อัฟกานิสถาน : การกลับมาของฏอลิบาน (4)/มุมมุสลิม จรัญ มะลูลีม

จรัญ มะลูลีม

มุมมุสลิม

จรัญ มะลูลีม

 

อัฟกานิสถาน

: การกลับมาของฏอลิบาน (4)

 

การถอนทหารสหรัฐ

ออกจากอัฟกานิสถาน

เป็นกิจการที่มีความสับสน

การถอนทหารทั้งหมดจากอัฟกานิสถานก่อนวันที่ 11 กันยายน 2021 กลายเป็นภารกิจที่มีความสับสน ท่ามกลางความหวาดหวั่นว่าชัยชนะของฏอลิบานจะกลายมาเป็นความกังวลในหมู่เพื่อนบ้านของอัฟกานิสถาน

ในสัปดาห์ที่สองของเดือนเมษายน 2021 Biden ผู้นำของสหรัฐได้ประกาศอย่างเป็นทางการถึงการถอนทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถาน หลังจากสหรัฐเข้าไปยึดครองและบดขยี้พวกเขามายาวนานกว่าสองทศวรรษ เขากล่าวว่า ทหารสหรัฐจะออกจากอัฟกานิสถานก่อนวันที่ 11 กันยายน ปีนี้อันเป็นวันครบรอบเหตุการณ์ 9/11 ที่มีการโจมตีผืนแผ่นดินสหรัฐ

ภายใต้ข้อตกลงที่ลงนามในกรุงโดฮา ฝ่ายบริหารของ Trump เรียกร้องให้มีการถอนทหารสหรัฐทั้งหมดจากประเทศอัฟกานิสถานภายในเดือนพฤษภาคม ทหารจำนวนมากได้ถอนตัวออกมาจากอัฟกานิสถานก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ยังคงมีทหารสหรัฐจำนวนหนึ่งที่ยังเหลืออยู่ในอัฟกานิสถานในจำนวนเดียวกันกับทหารจากนาโต้

Biden ทำให้เป็นที่กระจ่างชัดว่าไม่มีเงื่อนไขอะไรกำกับการถอนทหารของสหรัฐออกจากอัฟกานิสถาน โดยย้ำว่ารัฐบาลอัฟกานิสถานได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐมาถึง 20 ปี ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วพวกเขาต้องอยู่กับตัวเองได้แล้ว

แต่ถึงที่สุดพวกเขาก็ไม่อาจต่อกรกับกองกำลังของฏอลิบานได้

อย่างไรก็ตาม การถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานกลายเป็นกิจการที่นำความสับสนมาให้สหรัฐ ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับรัสเซียแล้ว รัสเซียถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานได้ไม่ยากนัก เพราะพวกเขาสามารถออกมาจากอัฟนิสถานได้อย่างเป็นระเบียบและมีวินัย ผ่านตาจิกิสถาน อุซเบกิสถาน และเติร์กเมนิสถาน

เจ้าหน้าที่ทางทหารของสหรัฐพยายามเชิญชวน Biden ให้มีความคิดว่าอย่างน้อยสหรัฐควรจะมีกองกำลังที่จะต่อต้านผู้ก่อการร้ายในประเทศอัฟกานิสถานอยู่บ้าง

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าทหารที่มีสัญญาอยู่ในประเทศนี้ราว 7,000 คน จะยังคงอยู่ในภาคพื้นดินของอัฟกานิสถานต่อไปอีกระยะหนึ่ง

Lloyd J. Austin และเจ้าหน้าที่ระดับนำทางทหารเห็นด้วยว่าทหาร 4,500 นาย ควรจะลาดตระเวนอยู่ในอัฟกานิสถาน

ทั้งนี้ กลุ่ม Afgham Study Group ได้เตือนฝ่ายบริหารของ Biden มิให้ยึดอยู่กับไทม์ไลน์ของการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน

William Burns ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวกรองของสหรัฐบอกกับคณะกรรมการข่าวกรองในเดือนพฤษภาคมว่ามีความเสี่ยงที่สำคัญ ซึ่งยึดโยงอยู่กับการถอนกองกำลังของสหรัฐออกจากอัฟกานิสถาน

เขากล่าวว่า สหรัฐที่มีความสามารถในการปฏิบัติการร่วมและปฏิบัติการตอบโต้ฏอลิบานจะหมดความสำคัญลงไปอย่างน่าเป็นห่วง

แต่ Biden ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้นัก

เมื่อเขาเป็นรองประธานาธิบดีในสมัยของโอบามานั้น Biden เป็นผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์สงครามที่ไม่เคยจบสิ้นในอัฟกานิสถานเอาไว้ ในการเลือกตั้งปี 2020 เขาเรียกร้องให้นำทหารอเมริกันกลับบ้านเสียที

