เครื่องเสียง : จาก A&R Cambridge สู่การเป็น ARCAM / พิพัฒน์ คคะนาท

เครื่องเสียง

พิพัฒน์ คคะนาท / [email protected]

 

จาก A&R Cambridge

สู่การเป็น ARCAM

 

นับนานมาได้พอประมาณแล้วนะครับ กับการเว้นวรรคมิได้พูดถึงเครื่องที่มาจากค่ายแถวหน้าๆ ของยุโรป โดยเฉพาะจากแถบสหราชอาณาจักรแบรนด์นี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องขวัญใจออดิโอไฟล์ที่รู้จักใช้เงินอย่างคุ้มค่า เพราะเป็นค่ายที่ผลิตเครื่องระดับ (ราคา) กลางขึ้น ไปจนถึงเครื่องที่มีราคาแพงๆ ซึ่งก็เป็น ‘แพงอย่างมีเหตุผล’ ที่เมื่อพิจารณาถึงผลลัพธ์ หรือคำตอบที่ได้ ณ บรรทัดสุดท้ายแล้ว มันคือความคุ้มค่าอย่างถึงที่สุดนั่นเอง

เพราะเครื่องเสียงของค่ายนี้ โดยเฉพาะกับเครื่องในกลุ่มแอมปลิไฟเออร์นั้น เป็นที่ยอมรับกันว่าเมื่อเทียบเคียงกับคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันแล้ว เครื่องจากค่ายนี้มักจะให้ ‘อะไร’ ที่มากกว่าอยู่เสมอๆ

ซึ่ง – นั้น, สามารถย้อนกลับไปได้ถึงเครื่องแรกที่นำเสนอเข้ามาในวงการ คือ Model A60 อินติเกรตเต็ด แอมป์ ที่เปิดตัวเมื่อเกือบครึ่งศตวรรษมาแล้ว ในปี ค.ศ.1976 ภายใต้แบรนด์ที่นำชื่อบริษัทในเวลานั้นมาใช้ คือ A&R Cambridge ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเรียกเป็นชื่อสั้นๆ ให้คุ้นและชินปากกว่าว่า ARCAM ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 80s โดยที่ยังคงชื่อบริษัทเอาไว้ดังเดิม

และแม้ – นั้น, จะเป็นแอมป์เครื่องแรกของค่ายนี้ แต่ก็มีดีมากพอที่เมื่อถึงวันนี้ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน 9 of the Best British Stereo Amplifiers of All Time คือเป็นหนึ่งในบรรดาแอมป์ยอดเยี่ยมตลอดกาลของเกาะบริเตนใหญ่ ก็เครื่องที่เห็นในรูปนั่นแหละครับ

กับอักษร A และ R นั้น ใช้เป็นตัวย่อแทนคำ Amplification & Recording ส่วน Cambridge นำมาจากชื่อมหาวิทยาลัยที่สองสหายนักศึกษาสายวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ คือ John Dawson และ Chris Evans ได้จบมาจากสถาบันแห่งนี้ แล้วมาร่วมกันก่อตั้งบริษัทขึ้นมานั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนกรกฎาคม ของปี ค.ศ.2017 แบรนด์ ARCAM ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งเกาหลีใต้ คือ Samsung Electronics ผ่านบริษัทในเครือของยักษ์ใหญ่รายนี้ที่ถือแบรนด์เครื่องเสียง และลำโพงมีชื่อระดับแถวหน้าๆ ของวงการ เอาไว้ในมือมากมาย นั่นก็คือ Harman International Industries ที่มีสัญชาติอเมริกันนั่นเอง

แต่นั่นไม่ใช่การถูกถือครองโดยยักษ์ใหญ่ของวงการเป็นครั้งแรก เพราะก่อนหน้านั้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2012 แบรนด์นี้เคยตกเป็นของ JAM Industries ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในเมืองมอนทรีออล ของแคนาดา มาครั้งหนึ่งแล้ว

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบ หรืองานในเชิงวิศวกรรมที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ยังคงถูกบริหาร จัดการ และดำเนินงานไปในรูปแบบ In-House หรืออยู่ภายใต้หลังคาบ้านตัวเองที่เมืองเคมบริดจ์ดังเดิม

 

ครับ, ก็นำมาเล่าสู่กันฟังพอเป็นกระสาย ที่พอจะทำให้เห็นสัจธรรมหนึ่งได้ นั้นคือไม่มีสิ่งใดยิ่งใหญ่หรือยั่งยืนเป็นนิรันดร์ตลอดไป เพราะนานนับศตวรรษมาแล้ว ที่โลกตะวันตกเปรียบได้กับดินแดนพระอาทิตย์ไม่ตกดิน เพราะไม่ว่าจะสาดแสงไปทางซีกโลกไหน เวลาใด ก็จะไปตกกระทบเข้ากับดินแดนที่ต้องมีส่วนหนึ่งอยู่ใต้อาณัติ หรือเป็นอาณานิคมของโลกตะวันตกเสมอไป

แต่เมื่อมาถึงวันนี้-นาทีนี้, ดูเหมือนทุกอย่างจะพลิกกลับข้างมาทางตะวันออก โดยเฉพาะในแง่ของเศรษฐกิจ ที่โลกตะวันออกกำลังจะก้าวข้ามตะวันตกไปในอีกไม่ช้านานนี้แล้ว

A&R Cambridge เป็นบริษัทที่ผู้ก่อตั้งบอกว่ากำเนิดขึ้นมาด้วยเหตุผลง่ายๆ ประการหนึ่ง นั้นก็คือเพื่อนำเสียง (จากการทำซ้ำหรือ Reproduction Sound) ที่ดีที่สุดมาสู่ชีวิตของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากเพลงที่เป็นความประทับใจของพวกเขา หรือเสียงจากภาพยนตร์เรื่องโปรดของใครต่อใครก็ตาม

