ไอซิส-เค (ISIS-K) ลูบคมไบเดน เปิดฉาก ‘กลียุค’ ในอัฟกานิสถาน/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

มงคล วัชรางค์กุล

 

ไอซิส-เค (ISIS-K) ลูบคมไบเดน

เปิดฉาก ‘กลียุค’ ในอัฟกานิสถาน

 

วันพุธที่ 25 สิงหาคม 2021 ประธานาธิบดีไบเดนแถลงว่า เขาได้คุยกับผู้นำอังกฤษ, เยอรมัน, ฝรั่งเศส และผู้นำ G-7, ผู้นำ United Nations, NATO และ the European Union แล้ว ทุกประเทศเห็นด้วยกับการถอนตัวของอเมริกาออกจากอัฟกานิสถาน ซึ่งจะสิ้นสุดการอพยพวันที่ 31 สิงหาคมนี้

ถึงบ่ายของวันนี้ อพยพไป 70,700 คน ถ้านับจากสิ้นเดือนกรกฎาคมจนถึง 14 สิงหาคม อพยพไป 75,900 คน

ในช่วง 12 ชั่วโมงของวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมาใช้เที่ยวบินทหารอเมริกัน 19 เที่ยว, 18 เที่ยวใช้เครื่อง C17s และหนึ่งเที่ยวด้วยเครื่อง C130 ขนผู้อพยพ 6,400 คน และอีก 31 coalition flights (เที่ยวบินพันธมิตร) ขนคน 5,600 คนออกจากคาบูล

รวมเที่ยวบินกว่า 50 เที่ยวบิน Fox News รายงานว่าสนามบินคาบูลมีเครื่องบินขึ้นลงทุก 45 นาที

ไบเดนบอกว่า ได้ประสานกับผู้นำทาลิบันแล้ว ขอให้เปิดด่านเช็กพอยต์ให้คนอเมริกันและคนอัฟกันที่มี Special Immigrant Visa เดินทางไปสนามบินคาบูล

ทาลิบันได้ให้ความร่วมมือรับปากจะเปิดทางให้คนเดินทาง แต่ไม่มีใครเชื่อคำพูดของทาลิบัน ประชาคมโลกจะตัดสินจากการกระทำของทาลิบัน

ไบเดนเน้นย้ำว่า การอพยพถ้าสิ้นสุดได้เร็วเท่าไรจะเป็นสิ่งที่ดียิ่งกว่า (The sooner we can finish, the better)

 

นี่เป็นปฏิบัติการที่มีความเสี่ยงและอันตรายที่สุด

เพราะมีการเพิ่มขึ้นของพวกกลุ่มรัฐอิสลามมิก (Islamic State group) ในอัฟกานิสถาน (ซึ่งพร้อมจะเข้าโจมตีอย่างเฉียบพลัน)

ไบเดนพูดถึงการโจมตีที่จะมาจากกลุ่มก่อการร้าย ISIS-K, ISIS affiliate in Afghanistan – ไอซิส กลุ่มรัฐอิสลามมิกในอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นศัตรูของทาลิบันด้วยเช่นกัน เรารู้ว่า ISIS-K กำลังหาหนทางเข้ามาที่สนามบินเพื่อโจมตีทั้งทหารอเมริกัน, ทหารพันธมิตรและประชาชนผู้บริสุทธิ์

สำนักข่าว BBC ระบุว่า ISIS-K คือกลุ่มรัฐอิสลามจังหวัดโคราซัน (Khorasan) เป็นกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นซึ่งเป็นแนวร่วมกับกลุ่มไอซิส เคลื่อนไหวอยู่ในประเทศอัฟกานิสถานและปากีสถาน

เป็นกลุ่มที่ได้ชื่อว่าสุดโต่งและรุนแรงที่สุดในบรรดากลุ่มติดอาวุธญิฮาดทั้งหมดในอัฟกานิสถาน

