ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 สิงหาคม - 2 กันยายน 2564 |
---|---|
ผู้เขียน | พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์ |
เผยแพร่ |
บทความพิเศษ
พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์
2503 สงครามลับ
สงครามลาว (43)
เอกสารลับของทางราชการที่ไม่สามารถเปิดเผยที่มา
ได้สรุปความสำเร็จและความสูญเสียตลอดระยะเวลาปีเศษตั้งแต่ 14 มีนาคม 2513-15 พฤษภาคม 2514 ในสมรภูมิลาวของโครงการวีพี
เรียงลำดับตามการเข้าสู่สนามรบไว้ดังนี้
กองร้อยทหารปืนใหญ่ เอวีพี-1
14 มีนาคม 2513 กองร้อยทหารปืนใหญ่ เอวีพี-1 เป็นหน่วยแรกในหน่วยเฉพาะกิจวีพี ที่เดินทางเข้าปฏิบัติการในเมืองล่องแจ้งก่อนการมาถึงของกองพันทหารราบ โดยเข้าที่ตั้งยิงบนแนวสกายไลน์ ซึ่งในขณะนั้นเวียดนามเหนือกำลังใช้กำลังขนาดใหญ่เคลื่อนที่รุกเข้าประชิดเมืองล่องแจ้งโดยอยู่ห่างเพียง 6 กิโลเมตรเท่านั้น
กองร้อยทหารปืนใหญ่ เอวีพี-1 ได้ทำการระดมยิงอย่างหนักต่อเป้าหมายกำลังข้าศึกจนแตกพ่ายและสลายตัวไป
หากกำลังของไทยส่วนนี้เข้าปฏิบัติการช้าไปเพียงวันเดียว กองทัพแห่งชาติลาว ภาค 2 จะต้องสูญเสียเมืองล่องแจ้งให้กับฝ่ายเวียดนามเหนือซึ่งยากต่อการแย่งยึดกลับคืน
การมาถึงพื้นที่ปฏิบัติการของกองร้อยทหารปืนใหญ่ เอวีพี-1 นี้ ทำให้กองทัพแห่งชาติลาวมีขวัญและกำลังใจในการสู้รบสูงขึ้น
ผลการปฏิบัติงานดังกล่าว ได้รับคำชมเชยจากทุกฝ่าย และหน่วยนี้ได้สร้างวีรกรรมไว้ที่สนามรบ “บ้านนา” โดยสามารถใช้การยิงปืนใหญ่สังหารข้าศึกได้เป็นจำนวนมาก
ตลอดห้วงเวลาปฏิบัติงาน 1 ปี 1 เดือน กองร้อยทหารปืนใหญ่ เอวีพี-1 สามารถทำการยิงสนับสนุนทหารราบตามคำขอทั้งของทหารลาวและทหารไทยได้เป็นผลสำเร็จอย่างดียิ่ง
9 เมษายน 2514 กองร้อยทหารปืนใหญ่ เอวีพี -1 เสร็จสิ้นภารกิจและเดินทางกลับประเทศ
กองพันทหารราบ ไอวีพี-11
28 มีนาคม 2513 เวลา 16.00 น. กองพันทหารราบ ไอวีพี-11 เป็นกำลังทหารราบหน่วยแรกที่เข้าปฏิบัติการ ได้เดินทางถึงเมืองล่องแจ้ง และเข้าที่มั่นบนแนวสกายไลน์
สถานการณ์ในขณะนั้นข้าศึกได้ยึดเมืองซำทองไว้ได้แล้ว การเข้าปฏิบัติการของกองพันทหารราบ ไอวีพี-11 ภายใต้การยิงสนับสนุนของกองร้อยทหารปืนใหญ่ เอวีพี -1 ทำให้กำลังฝ่ายกองทัพแห่งชาติลาวมีขวัญและกำลังใจในการสู้รบสูงยิ่งขึ้นไปอีกจนสามารถแย่งยึดเมืองซำทองกลับคืนมาได้
และทำให้ฝ่ายกองทัพแห่งชาติลาวสามารถสถาปนาแนวตั้งรับใหม่บริเวณโล่งแจ้ง-ซำทอง-ภูล่องมาด ได้เป็นผลสำเร็จ
19 เมษายน 2513 กองพันทหารราบ ไอวีพี-11 ได้เคลื่อนย้ายเข้าที่ตั้งบริเวณเมืองซำทองร่วมกับกองร้อยทหารปืนใหญ่ เอวีพี-2 (ซึ่งเดินทางมาเพิ่มเติม) จนกระทั่งจบภารกิจ
กองพันทหารราบ ไอวีพี-11 สามารถต้านทานการเข้าตีของหน่วยแซปเปอร์ (เวียดนามเหนือ) หลายครั้งหลายหน และสามารถสังหารข้าศึกได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่เมืองซำทอง
25 เมษายน 2514 กองพันทหารราบ ไอวีพี-11 เสร็จสิ้นภารกิจและเดินทางกลับประเทศ
