บันทึกหน้าสุดท้ายจากคาบูล อัฟกานิสถาน/รายงานพิเศษ มงคล วัชรางค์กุล

รายงานพิเศษ

มงคล วัชรางค์กุล

 

บันทึกหน้าสุดท้ายจากคาบูล

อัฟกานิสถาน

 

เครื่องบินอพยพเที่ยวสุดท้ายของอเมริกา เครื่อง C17 บินออกจากสนามบินนานาชาติคาบูล Hamid Karzai International Airport เมื่อเวลา 5 ทุ่ม 59 นาที ของคืนวันที่ 30 สิงหาคม 2021 เวลาอัฟกานิสถาน ก่อนเวลาเส้นตายการอพยพ 31 สิงหาคม 2021 ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำหนดไว้ 1 นาที

สองคนสุดท้ายที่เดินขึ้นเครื่องคือ เอกอัครราชทูตอเมริกันประจำกรุงคาบูล Charge d’ affaires Ross Wilson คนท้ายสุดคือ นายพล Gen. Chris Donahue ผู้บัญชาการส่งกำลังทางอากาศที่ 82 ผู้ควบคุมปฏิบัติการอพยพครั้งประวัติศาสตร์ ท่านนายพลแต่งชุดสนามครบเครื่อง ถือปืนไรเฟิลเดินขึ้นเครื่องเป็นคนสุดท้าย

ถึงแม้สงครามยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา-สงครามอัฟกานิสถาน 20 ปีจะปิดฉากลงแล้ว แต่ยังมีเหตุการณ์ที่ต้องบันทึกไว้เป็นความทรงจำหลายเรื่องราว ดังนี้

27 สิงหาคม 2021วันรุ่งขึ้น หลังจากระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มไอซิส-เค และการกราดยิงที่สังหารทหารอเมริกัน 13 คน บาดเจ็บ 20 คน คนอัฟกันตายไป 200 คนแล้ว ไบเดนกล่าวเตือนว่า ได้รับรายงานจากที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงว่า จะมีการก่อการร้ายครั้งใหญ่อีกภายใน 12-24 ช.ม.ข้างหน้า

แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามคำเตือน วันอาทิตย์ 29 สิงหาคม 2021 โดรนของอเมริกันตรวจพบรถคาร์บอมบ์จึงยิงจรวดสกัดจนรถระเบิดกระจุย คนอัฟกันเสียชีวิตสิบคน ในจำนวนนั้นมีเด็กหญิงอายุ 2 ขวบและ 7 ขวบรวมอยู่ด้วย

มีคนอัฟกันให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เจ้าของรถขับเข้ามาในลานจอดรถหน้าบ้าน มีเด็กและผู้ใหญ่เข้าต้อนรับ แล้วถูกจรวดยิงถล่ม เด็กตาย 5 คน ผู้ใหญ่ตาย 5 คน

ผู้แถลงข่าวของกระทรวงกลาโหมอเมริกัน (เพนตากอน) แถลงว่า เมื่อมีข่าวว่าพลเรือนได้รับบาดเจ็บ (หรือเสียชีวิต) เราจะปฏิเสธไม่ได้ แต่เขายืนยันว่า “ไม่มีกองทัพใดในโลกนี้ ที่จะทำงานหนักเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บของพลเรือนเท่ากับกองทัพอเมริกัน”

ศูนย์บัญชาการสหรัฐ (U.S. Command) ซึ่งรับผิดชอบปฏิบัติการทางทหารในอัฟกานิสถานแถลงว่า มีหลักฐานปรากฏชัดเจนว่า มีระเบิดขนาดใหญ่ในรถคันนั้น จึงทำให้เกิดการระเบิดมีคนเจ็บจำนวนมาก (โดรนตรวจเจอ จึงยิงจรวดสกัด)

การโจมตีครั้งรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นวันอาทิตย์เดียวกัน เมื่อกองกำลังรัฐอิสลามมิก ยิงจรวดเข้าใส่สนามบินที่กำลังอพยพผู้คน จรวด 3 ลูกพลาดเป้าหมายไปตกบริเวณที่ห่างไกล จรวดลูกที่สี่ตกในสนามบิน แต่ไม่ทำอันตรายทหารและผู้อพยพ จรวดลูกที่ห้าโดนจรวดของอเมริกันสกัดกั้นไว้ได้

24 ช.ม.วันสุดท้าย มีเที่ยวบินอพยพ 28 เที่ยว มีคนอเมริกันอพยพวันนี้ไม่ถึง 100 คน

อเมริกาปิดฉากสงครามยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ สงครามอัฟกานิสถาน 20 ปีลงเพียงเท่านี้

 

