ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 20 - 26 สิงหาคม 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | รายงานพิเศษ |
เผยแพร่ |
รายงานพิเศษ
‘3 ป. 3 ไปป์’
เคลียร์ใจไปต่อ
โผทหารฉบับ ‘ตาอยู่’
‘บิ๊กตู่’ ขอแจม
จับตา ‘บิ๊กบี้’
‘แม่ทัพทวิตเตอร์ ทบ.’
ระหว่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับพรรคเพื่อไทย (พท.) ยิ่งถูกจับตามองเขม็ง หลังพรรคฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และ 5 รมต. แต่ว่าไม่มีชื่อบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ และเลขาธิการ พปชร.
หัวหน้าป้อมกับเลขาฯ รอด!! ซึ่งไม่ใช่เรื่องเกินคาด เพราะ พล.อ.ประวิตรรอดมาหลายครั้งหลายหน แม้จะโดนอภิปรายก็โดนแตะน้อยมาก และวางเกมให้เหลือเวลาอภิปรายได้น้อย แถมคะแนนโหวตไว้วางใจก็สูงเท่า ร.อ.ธรรมนัสที่เป็นผู้คุมเสียงพรรคเล็กและพรรคร่วมรัฐบาล และคุมเกมการเมือง
จนทำให้บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่ได้คะแนนน้อยกว่า จนต้องเอ่ยปากแซว ร.อ.ธรรมนัส ว่าคราวหน้าก็เป็นนายกฯ เลยสิ
ส่งผลให้ ร.อ.ธรรมนัสเริ่มถูกจับตามองถึงอนาคตว่า จะเป็นนายกฯ ได้หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อต่อมาได้เป็นเลขาธิการพรรค พปชร. ก็ยิ่งถูกพูดถึงในฐานะแคนดิเดตนายกฯ
จนถึงขั้นที่ถูกดักคอด้วยข่าวปลอมที่ว่า “ผมพร้อมรับตำแหน่งนายกฯ” จนเจ้าตัวต้องรีบแก้ข่าวว่าไม่เคยพูด และสั่งฟ้องคนปล่อยเฟกนิวส์
หลังเกิดกระแสข่าวลือว่า ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์จะไปต่อไม่ไหวแล้ว อาจต้องถอย และลงจากหลังเสือ ยิ่งทำให้ พล.อ.ประวิตรและ ร.อ.ธรรมนัสถูกจับตามองว่ากำลังวางแผนใดหรือไม่ และมีเป้าหมายที่เก้าอี้นายกฯ หรือไม่
โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร พี่ใหญ่ที่กลายเป็นเต็งหนึ่งนายกฯ ขัดตาทัพแทนน้องตู่ แม้ว่าเจ้าตัวจะปฏิเสธว่าไม่เป็นนายกฯ ก็ตาม
แต่ทว่า พล.อ.ประวิตรก็หัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี เมื่อมาคนแซว และโดยเฉพาะกลายเป็นพรวันเกิด 76 ปี เมื่อ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา
วันเกิดปีนี้ แม้บิ๊กป้อมจะสั่งปิดบ้าน แปะป้ายงดรับแขกก็ตาม แต่ก็ยังให้ฝ่ายทหารที่นำโดยบิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม นำปลัดกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ. 3 เหล่าทัพ และ ผบ.ตร. มาอวยพรที่บ้านป่ารอยต่อฯ
เพราะสถานการณ์โควิด พล.อ.ประวิตรจึงไม่ได้พูดคุยอะไรมาก ก่อนให้แยกย้ายกันกลับไปทำภารกิจ คงมีแต่ พล.อ.ชัยชาญน้องเลิฟ กับ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม ลูกรักบิ๊กป้อมที่ไปนั่งกินข้าวกับพี่ใหญ่ต่อ
หลังจากที่ พล.อ.ชัยชาญได้พูดคุยสอบถามการจัดโผทหารแบบส่วนตัวกับ ผบ.เหล่าทัพแต่ละคนในวันนั้น
วันเกิดบิ๊กป้อมปีนี้แม้มีโควิด ทำให้ไม่มีจัดงาน แต่พี่น้อง 3 ป.ยังโชว์ปึ้ก มากันพร้อมหน้า
ทั้งบิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พี่รอง และ พล.อ.ประยุทธ์น้องเล็ก ที่นัดกันมาอวยพรพี่ใหญ่ในช่วงบ่าย
กล่าวกันว่า บ้านป่ารอยต่อฯ ครึกครื้นด้วยเสียงพูดคุยหัวเราะของ 3 พี่น้อง ที่เมื่อได้ร่วมวง ก็ย่อมต้องควักไปป์ขึ้นมาพ่นควันกันเช่นที่เคย
บรรยากาศดีๆ แบบนี้ มีเสียงหนี่งพูดเชิงหยอกเอินพี่ใหญ่ เรื่องจะเป็นนายกฯ ตามกระแสข่าวในหน้าสื่อ ก่อนบิ๊กป้อมจะพ่นควันฉุย แล้วคุยว่า “ถ้าจะเป็นนายกฯ อ่ะ กูเป็นไปนานแล้ว”
เรียกเสียงเฮฮาในหมู่พี่น้อง 3 ป. ที่ต่างก็ใช้บรรยากาศนี้สยบข่าวลือ และตอกย้ำมิตรภาพพี่น้อง และคำสัญญาที่ พล.อ.ประวิตรบอกว่า จะไม่เป็นนายกฯ แต่จะช่วย พล.อ.ประยุทธ์ทุกอย่าง และสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ต่อไป