ขณะนี้ ทาลิบันได้ให้ความร่วมมือตามขั้นตอนที่ช่วยให้มีการอพยพเกิดขึ้น

ทุกวันที่มีการปฏิบัติการล้วนเพิ่มความเสี่ยงให้ทหารของเรา

ไบเดนเตือนว่า หากมีการทำร้ายคนอเมริกันหรือทหารอเมริกัน จะเป็นสาเหตุให้มีการกดปุ่มตอบโต้อย่างรุนแรงในทันที

ผู้บัญชาการทหารจากเพนตากอนรายงานว่า จากวันที่ 14-25 สิงหาคม อพยพ 82,500 คนบินออกจากคาบูล เฉพาะวันที่ 24-25 สิงหาคม อพยพ 19,000 คน เป็นอเมริกัน 90 คน อพยพคนอเมริกันออกมาแล้ว 4,500 คน ถือเป็น Priority มีคนอเมริกันจะอพยพทั้งหมด 6,000 คน

เพนตากอนบอกว่ายังมีคนอเมริกันอยู่ในคาบูล 1,000 คน (Fox News บอกว่า 1,500 คน) สถานทูตติดต่อส่งอีเมล 20,000 อีเมล, โทรศัพท์ 45,000 ครั้ง

วันสุดท้ายจะอพยพคนอเมริกัน 500 คน สถานทูตส่งคำแนะนำว่าจะมาถึงสนามบินได้อย่างไร

อเมริกาบอกว่า จะไม่มีกำหนดเส้นตาย มี 114 ประเทศทั่วโลกยืนยันกับทาลิบันว่า คนอัฟกันที่ต้องการออกนอกประเทศ จะต้องได้ออกไปถ้าต้องการ สหรัฐจะใช้การทูต การเศรษฐกิจทุกอย่างช่วยคนอัฟกันที่ต้องการออกนอกประเทศ

แล้วไบเดนก็ถูกลูบคม

 

The Wall Street Journal และข่าวทีวีทุกช่องในอเมริกา 27 สิงหาคม 2021 รายงานว่า วันพฤหัสบดี 26 สิงหาคม มือระเบิดฆ่าตัวตายของ ISIS-K 2 คน บุกเข้าด่านตรวจทหารอเมริกันหน้าสนามบินคาบูล นอกประตู Abbey ห่าง 500 เมตร จุดระเบิดฆ่าตัวตาย พร้อมกลุ่มมือปืน ISIS-K ระดมยิงเข้าใส่ฝูงชนบริเวณด่านอย่างบ้าคลั่ง

นาวิกโยธินอเมริกันตาย 12 คน หมอทหารตาย 1 คน บาดเจ็บ 15 คน ข่าวล่าสุด Fox News บอกว่า คนอัฟกันตาย 159 คน ในจำนวนนี้เป็นทาลิบัน 28 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก

WSJ 28-29 สิงหาคม 2021 รายงานว่าตัวเลขคนตายมากกว่า 200 คน

สนามบินมีทางเข้า 4 ประตู

ขณะเดียวกันมีระเบิดพลีชีพอีกลูกที่โรงแรม Baron Hotel ใกล้สนามบิน แต่ไม่มีรายงานคนอเมริกันเสียชีวิตที่นี่

ในการอพยพวันแรก มีคนอเมริกันมารวมตัวกันที่ Baron Hotel 169 คน แล้วขึ้น ฮ.ชีนุก บินเข้าสนามบินคาบูล

ทาลิบันแถลงว่า บริเวณที่ถูกโจมตีเป็นเขตคุ้มครองของทหารอเมริกัน

CNN บอกว่า ISIS-K ประกาศเป็นผู้รับผิดชอบการโจมตี

มีคำถามว่า หน่วยระเบิดฆ่าตัวตายและกลุ่มมือปืน ISIS-K ผ่านด่านตรวจของทาลิบันเข้ามาจนถึงหน้าประตูสนามบินได้อย่างไร

ไบเดนแถลงเมื่อบ่ายวันพฤหัสฯ 26 สิงหาคม 2021 ถึงการโจมตีพร้อมกล่าวประณาม

“เราจะไม่ให้อภัย เราจะไม่ลืมเลือน เราจะตามล่าให้ได้ พวกแกจะต้องชดใช้”

“We will not forgive. We will not forget. We will hunt you down and make you pay.”