นอกจากนี้ Avril Haines ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐยังนำเสนอกับผู้นำสหรัฐว่า การก่อการร้ายหลักที่คุกคามสหรัฐอยู่ในทุกวันนี้มาจากคาบสมุทรแอฟริกา ไม่ได้มาจากอัฟกานิสถานและบริเวณที่อยู่รอบๆ อัฟกานิสถานต่อไปอีกแล้ว

 

ความพยายามที่สูญเปล่า

ทหารอเมริกันต้องออกมาจากอัฟกานิสถานโดยไม่ได้ทำให้เป้าหมายใดๆ ประสบความสำเร็จได้เลยหลังจากใช้จ่ายเงินไปสองล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นความพยายามที่สูญเปล่า และทหารอีก 20,000 นายได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

พลเรือนชาวอัฟกันผู้บริสุทธิ์และที่เข้าทำการสู้รบถูกสังหารในการทิ้งระเบิดที่ขาดความยั้งคิด รวมทั้งจากโดรนที่สหรัฐนำมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างทศวรรษแรกของสงคราม

ในปี 2017 สหรัฐทิ้งระเบิดที่ความรุนแรงของมันเป็นรองแค่นิวเคลียร์เท่านั้นลงมาในอัฟกานิสถาน

จนนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างน่าอนาจของกองกำลังฏอลิบานจำนวนมาก

 

ความเสียหายในกองกำลังอัฟกัน

ก่อนการพ่ายแพ้ไม่นาน กองกำลังอัฟกันได้เริ่มมีความรู้สึกว่าพวกเขาต้องเป็นตัวของตัวเองแล้ว นอกเหนือไปจากการมีอยู่ของทหารฏอลิบานจำนวนมากในกอนดาฮาร์ อันเป็นพื้นที่ที่ยังคงเป็นที่มั่นของฝ่ายฏอลิบานมาตลอด ในเวลานี้จึงเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นที่ฝ่ายฏอลิบานจะเข้าควบคุมโดยสมบูรณ์ในพื้นที่ครอบครองของฝ่ายพาชตุน

ในสัปดาห์ที่สองของเดือนพฤษภาคม ฏอลิบานเข้ายึดครองเขื่อนดาห์ลา (Dahla dam) ในจังหวัดที่มีการส่งน้ำเพื่อการชลประทาน และเป็นเขื่อนที่ใหญ่เป็นอันดับสอง

ข้อสรุปของฝ่ายข่าวกรองต่อสภาสหรัฐในเดือนเมษายน แนะนำว่ารัฐบาลอัฟกานิสถานคงอยู่ได้อย่างยากลำบาก โดยไม่มีทหารสหรัฐสนับสนุน

กองกำลังอัฟกันต้องพบกับความสูญเสียที่ยังไม่มีความแน่นอน โดยมีอัตราส่วนทหารที่ต้องสูญเสีย 3,000 คนต่อเดือน

ที่ผ่านมาสหรัฐให้เงินกองทุน 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อช่วยเหลือทหารของอัฟกัน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมาก

ทั้งนี้ ในการฝึกฝนทหารอัฟกันและการใช้อาวุธ สำหรับทหารจำนวน 3 แสนคนเพื่อความเข้มแข็งของกำลังพลอัฟกานิสถาน

สหรัฐต้องใช้เงินถึง 87 พันล้านเหรียญสหรัฐ

 

การต่อสู้อันหนักหน่วง

ก่อนชัยชนะของฏอลิบานได้มีข้อตกลงที่ถูกนำเสนอโดยฝ่ายบริหารของสหรัฐ ซึ่งพูดถึงการหยุดยิงที่จะต้องมีการปฏิบัติตามหลักการถอนทหารและจะมีการใช้อำนาจร่วมกันระหว่างรัฐบาลในกรุงคาบูลและฏอลิบาน

ฏอลิบานซึ่งได้เปรียบในทางยุทธศาสตร์ได้ปฏิเสธที่จะเล่นตามเกมของสหรัฐและใช้กำลังต่อต้านกองกำลังของรัฐบาล มีความเชื่อกันในเวลานั้นว่าการเข้าครองกรุงคาบูลทำได้ง่าย

เมื่อเอาชนะทหารอเมริกันได้ ผู้นำฏอลิบานได้เรียกร้องให้นายอัชร็อฟ กอนีย์ บาราดีร (Ashraf Ghani Barader) ลาออกและแต่งตั้งรัฐบาลที่นำโดยฏอลิบาน การต่อสู้อันหนักหน่วงได้ถูกรายงาน