ไบเดนแถลงเมื่อ 1 กันยายน 2021 ว่า อเมริกาอพยพ 120,000 คน ทั้งคนอเมริกัน คนอัฟกันและคนชาติอื่นในเวลา 2 สัปดาห์ ถือเป็นความสำเร็จอันพิเศษสุด (extraordinary success)

“ไม่เคยมีชาติใดได้เคยทำสิ่งนี้มาก่อนในทุกประวัติศาสตร์ มีแต่อเมริกาเท่านั้นที่มีกำลัง ความตั้งใจ และความสามารถที่จะทำได้ และวันนี้เราได้ทำแล้ว”

ไบเดนบอกว่า ได้ตัดสินใจอพยพตั้งแต่เมื่อ 17 วันที่แล้ว ในจำนวนผู้อพยพ 120,000 คน มีคนสถานทูตและครอบครัวรวมอยู่ด้วย 2,500 คน คนอเมริกัน 5,500 คน คนอัฟกันมากกว่า 100,000 คน

ไบเดนบอกว่า เมื่อเขาขึ้นเป็นประธานาธิบดี ทาลิบันเข้มแข็งที่สุดนับจากปี 2001 ขณะนั้นทาลิบันคุมได้ครึ่งประเทศอัฟกานิสถานแล้ว

วันที่ 1 พฤษภาคม 2021 อเมริกามีทางเลือก 2 ทางคือ รีบถอนทหารออกหรือส่งทหารเข้าไปเพิ่มเติม

ไบเดนบอกว่า เขาจะไม่ส่งลูกชายและลูกสาวอเมริกันเข้าสู่สงครามอีกต่อไป

มีทหารอเมริกัน 800,000 คน หมุนเวียนเข้าสู่สงครามอัฟกานิสถาน

ไบเดนบอกว่า เขาได้แจ้งให้คนอเมริกันในอัฟกานิสถานอพยพออกจากประเทศนั้นตั้งแต่เดือนมีนาคม มีคำแจ้งเตือนอพยพทั้งหมด 19 ครั้ง

ขณะนี้มีคนอเมริกันตกค้างในอัฟกานิสถาน 100-200 คน แต่บางคนก็ไม่ต้องการอพยพเพราะได้ปักหลักสร้างครอบครัวที่นั่นแล้ว

ไบเดนย้ำว่า ไม่มีเส้นตายสำหรับคนอเมริกันในการอพยพ คนอเมริกันที่ต้องการอพยพจะต้องได้อพยพรวมทั้งคนอัฟกันด้วย

มีประเทศในสหประชาชาติ 100 กว่าประเทศรับรองว่า คนอัฟกันที่ต้องการอพยพจะได้อพยพ

วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตบอกว่า ไบเดนผิดคำพูดที่เคยรับรองว่า จะยังไม่ถอนทหารออกจนกว่าอเมริกันคนสุดท้ายจะอพยพออกจากอัฟกานิสถาน

 

ข่าวทีวีเสนอภาพไบเดนและกมลา แฮร์ริส ในพิธีต้อนรับร่างทหารอเมริกัน 13 รายที่เสียชีวิตที่สนามบินคาบูลกลับประเทศที่ฐานทัพในนิวเจอร์ซีย์

ทีวีโชว์ภาพถ่ายผู้เสียชีวิตทั้ง 13 คน คนที่อายุมากที่สุด 31 ปี อายุน้อยที่สุด 21 ปี ในจำนวนนี้เป็นนาวิกโยธินหญิง 2 คน

ทหารบาดเจ็บส่งไปรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลทหารอเมริกัน Landstuhl Regional Medical Center-LRMC ที่เยอรมนี ก่อนจะส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาล Walter Reed ศูนย์การแพทย์ทหารที่รัฐแมรีแลนด์

ทีวี Fox News ฉายภาพเต็นท์ผู้อพยพเรียงรายยาวเหยียดหลายชั้นในค่ายทหารอเมริกันที่เยอรมนี มีสุขาเคลื่อนที่ตั้งเรียงแถวริมถนน

ในค่ายนี้มีผู้อพยพอัฟกัน 13,000 คน รอตรวจสอบคัดกรองเพื่อส่งเข้าสหรัฐต่อไป

ถึงจะมีการอพยพคนอัฟกันออกมาแล้ว 100,000 กว่าคน แต่ก็ยังมีคนอัฟกันที่เคยทำงานให้กองทัพอเมริกันหรือบริษัทอเมริกันถูกทิ้งไว้เบื้องหลังเป็นจำนวนมาก คนเหล่านั้นกำลังตกอยู่ในอันตรายที่จะถูกคิดบัญชีจากทาลิบัน

The Wall Street Journal 1 กันยายน 2021 นำเสนอสกู๊ปเรื่องหนึ่งในตัวอย่างของคนอัฟกันที่กำลังตกอยู่ในอันตรายคือ โมฮัมเหม็ด (ขอสงวนนามสกุลเพื่อความปลอดภัย)

