หลังเลนส์ในดงลึก : ‘ความจริง’ / ปริญญากร วรวรรณ

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ
หมาไน - ในป่าบางแห่ง สัตว์ผู้ล่าอย่างเสือหายไปแล้วจากพื้นที่ หมาไนจึงทำหน้าที่ควบคุมปริมาณสัตว์กินพืชแทน

 

‘ความจริง’

 

…ทํางานอยู่ในป่า แต่รู้สึกเหมือนอยู่ต่างประเทศ ผมบอกบ่อยๆ ว่าอยู่กับบรรยากาศเช่นนี้ สิ่งอันทำให้เป็นอย่างนี้ นอกจากเรื่องภาษาถิ่น ที่เพื่อนๆ ร่วมงานของผมใช้ ผมพบกับ คนผู้มาจากแดนไกลเสมอๆ ส่วนใหญ่พวกเขามาในฐานะนักวิจัย มาเพื่อศึกษา เรียนรู้เรื่องราวสัตว์ป่า มีไม่น้อยอยู่ในสายอาชีพเดียวกัน อย่างเป็นช่างภาพ นักเขียน เหล่าคนทำสารคดี

เมื่อพบกับคนเหล่านี้ ความแปลกหน้าสลายอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะเมื่อพูดคุย และมีทัศนะ รวมทั้งมีประสบการณ์ในป่าไปในทางเดียวกัน

ไม่ว่าพวกเขาหรือเธอจะมาจากมุมใดของโลก

งานที่ทำ บอกผมอย่างหนึ่งว่า โลกธรรมชาตินั้นไม่มีพรมแดน เหล่านักเดินทางผู้ใช้ปีกบางๆ เดินทางย้ายถิ่นนับหมื่นกิโลเมตร คือความจริงที่พิสูจน์ให้เห็น

ครัวเล็กๆ ในสถานีวิจัยสัตว์ป่า บางครั้งก็คล้ายเป็นพื้นที่นานาชาติ ใช้ภาษาสากล

เป็นที่ซึ่งเราเล่าความจริงของเหล่าสัตว์ป่าจากมุมต่างๆ ของโลกสู่กันฟัง

 

“เมืองไทยมีเสือกินคนไหมครับ” คำถามจากชายหนุ่มผมสีทองสั้นเกรียน ดวงตาสีฟ้า รูปร่างล่ำสัน ทำให้ผมเสียมารยาทหัวเราะขำ

ผมนึกถึงนัสเซอร์ เพื่อนชาวบังกลาเทศ ที่ทำงานในป่าซุนดาบัน เขาเล่าความจริงในเรื่องราวระหว่างเสือกับคนที่นั่นให้ฟัง ความขัดแย้งที่นั่นเป็นที่รับรู้

ชายหนุ่มตาสีฟ้าผู้ถามผมอีกคนนี้ แนะนำตัวเองว่าชื่อสมุทร

ผมพบเขาหลังกลับจากทำงานอยู่ในป่าหลายวัน

“ชื่อจริงผมเรียกยากครับ เรียกว่าสมุทรดีกว่าผมชอบด้วย”

สมุทรมาจากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน กำลังศึกษาปริญญาตรีด้านชีววิทยา หัวข้อศึกษาของเขาคือ กระซู่ แรดขนาดเล็กชนิดหนึ่งซึ่งอยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง พื้นที่ศึกษาอยู่ในป่าบอร์เนียว

“ผมถูกส่งมาให้เรียนรู้เรื่องเสือโคร่งที่นี่ครับ เพราะถ้าจบปริญญาตรีแล้วอยากศึกษาเรื่องเสือโคร่งต่อ” สมุทรบอก

 

“ผมไม่เคยพบด้วยตัวเองนะครับ ส่วนใหญ่มีเรื่องเล่าบ้าง แต่มีความเชื่อเรื่องเสือกินคนเยอะ เพราะเสือมักเป็นสัตว์อันตรายในนิยายหรือละคร” ผมตอบคำถามสมุทร เรื่องเสือกินคน เหมือนที่เคยตอบนัสเซอร์

“แปลกดีนะครับ ผมว่าจริงๆ แล้วคนนี่แหละคือเหยื่อที่ล่าง่ายที่สุด แต่เสือเมืองไทย แค่ได้กลิ่นคนก็หลบไปแล้ว”

“ในป่าซุนดาบันไม่ใช่แบบนี้นะครับ” ผมคุยกับเขา ตามข้อมูลนัสเซอร์ คนทำงานที่นั่นบอก

สมุทรพยักหน้าช้าๆ “เข้าใจครับ ผมศึกษาข้อมูลของซุนดาบันมาบ้าง”

“เสือเลือกคนเป็นเหยื่อเพราะพวกมันถูกบุกรุกที่อาศัยมาก ประชากรเหยื่อในธรรมชาติก็ลดลง จำนวนไม่พอเพียง” สมุทรพูด