ซึ่งความสูญเสียอย่างมากเกิดขึ้นกับทั้งสองฝ่าย

 

ข้อเลือกของฏอลิบาน

ผู้นำฏอลิบานไม่เห็นด้วยกับการเข้าสู่อำนาจผ่านหีบเลือกตั้ง พวกเขากล่าวว่า ประชาธิปไตยแบบตะวันตกนั้นห่างไกลจากความเชื่อของอิสลามและความคิดของการมีรัฐที่มีผู้นำทางศาสนาเป็นผู้ปกครอง (Emirate) ฏอลิบานได้เน้นย้ำอยู่เสมอว่าข้อเลือกแรกของพวกเขาคือการสร้างรัฐที่ปกครองโดยผู้ปกครองที่ปฏิบัติตามคำสอนของอิสลามแห่งอัฟกานิสถาน (Islamic Emirate of Afghanistan)

ทั้งนี้ ฝ่ายฏอลิบานได้ย้ำถึงแนวทางที่จะให้สตรีเข้ามามีส่วนร่วมอยู่ในสังคมอัฟกานิสถานตามแถลงการณ์ล่าสุดของผู้นำระดับสูงของฏอลิบานที่จะให้สตรีมีบทบาทอยู่ในสังคมของชาวอัฟกันได้โดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ เหลืออยู่

สตรีในอัฟกานิสถานคิดเป็นร้อยละ 40 ของประชากรที่เป็นนักศึกษาในอัฟกานิสถานปัจจุบัน นักสังเกตการณ์ส่วนใหญ่มีความเห็นไปในทางลบว่าจำนวนการเข้าเรียนที่สูงดังกล่าวอาจเป็นไปไม่ได้เมื่อฏอลิบานเข้าสู่อำนาจ แม้ว่าผู้นำฏอลิบานจะยืนกรานว่าสิทธิสตรีในการศึกษาจะได้รับการส่งเสริมก็ตาม

ฏอลิบานอนุญาตให้มีโรงเรียนสตรีได้ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าสังคมศาสตร์และภาษาอังกฤษจะต้องเป็นรองวิชาการทางด้านการศาสนา

เพื่อนบ้านยูเรเซียหรือที่มีพื้นที่เกี่ยวพันกับยุโรปและเอเชียมีความระมัดระวังถึงสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอัฟกานิสถาน

ข้อเลือกแรกของพวกเขาคือการป้องกันการใช้ความรุนแรงและการขยายตัวของยาเสพติดที่จะต้องไม่ทะลักออกมานอกชายแดนอัฟกานิสถาน

ในเดือนเมษายนชายแดนสำคัญของอัฟกานิสถานคือตาจิกิสถาน มีกองกำลังตาจิกและกองกำลังรัสเซียราว 50,000 คนที่ฝึกร่วมกันตามชายแดนที่อยู่เคียงคู่ไปกับชายแดนอัฟกานิสถาน

ปลายสัปดาห์ของเดือนพฤษภาคม มีการทำงานร่วมกันระหว่างสหรัฐ รัสเซีย จีน และปากีสถานพร้อมกับการแถลงการณ์ร่วมกันในการพัฒนาอัฟกานิสถาน โดยกองกำลังฏอลิบานได้ย้ำว่าไม่ควรจะมีทางออกทางการทหารเพื่อให้ความขัดแย้งจบสิ้นลง

กลุ่มก้อนที่ประกอบด้วยสหรัฐ รัสเซีย จีน และปากีสถาน กล่าวว่า กลุ่มของพวกเขาต้องการอัฟกานิสถานที่มีสันติภาพประชาธิปไตย ความเป็นกลางและพอเพียง

แน่ละฝ่ายกิจการด้านการทหารและการเมืองของปากีสถานย่อมพอใจกับยุทธศาสตร์อันลึกล้ำนี้ ในอัฟกานิสถาน Blinken รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐได้เตือนปากีสถานมาตั้งแต่ตอนต้นของเดือนพฤษภาคมแล้วว่าปากีสถาน ควรจะยกเลิกบทบาทในการให้ชาวอัฟกานิสถานเข้ามาปากีสถานได้อย่างเสรีได้แล้ว และร่วมมือกับสหรัฐและนาโต้เพื่อยืนยันถึงการเปลี่ยนผ่านอำนาจที่ไม่มีความรุนแรงในอัฟกานิสถาน

มีการคาดหมายกันโดยทั่วไปว่าหลังชัยชนะของฏอลิบานจะมีผู้ลี้ภัยจำนวนมากหลั่งไหลไปปากีสถาน ซึ่งมีชายแดนอันคดเคี้ยว 1,600 กิโลเมตร ร่วมกับอัฟกานิสถาน