เมื่อ 13 ปีที่แล้ว ปี 2008 โมฮัมเหม็ดทำหน้าที่ล่าม ได้ช่วยเหลือวุฒิสมาชิกโจ ไบเดน และอีก 2 วุฒิสมาชิกจาก ฮ.ที่ต้องร่อนลงจอดในหุบเขา Afghanistan Valley เพราะพายุหิมะ โมฮัมเหม็ดส่งข้อความว่า

“ฮัลโลท่านประธานาธิบดี โปรดช่วยผมและครอบครัวด้วย อย่าลืมผมทิ้งไว้ที่นี่”

โมฮัมเหม็ด เมียและลูก 4 คนกำลังหลบซ่อนตัวจากทาลิบัน หลังจากการพยายามยื่นเอกสารขอวีซ่าอพยพพิเศษหลายปีไม่ประสบความสำเร็จจากความยุ่งเหยิงของระบบราชการอเมริกัน

“เราจะช่วยนำคุณออกมา” Jen Psaki ผู้แถลงข่าวทำเนียบขาวพูดหลังจาก WSJ นำเสนอข่าว และทีวี Fox News และ CNN นำบทความออกอากาศ

“เราขอให้เกียรติปฏิบัติการของคุณ” เธอกล่าว

โมฮัมเหม็ดอายุ 36 ปีตอนที่ ฮ.แบล็กฮอว์ก 2 ลำต้องลงจอดฉุกเฉินเพราะพายุหิมะที่มืดมิดในหุบเขาอัฟกานิสถาน บริเวณนั้นใกล้เหล่านักรบทาลิบัน เมื่อได้รับเสียงขอความช่วยเหลือที่ฐานทัพอากาศ Bagram Air Field โมฮัมเหม็ดกระโดดขึ้นรถฮัมวี่พร้อมกับหน่วยเคลื่อนที่เร็วของ Arizona National Guard ที่ทำงานกับเหล่าส่งกำลังทางอากาศที่ 82 ขับรถไปหลายชั่วโมงในหุบเขาอัฟกานิสถานอันเต็มไปด้วยอันตราย เพื่อช่วยชีวิตไบเดน

โมฮัมเหม็ดออกปฏิบัติการในฐานะล่ามที่หุบเขาอัฟกานิสถานมากกว่า 100 ครั้ง

โมฮัมเหม็ดอยู่ในรถฮัมวี่ร่วมกับรถ Blackwater SUVs บุกฝ่าหิมะหนาเตอะเพื่อค้นหา ฮ. เมื่อพบแล้ว โมฮัมเหม็ดยืนเฝ้าระวังร่วมกับทหารอัฟกันทางด้านหนึ่งของ ฮ. ทหารจากกองกำลังส่งทางอากาศที่ 82 ปกป้องทางอีกด้านหนึ่ง

เมื่อคนท้องถิ่นเข้ามาใกล้ โมฮัมเหม็ดเป่าแตรให้ถอยห่างออกไป

ปฏิบัติการทั้งหมดนานกว่า 30 ช.ม.ในบรรยากาศเยือกแข็ง จนกระทั่งทหารนำ ฮ.กลับขึ้นบิน และกองกำลังถอนกลับฐานทัพ Bagram

ไบเดนนำเรื่องประสบการณ์ทาง ฮ.ในอัฟกานิสถานครั้งนั้นมาใช้หาเสียงในขณะสมัครตำแหน่งรองประธานาธิบดี ปี 2008

แต่สำหรับล่ามโมฮัมเหม็ด เขาคือบุคลที่ถูกลืม

Special Immigrant Visa ของโมฮัมเหม็ดถึงทางตัน เมื่อหน่วยงานที่เขาทำงานด้วยทำบันทึกการทำงานของเขาสูญหาย ยื่นขอวีซ่าไม่ได้ ถึงแม้นายทหารผ่านศึกที่ปฏิบัติงานร่วมกับเขาเมื่อปี 2008 จะออกหนังสือรับรองให้ว่า

“ถ้าจะช่วยคนอัฟกันได้เพียงคนเดียว คนที่ควรคุณค่าคือ โมฮัมเหม็ด”

ด่านตรวจของอเมริกันบอกว่า โมฮัมเหม็ดผ่านเข้าประตูสนามบินได้เพียงคนเดียว เมีย, ลูกเข้าไม่ได้

โมฮัมเหม็ดส่งข่าวว่า เขาต้องซ่อนตัวอยู่แต่ในบ้าน ไม่กล้าออกมา เขากลัวมาก

 

Google News รายงานเมื่อ 4 สิงหาคม 2021 ว่าผู้หญิงอเมริกันชื่อ Sarah (ขอสงวนนามสกุลเพื่อความปลอดภัย) เธออายุ 25 ปี กำลังท้อง เธอเดินทางมาสนามบินคาบูลพร้อมสามีชาวอัฟกัน ต้องนอนริมถนน 3-4 วัน ก็ยังไปไม่ถึงประตูสนามบิน เธอถูกทหารทาลิบันเตะที่ท้อง