มีผู้สื่อข่าวไปถาม Jan Psaki ผู้แถลงข่าวทำเนียบขาวว่า คำพูดไบเดนที่ว่า “เราจะตามล่าให้ได้ พวกแกจะต้องชดใช้” หมายความว่าอย่างไร เธอตอบว่า

“ประธานาธิบดีหมายความชัดเจนว่า จะไม่ให้คนพวกนั้นมีชีวิตอยู่ในโลกอีกต่อไป”

 

ไบเดนแถลงต่อว่า เขาได้แนะนำผู้บัญชาการทหารให้พัฒนาป้องกันการโจมตี รวมทั้งการตอบโต้เหล่าผู้นำทัพ ISIS-K, เครือรัฐอัฟกัน Islamic State ที่เพนตากอนจะต้องต่อต้านการโจมตี

ทาลิบันเป็นศัตรูกับกลุ่มรัฐอิสลามมิก เมื่อทาลิบันยึดคาบูลได้ ได้ปล่อยนักโทษ ISIS-K ออกจากคุกหลายพันคน แต่สังหารผู้นำกลุ่มรัฐอิสลามมิกหลายคนที่ถูกคุมขังในคุกนั้นภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่เข้ายึดครอง

มีกลุ่มรัฐอิสลามมิกในอัฟกานิสถาน 2 กลุ่มที่กำลังต่อสู้กันมาตั้งแต่ปี 2015 โดยเฉพาะในภาคตะวันออกของประเทศ โฆษกทาลิบันบอกสำนักข่าว Iranian state media ว่า กลุ่มรัฐอิสลามมิกจะต้องไม่มีอยู่ในอัฟกานิสถานอีกต่อไป

“เราขอประณามอย่างรุนแรงต่อความสยดสยองที่เกิดขึ้น และจะติดตามนำคนร้ายมาลงโทษให้ได้ “โฆษกทาลิบันกล่าว

ไม่มีทหารอเมริกันเสียชีวิตในอัฟกานิสถานมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 การถูกโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายคราวนี้เป็นการโจมตีที่มีการสูญเสียรุนแรงที่สุดนับแต่ปี 2011 ซึ่งครั้งนั้น ฮ. Chinook ถูกยิงตก ทหารอเมริกันตาย 31 คน ทหารอัฟกันตาย 7 คน หมาทหารตาย 1 ตัว

การถูกโจมตีคราวนี้จึงเป็นเรื่องที่ทำร้ายความรู้สีกคนอเมริกันจนช็อก

ไบเดนบอกว่า หัวใจเขาแหลกสลายจากความรุนแรง (he was heartbroken by the violence) และจะตอบโต้การโจมตีทั้งมวล

 

วันต่อมา เพนตากอนแถลงว่า ได้ส่งโดรนสังหาร บินจากตะวันออกกลางไปสังหารมือวางแผน 2 คนของ ISIS-K ที่เมืองชายแดนอัฟกานิสถานที่ติดกับปากีสถาน

การปฏิบัติการสำเร็จด้วยดี ไม่มีพลเรือนได้รับผลกระทบจากการสังหารครั้งนี้ แต่เพนตากอนไม่ได้บอกว่าเหยื่อชื่ออะไร

โดรนสังหารเป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้เด็ดชีพสุไลมานีแห่งอิหร่านเมื่อต้นปีก่อน

สถานทูตอเมริกันมีคำแนะนำให้คนอเมริกันรีบออกจากหน้าประตู Abbey, หน้าประตูทางตะวันออกและหน้าประตูทางเหนือของสนามบินในทันที

