กินอย่างควีน (2) : สำเริงคดี

เคยเก็บเรื่องการเสวยในแต่ละวันของสมเด็จควีนอลิซาเบธ (ที่ 2) มาเล่าไว้หนหนึ่งแล้ว คราวนี้ เชฟหลวงมาเอง จึงลงรายละเอียดมากกว่าเดิม

จอห์น ฮิกกินส์ อดีตเชฟหลวงบอกกับแนชแนลโพสต์ว่า “ไม่มีการเสิร์ฟข้าว มันฝรั่ง หรือพาสต้าโดยเด็ดขาด และสมเด็จจะเสวยพระกระยาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำเท่านั้น”

ส่วน คาร์เรน แม็กเกรดี อดีตเชฟหลวงอีกคนก็พูดคล้ายๆ กัน แต่เพิ่มว่า จะเสวยพาสต้าหรือมันฝรั่งบ้างก็แต่ในงานเลี้ยงรัฐพิธี

และ “ปกติสมเด็จควีนจะไม่เสวยอาหารคาร์โบไฮเดรตอีกหลังจากมื้อเช้า ยกเว้นเค้กช็อกโกแลตบิสกิตซึ่งจะเสวยครั้งละชิ้นเล็กๆ แต่ต้องนำขึ้นโต๊ะทุกวันจนกว่าจะหมด ถ้าแปรพระราชฐานไปที่อื่นใด ต้องนำตามไปเสิร์ฟให้ด้วย” เนื่องเพราะช็อกโกแลตเป็นของโปรดของพระองค์ นอกจากช็อกโกแลตบิสกิตเค้กแล้วยังมีช็อกโกแลตมูสและช็อกโกแลตกานาชสปันจ์เค้กด้วย ทั้งยังโปรดเสวยผลไม้ อาทิ มะม่วง สตรอว์เบอร์รี่ และพีช

แต่อาหารที่ไม่โปรดเอามากๆ คือกระเทียม “เราต้องไม่เสิร์ฟอาหารใดที่ใส่กระเทียมหรือแม้แต่หัวหอมก็ใส่มากไม่ได้” เชฟดาร์เรนเล่า

“อย่างเช่นเนื้อสโตรกานอฟสไตล์ซาวอยที่ใส่หอมใหญ่และปาปริก้ามากๆ นั้นต้องปรับให้เป็นบักกิ้งแฮมสไตล์ คือใส่หอมใหญ่น้อยและไม่เอาปาปริก้าเลย”

สมเด็จยังโปรดเสวยไข่ลวกหรือไข่ต้มเปลือกสีน้ำตาล โดยทรงเชื่อว่ามันมีรสดีกว่าไข่เปลือกสีขาว และถ้าเป็นแซนด์วิช ต้องตัดขอบขนมปังออก

ส่วนอาหารเนื้อสัตว์ โปรดให้เป็นสัตว์ที่เลี้ยงตามธรรมชาติ หรือล่าได้ในธรรมชาติ

พวกปลาจึงส่งเข้ามาจากพระราชวังบัลมอรัล เนื้อไก่งวงหรือสัตว์ล่าได้มาจากพระราชวังแซนดริงแฮม และผลไม้เป็นพวกที่ปลูกไว้เองในฟาร์มเรือนกระจกพระราชวังวินเซอร์

สมเด็จควีนจะทรงตรวจเมนูเป็นประจำและทรงขีดฆ่าอาหารที่ไม่โปรดออก ทั้งยังโปรดเสวยอาหารตามฤดูกาล

ถ้าเขียนเมนูที่มีสตรอว์เบอร์รี่ขึ้นไปนอกฤดู จะทรงขีดฆ่าและรับสั่งลงมาว่า “อย่าบังอาจส่งสตรอว์เบอร์รี่ตัดแต่งยีนมาให้ฉันกินเด็ดขาด”

เวลาเสวยกล้วยหอม จะใช้วิธีเดียวกับไข่ต้ม นั่นคือตัดปลายออก ไม่ใช่ขั้ว แล้วผ่าตามยาว จากนั้นตัดเป็นชิ้นๆ ก่อนใช้ส้อมจิ้ม

“ไม่มีการกินแบบลิงในวังบักกิ้งแฮมหรอก” ดาร์เรนย้ำ

และอย่างที่รู้กันดีว่าสมเด็จทรงประหยัดมัธยัสถ์ในแทบทุกเรื่อง เคยมีรับสั่งให้เอามะนาวเหลือใช้บนโต๊ะเสวยไปใช้ในครัวอีก จะตกแต่งจานหรือปรุงอาหารก็ได้ พวกอดีตเชฟจึงเม้าธ์กันในหมู่ตนว่าทรง

“very thrifty”