เราจึงมุ่งมั่นในการที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมเสียง ที่สามารถส่งมอบประสิทธิภาพเสียงที่สมจริง และเชื่อมต่อผู้คนเข้ากับแก่นแท้ของเสียงเพลงโดยตรง รวมทั้งโอบล้อมทุกคนเอาไว้ด้วยบรรยากาศเสียงในโลกภาพยนตร์ได้อย่างเสมือนจริง

เราได้พัฒนาและผลิตเครื่องเล่นเพลงอย่างเครื่องเล่นแผ่นซีดีมาร่วมสามทศวรรษ ขณะที่มากกว่าสี่ทศวรรษแล้วที่เราได้เริ่มทางด้านแอมปลิไฟเออร์ จนทุกวันนี้ก็ยังมีพัฒนาการที่สืบสานมาอย่างต่อเนื่อง และมั่นคง ขณะที่ในปี ค.ศ.1995 เราได้เริ่มก้าวย่างเข้าไปในส่วนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับการทำงานในแบบมัลติ-แชนเนล เพื่อการใช้งานในระบบเสียงแบบ Home Cinema หรือที่หลายๆ คนคุ้นปากว่า Home Theatre และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอุปกรณ์ในกลุ่ม Audio/Video เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดในระดับโลก

เทคโนโลยีระบบเสียงของไฮ-ไฟ สเตอริโอ และระบบเสียงแบบโฮม ซิเนมา มีการพัฒนาอยู่เสมอ ซึ่งเราพร้อมที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถติดตามพัฒนาการที่เป็นล่าสุดนั้นได้อย่างเท่าทัน ทั้งยังสามารถทำให้แน่ใจได้ว่าคุณตัดสินใจไม่ผิดเมื่อเลือกผลิตภัณฑ์ของเรา

ไม่ว่าเทคโนโลยีแห่งอนาคตจะเป็นเช่นไร จะปรากฏออกมาสู่ตลาดในรูปแบบไหน และเมื่อไร เราเชื่อและมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง ว่าจะสามารถออกแบบระบบแห่งอนาคตที่จะปรากฏขึ้นในความหมายของ ‘การทำซ้ำ’ นั้น ได้ดีที่สุดในทุกรูปแบบที่จะมีขึ้นอย่างแน่อน ทั้งด้วยความถูกต้องและด้วยเสียงที่สมจริงอย่างถึงที่สุด

 

แนะนำให้รู้จักกับค่ายนี้มาพอเป็นสังเขป ก็เนื่องเพราะนานนับเดือนที่ผ่านมา ได้มีโอกาสอยู่ร่วมกับแอมป์ของเขารุ่นหนึ่ง ซึ่งหลังจากได้ทำความรู้จักและเรียนรู้กันมาพอประมาณแล้ว ก็เลยนำมาเล่าสู่กันฟังตามประสานี่แหละครับ

แอมป์เครื่องที่ว่าก็คือ ARCAM SA30 ที่ผู้ผลิตบอกว่าเป็นแอมป์ที่มากไปด้วยความสามารถ และชาญฉลาดระดับ Intelligent Amplifier เลยทีเดียว

โครงสร้างและภาพลักษณ์ที่เห็นของ Model SA30 แทบจะดูไม่แตกต่างไปจากแอมปลิไฟเออร์ของ ARCAM ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสักกี่มากน้อย ซึ่งหากจะให้พูดแบบตรงไปตรงมาแล้ว เพียงดูแค่หน้าตาแทบไม่รู้เลยว่าแอมป์เครื่องนี้สามารถรองรับ หรือได้ผนวกเทคโนโลยีที่เป็นพัฒนาการอันก้าวไกลไปถึงระดับไหน

ซึ่งต่างไปจากความรู้สึกก่อนหน้าที่จะดึงมันออกมาจากกล่องบรรจุ ที่ได้เห็นบาง ‘สรรพคุณ’ ถูกบรรยายเอาไว้ผ่านบางสัญลักษณ์ ซึ่งเพียงแค่เห็นรูปรอยต่างๆ ที่ได้ตราไว้บนบางด้านของบรรจุภัณฑ์นั้นแล้ว ก็รู้ได้อยู่ในทีว่าเครื่องนี้นอกจากจะหาได้น้อยหน้าแอมป์อื่นใดแห่งปัจจุบันสมัย ในความหมายของการนำเทคโนโลยีที่เป็นพัฒนาการล่าสุดมารับใช้การทำงานของมันแล้ว กับบางคุณสมบัตินั้นมันออกจะก้าวล้ำกว่าหลายๆ เครื่องที่เห็นในเวลานี้ด้วยซ้ำไป

นั้นเอง, ที่ให้รู้สึกทึ่งไปกับการนำ Modern-Day Technology เข้ามาบรรจุไว้ในโครงสร้างและภาพลักษณ์ Retro Style ด้วยคล้ายได้ผ่านการถกกันมาอย่างลุ่มลึกและแหลมคมยิ่งจนตกผลึกแล้ว ที่หากกล่าวอย่างเป็นส่วนตัวละก็ มันเป็นหน้าตาที่ออกจะถูกอกถูกใจผม (รวมทั้งน่าจะคนคอเดียวที่รุ่นราวคราวเดียวกันด้วย) ยิ่งนักแล

เป็น ‘หน้าตา’ ที่เรียบง่ายแบบแกมหรูอยู่ในที โดยที่มิพักต้องมีอะไรหวือหวาโดดเด่นออกมาชวนโน้มน้าวใจ ‘ให้ชอบ’ แม้แต่น้อยเลย