The Wall Street Journal ฉบับเสาร์/อาทิตย์ 28-29 สิงหาคม 2021 รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีมากกว่า 200 คน ในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทรวงสาธารณสุขอัฟกานิสถานรวมอยู่ด้วย

วันรุ่งขึ้น ฝูงชนหลายร้อยคนยังเบียดเสียดบนถนนที่อุดมด้วยเศษซากจากการโจมตี ผู้คนเหยียบย่ำบนกองเลือดที่เจิ่งนองบนคราบน้ำกลางถนน และกองเศษเสื้อผ้าขาดวิ่นยับเยินของผู้สูญเสีย เพื่อดิ้นรนไปสู่ประตูเข้าสนามบิน

WSJ ฉบับเดียวกันให้ข้อมูลว่า มีการอพยพผู้คนแล้ว 110,000 คน เครื่องบินทหารอเมริกันขนผู้อพยพไปคัดกรองที่ฐานทัพในกาตาร์, เยอรมนี และสเปน แล้วเปลี่ยนเป็นเที่ยวบินเอกชน 6 สายการบิน บินสู่เมืองที่มีค่ายทหาร (Forts) ในหลายรัฐของสหรัฐ

Fox News รายงานว่าผู้อพยพจะได้รับการตรวจโควิด-19, ฉีดวัคซีน แล้วเข้าพำนักในค่ายทหาร ได้รับอาหารและน้ำดื่มเพื่อการดำรงชีวิต ก่อนจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ตามกระบวนการต่อไป

ในขณะเดียวกัน เครื่องบินของพันธมิตร เช่น อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (อพยพคนเยอรมันและคนอัฟกัน 5,300 คน), อิตาลี, นอร์เวย์, สวีเดน, สเปน, ตุรกี, เกาหลี, ไอร์แลนด์, ออสเตรเลีย, ยูเครนและอินโดนีเซีย ที่มารับนักการทูตและประชาชนสัญชาติตนกลับประเทศก็รับผู้อพยพอัฟกันเข้าประเทศนั้นๆ ด้วย

เครื่องบินของอิตาลีต้องบินขึ้นท่ามกลางการระดมยิงจากข้างสนามบิน นักบินต้องใช้ฝีมือในการบังคับเครื่องหลบหลีกห่ากระสุน

เครื่องบินของเกาหลีพาผู้อพยพอัฟกันไปส่งที่ฐานทัพใกล้อินชอน

เครื่องบินของอินโดนีเซียนอกจากรับคนอินโดนีเซียนกลับแล้ว ยังรับนักการทูตฟิลิปปินส์และผู้อพยพอัฟกันกลับไปด้วย

นี่คือความร่วมมืออพยพที่ยิ่งใหญ่ของประชาชาติทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะสหรัฐประเทศเดียว

 

Fox News 28 สิงหาคม 2021 ให้ข่าวประธานาธิบดีไบเดนกล่าวเตือนว่า ที่ปรึกษาความมั่นคงแจ้งว่าจะมีการโจมตีครั้งใหญ่จาก ISIS-K ภายใน 24-36 ชั่วโมงข้างหน้า

ต้นฉบับนี้เขียนเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม กว่าจะถึงวันตีพิมพ์คงรู้กันแล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้น

Fox News บอกว่านี่เป็นวันที่มืดมนที่สุดของไบเดน

ไบเดนคือผู้ที่สร้าง “กลียุค” ให้อัฟกานิสถาน

เพราะหลังจากทหารอเมริกันออกจากอัฟกานิสถานในวันที่ 31 สิงหาคม 2021 แล้ว

จะเป็นการห้ำหั่นของ 4 ก๊ก คือ ทาลิบัน, ISIS-K, กลุ่มรัฐอิสลามมิก 2 กลุ่ม เพื่อยึดครองอัฟกานิสถาน