“เอาจริงๆ แล้ว ผมว่าเสือป่าซุนดาบันสถานภาพน่าเป็นห่วงมากเลยนะครับ พอๆ กับสถานภาพของกระซู่เลย”

กระซู่ หรือแรด พวกมันไม่ใช่สัตว์ร้ายในความเชื่อ การถูกทำลายแหล่งอาศัย และเชื่อว่าซากพวกมันมีสรรพคุณ คือสิ่งที่กำลังเผชิญ

“ทำไมถึงสนใจมาเรียนเรื่องกระซู่ล่ะครับ มาไกลจากบ้านมาก” ผมมองหน้าสมุทร

“โลกไม่กว้างนะครับ สัตว์ป่าอยู่มุมไหนของโลกก็เหมือนกันครับ เผชิญหน้ากับปัญหาแบบเดียวกัน”

ดวงตาสีฟ้าของเขาฉายแววจริงจัง…

 

ว่าตามจริง ผมพบกับ “เหตุร้าย” บ่อยๆ ในป่าใช่ว่ามีแต่สายหมอกลอยละเลี่ยภูเขา ลำธารใส ผีเสื้อสวยงามบินร่อน

ชายหนุ่มเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งจากไปเพราะช้างโจมตีขณะขี่มอเตอร์ไซค์กลับจากบ้าน

วันหนึ่งตอนเช้า ไม่ไกลจากสถานีวิจัยสัตว์ป่า ชายผู้หนึ่งนอนเสียชีวิตข้างทาง เสื้อผ้ากระจัดกระจาย สภาพขาหัก ร่างบอบช้ำ

จากร่องรอย เราพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นช้าง

“ไอ้ด้วนนั่นแหละ” ทุกคนลงความเห็น ไอ้ด้วนที่ถูกกล่าวหา เป็นช้างที่เคยปะทะกับคนหาของป่า เคยถูกยิง ถูกมีดฟัน

มันอารมณ์ร้าย และมันจำ เวลาที่มัน “เอาคืน” มันไม่เลือกว่าเป็นใคร

 

“สาเหตุเดียวกันทั้งโลกเลยนะครับ” สมุทรให้ความเห็น

“พื้นที่อยู่ถูกบุกรุก ถูกทำร้าย บาดเจ็บ และป่วย พวกมันบางตัวตื่นหนี บางตัวเลือกตอบโต้”

“กับสัตว์ป่าบางตัว ผมว่าช่วงเวลาแห่งมิตรภาพระหว่างพวกมันกับคน หมดลงแล้วล่ะครับ” สมุทรพูดอย่างเข้าใจ

สมุทรมีเวลาไม่มาก มีงานรออยู่ที่บอร์เนียว

เราขึ้นเขาไปดูนกเงือกคอแดง เขาพบนกตัวที่อยากพบ ตอนเย็นเขาเปิดกล้องอวดรูปที่ถ่ายได้

“ตอนแยกกันเมื่อเช้า ผมเจอรอยตีนหมีควายด้วย” เขาคุย

“นกเงือกกรามช้าง นกกก หลายตัวเลยครับ” เขาเล่าด้วยเสียงตื่นเต้น “อ้อ ตอนเดินกลับมานี่ เจอเสือดาวด้วย” เขาบันทึกอย่างภูมิใจ

ผมมองข้ามกองไฟไปที่สมุทร ที่กำลังก้มหน้าก้มตาบันทึกเรื่องราวในสมุดบันทึก

ท่าทางกระตือรือร้น เอาจริง ดูเหมือนหนทางเรียนรู้เขามีมากมาย แต่เขาเลือกที่จะเรียนรู้เรื่องราวสัตว์ป่า เลือกหนทางที่จะบอกใครๆ ด้วยความจริงว่า โลกไม่กว้าง โลกของสัตว์ไม่มีพรมแดน

และโลกใบนี้ ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เป็นเฉพาะที่อยู่ของมนุษย์

 

กองไฟมอด เราแยกย้าย สมุทรเดินไปขึ้นเปล

ละอองฝนโปรย แคมป์รายล้อมด้วยความมืด

ในป่ามีเรื่องเล่ามากมาย ผมเล่าเรื่องราวสัตว์ป่าในแบบที่ผมรู้จัก ไม่ปฏิเสธหรอกว่า ในป่ามี “เหตุร้าย” เกิดขึ้น ไม่แก้ตัวแทน “สัตว์ร้าย” ผมคงไม่บอกว่า มีสัตว์ดี หรือไม่มีสัตว์ร้าย แต่จะบอกว่า พวกมันคือชีวิต

นานมาแล้วที่ผมเลือกใช้ชีวิตในป่า

เพื่อนำ “ความจริง” มาเล่าให้ฟัง