแข่งขัน ได้เอาธงไตรรงค์มาอยู่บนหน้าอกเสื้อที่เราใส่ มันเป็นอะไรที่น่าภาคภูมิใจสุดๆ และที่สำคัญชัยชนะของเรามันสร้างรอยยิ้ม ความยินดีให้กับคนไทยทุกคน

“อีก 3 ปีข้างหน้าที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ผมก็สัญญาว่าผมจะไปคว้าเหรียญทองให้ได้อีกเพื่อคนไทยครับ”

นี่เป็นคำสัญญาจากเด็กหนุ่มอารมณ์ดีจากเมืองหมอแคน

ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับ พงศกร แปยอ และทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยที่พวกคุณไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา

พวกคุณคือ ฮีโร่…