ตอนนี้ Sarah ต้องหลบซ่อนอยู่ที่บ้านด้วยความหวาดกลัวทหารทาลิบันที่กำลังตรวจค้นบ้านทีละหลังเพื่อหาคนที่ถือพาสพอร์ตสีน้ำเงิน (American Passport)

รมต.ต่างประเทศสหรัฐ Secretary of State – Anthony Blinken แถลงเมื่อ 2 สิงหาคม 2021 ว่า

สถานทูตอเมริกันในคาบูลย้ายมาตั้งที่โดฮา, กาตาร์ ทำหน้าที่

1. ติดต่อคนอเมริกันที่ยังตกค้างในอัฟกานิสถาน เมื่อเดือนมีนาคม ส่งข้อความติดต่อ 10 ครั้ง จนถึงเดี๋ยวนี้ส่งข้อความ 19 ครั้ง โทรศัพท์ 55,000 ครั้ง ส่งอีเมล 30,000 ครั้ง จะต้องไม่มี Dead Line ของคนอเมริกันที่จะอพยพ

2. ออก Special Immigrant Visa – SIV ให้คนอัฟกันที่เคยช่วยปฏิบัติงานให้อเมริกา

ในเรื่องการออก SIV ให้คนอัฟกัน ไบเดนออกคำสั่งเมื่อเดือนมกราคมให้ออก SIV ให้เพิ่มมากที่สุด ได้เพิ่มคนปฏิบัติงานอีก 50 คน ออก SIV ได้เพิ่มจากเดิมอาทิตย์ละไม่กี่ร้อยราย เพิ่มเป็นอาทิตย์ละหนึ่งพันราย

3. สหรัฐติดต่อตุรกีให้ช่วยประสานให้เปิด Kabul Airport โดยเร็วที่สุด

4. ตัว Blinken จะเดินทางไปโดฮา, กาตาร์ในวันอาทิตย์เพื่อคุยกับทาลิบัน

แล้ว 5. เดินทางต่อไปเยอรมนี

6. จำนวนคนอพยพทั้งหมด 124,000 คน

ในวันเดียวกัน ไบเดนแถลงยืนยันความถูกต้องของการตัดสินใจถอนทหาร เขาบอกว่า ตัดสินใจถอนทหารตั้งแต่ 7 เดือนที่แล้ว

ไบเดนบอกว่า เขาเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา สิ่งเลวร้ายทั้งหลายจะต้องยุติสิ้นสุดเมื่อมาถึงตัวเขา

“I’m the President of the United States of America and the Bug stops with me”

สิ่งที่เลวร้ายคือ Bad deal เรื่องถอนทหาร

“มีทหารผ่านศึกอเมริกันฆ่าตัวตาย 18 คนเกิดขึ้นทุกวัน”

ต้องหยุดส่งทหารอเมริกันเข้าสู่สงคราม

2 สิงหาคม 2021 Fox News รายงานข่าวเรื่องโทรศัพท์จากประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน อัชราฟ กานี (Ashraf Ghani) ถึงไบเดนเมื่อเดือนกรกฎาคม มีผู้สื่อข่าวถามผู้แถลงข่าวทำเนียบขาวว่า มีข้อความอะไรบ้าง

เธอปฏิเสธว่า เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่สองคนสนทนากัน ไม่สมควรนำมาเปิดเผย แต่ Fox News รายงานว่า ประธานาธิบดีกานีโทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือว่า

“ท่านประธานาธิบดี เรากำลังเผชิญหน้ากับการบุกรุกเต็มขนาดของทาลิบันภายใต้การวางแผนและส่งกำลังบำรุงจากปากีสถาน

อย่างน้อยที่สุด มีผู้ก่อการร้ายนานาชาติ 10,000-15,000 คน จากการจัดส่งโดยเด่นชัดจากปากีสถาน ดังนั้น ด้วยตัวเลขกองกำลังบุกรุกขนาดใหญ่เช่นนี้ จำเป็นที่จะต้องใช้กองทัพอากาศของท่านโจมตีหยุดยั้งการบุกรุกนี้”

Fox News บอกว่า ไบเดนโกหกคนอเมริกัน และโกหกคนทั้งโลกไม่ยอมเปิดเผยคำขอความช่วยเหลือจากประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน แถมยังบอกว่า อัฟกานิสถานมีกองทัพที่เหนือกว่าทาลิบัน

คะแนนของไบเดนตกต่ำสุดนับจากเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

ไบเดนยอมปล่อยให้อัฟกานิสถานเป็นสวรรค์ของผู้ก่อการร้ายนานาชาติ