กองพันทหารราบ ไอวีพี-12
19 เมษายน 2513 กองพันทหารราบ ไอวีพี-12 เข้าปฏิบัติการเป็นหน่วยที่ 2 พร้อมกับกองร้อยทหารปืนใหญ่ เอวีพี-2 วางกำลังขั้นต้นบนแนวสกายไลน์สับเปลี่ยนกำลังกับกองพันทหารราบ ไอวีพี-11 ซึ่งเคลื่อนย้ายไปวางกำลังป้องกันเมืองซำทองร่วมกับกองร้อยทหารปืนใหญ่ เอวีพี-2
ต่อมากองพันทหารราบ ไอวีพี-12 ได้เคลื่อนย้ายเข้าสับเปลี่ยนกับกองพันทหารราบ ไอวีพี-13 บริเวณภูล่องมาดให้กองพันทหารราบ ไอวีพี-13 ไปเข้าที่ตั้งบริเวณบ้านนา เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการขยายผลเข้ายึดทุ่งไหหินตาม Operation Leap Frog ของฝ่ายกองทัพแห่งชาติลาว
กองพันทหารราบ ไอวีพี-12 ได้สร้างวีรกรรมไว้ที่ภูล่องมาดและสามารถยึดภูมิประเทศสำคัญบริเวณภูล่องมาดไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
13 พฤษภาคม 2514 กองพันทหารราบ ไอวีพี-12 เสร็จสิ้นภารกิจและเดินทางกลับประเทศ
กองร้อยทหารปืนใหญ่ เอวีพี-2
19 เมษายน 2513 กองร้อยทหารปืนใหญ่ เอวีพี-2 เป็นหน่วยยิงสนับสนุนหน่วยที่ 2 ที่เข้าปฏิบัติการบริเวณเมืองซำทอง หน่วยนี้ได้สร้างวีรกรรมไว้ที่เมืองซำทองโดยสามารถต้านทานการเข้าตีของข้าศึกที่ทุ่มเทกำลังจำนวนมากไว้ได้
และสามารถสร้างความสูญเสียให้ฝ่ายเวียดนามเหนืออย่างหนัก
การส่งกองร้อยทหารปืนใหญ่ เอวีพี-2 เข้าปฏิบัติงานทำให้อำนาจกำลังรบของฝ่ายกองทัพแห่งชาติลาวได้เปรียบข้าศึกในการเข้าปฏิบัติการเป็นอย่างมาก ตลอดเวลา 1 ปี กับ 1 เดือน กองร้อยทหารปืนใหญ่ เอวีพี-2 สามารถปฏิบัติภารกิจยิงสนับสนุนทั้งต่อหน่วยทหารลาวและทหารไทยได้เป็นผลสำเร็จอย่างดียิ่ง
13 พฤษภาคม 2514 กองร้อยทหารปืนใหญ่ เอวีพี-2 เสร็จสิ้นภารกิจและเดินทางกลับประเทศ
กองพันทหารราบ ไอวีพี-13
10 พฤษภาคม 2513 กองพันทหารราบ ไอวีพี-13 เป็นหน่วยทหารราบหน่วยที่ 3 ที่เข้าปฏิบัติการ โดยเข้าที่ตั้งขั้นต้นบริเวณภูล่องมาด การเข้าปฏิบัติการของหน่วยนี้ทำให้กำลังของไทยมีกำลังครบ 1 กรมผสมตามที่รัฐบาลลาวร้องขอ
และเป็นผลให้การสถาปนาพื้นที่บริเวณล่องแจ้ง-ซำทอง-ภูล่องมาด ของฝ่ายกองทัพแห่งชาติลาวมีความมั่นคงจนกำลังของฝ่ายเวียดนามเหนือไม่สามารถคุกคามล่องแจ้งได้อีกต่อไป
กำลังของฝ่ายเวียดนามเหนือประสบความล้มเหลวในการยึดล่องแจ้งโดยสิ้นเชิง
ต่อมา กองพันทหารราบ ไอวีพี-13 ได้เคลื่อนย้ายเข้าที่ตั้งบริเวณบ้านนา ร่วมกับกองร้อยทหารปืนใหญ่ เอวีพี-1 เพื่อสนับสนุนการขยายผลเข้าสู่ทุ่งไหหินของฝ่ายกองทัพแห่งชาติลาว ภาค 2 หน่วยนี้ได้สร้างวีรกรรมไว้ที่บ้านนา และสามารถยึดบ้านนาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ถึงแม้ว่ากำลังของฝ่ายเวียดนามเหนือจะพยายามทำการปิดล้อมและคุกคามด้วยการเข้าตีตอบโต้และการยิงอย่างหนักก็ตาม
15 พฤษภาคม 2514 กองพันทหารราบ ไอวีพี-13 เสร็จสิ้นภารกิจเดินทางกลับประเทศ
แต่ความเกี่ยวข้องกับการรบในสมรภูมิลับลาวของไทยยังไม่จบ “ทหารเสือพราน” จะเข้ามาแทนที่กำลังประจำการจากกรมผสมที่ 13 เหล่านี้