แต่เป็นที่รู้กันว่า ในสมัยหน้า หากมีการเลือกตั้ง ก็ไม่รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไปต่อไหวหรือไม่ แต่ พล.อ.ประวิตรก็ต้องเตรียมแผนสำรอง และหานายกฯ สำรองไว้ก่อนด้วย
ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ก็จะยังคงไปต่อให้ครบเทอมนี้ ยื้อให้ได้นานที่สุด ก่อนยุบสภาให้เลือกตั้งใหม่
แต่ไม่มีรายงานว่า ได้มีการหารือเรื่องพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เพราะกระแสข่าวเรื่อง “บิ๊กดีล” ระหว่าง พล.อ.ประวิตร และ ร.อ.ธรรมนัส กับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายชินวัตร สะพัดแรงในทุ่งการเมือง
ขณะที่โผแต่งตั้งโยกย้ายทหาร ออกเดินทางแล้ว จากมือ ผบ.เหล่าทัพ ถึงมือบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด เมื่อ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา และได้ส่งให้กระทรวงกลาโหมแล้วในวันเดียวกัน
แต่ทว่า ยังขาดของกองทัพบก ที่ต้องรอการพิจารณาคัดเลือกนายทหารใน ทบ.ที่จะย้ายโอนไปอยู่ ทม.รอ. ที่มีการคัดตัว 2 รอบ คือ 9-13 สิงหาคม และ 19-20 สิงหาคมนี้เสียก่อน แต่ในส่วนของกองเรือและกองทัพอากาศ คัดเลือกเสร็จแล้ว
เลยทำให้ ทบ.ยังตัองลุ้น เพราะทั้งนายทหารระดับผู้บัญชาการกองพล พลตรี และผู้การกรม ล้วนถูกทาบทามคัดเลือก
แถมทั้งแต่ละคนล้วนเป็นคนของกองทัพบก บิ๊กเนี้ยว พล.ต.ทรงพล สาดเสาเงิน ผบ.พล.1 รอ. ที่กำลังจะขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 1 และถูกจับตามองว่าจะเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และแคนดิเดต ผบ.ทบ.ในอนาคต
บิ๊กปู พล.ต.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.พล.ร.11 รอ. บิ๊กโอ๊ต พล.ต.กัณฑ์ชัย ประจวบอารีย์ รองเจ้ากรมสรรพกำลังกลาโหม ที่เคยอยู่ พล.1 รอ.มา พล.ต.อุดม แก้วมหา ผบ.พล.ม.2 รอ. และเลขาฯ เอก พล.ต.อานุภาพ ศิริมณฑล เลขานุการ ทบ. ที่เคยเป็นทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ และเคยเป็น ผบ.กรม นักเรียนนายร้อย จปร.
โดยส่วนใหญ่เป็นนายทหาร เตรียมทหารรุ่น 26 และ 27 จึงทำให้เกิดประเด็นฮอต วิพากษ์กันในกองทัพ หากนายทหารเหล่านี้ได้รับเลือก ก็จะต้องโอนย้ายจาก ทบ. หมดโอกาสเติบโตใน ทบ. และคาดกันว่า นายทหารรุ่นน้องๆ จะได้โตขึ้นมาแทน
งานนึ้ บิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ก็ต้องรอผลการคัดเลือก แต่ก็พอจะคาดการณ์ได้บ้างว่า ใครจะถูกคัดเลือกไป จึงจัดโผรอไว้เกือบหมดแล้ว
ดังนั้น ปลายสัปดาห์นี้ ทบ.น่าจะส่งโผรายชื่อให้กลาโหมได้ทัน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์จะนัดประชุม ผบ.เหล่าทัพ ประชุมสภากลาโหม บ่าย 25 สิงหาคมนี้ แต่เป็นการประชุม VTC แต่ก็อาจจะมีการนัดคุย “วงเล็ก” แบบเจอหน้ากันด้วยเลย เพื่อสรุปจบเรื่องโผทหาร
อีกทั้งวันที่ 26 สิงหาคม จะมีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการสภาความความมั่นแห่งชาติ ที่มีนายกฯ เป็นประธาน ร่วมด้วย ผบ.เหล่าทัพ ที่จะมีการพิจารณาชื่อเลขาฯ สมช.คนใหม่ และในวันนั้น อาจมีการประชุมวงเล็ก 7 เสือกลาโหม หารือโผทหารกันด้วย
เพราะตามหลักการ ทั้งหมดจะต้องลงนามในเอกสารทุกหน้า เพื่อรับรองและยืนยันไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลง
ในโค้งนี้ ยังมีรายงานว่า พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน เสนอชื่อบิ๊กโต้ง พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ เสธ.ทร. ขึ้นเป็น ผบ.ทร.คนใหม่
แต่ข่าวจากกลาโหมระบุว่า พล.อ.ณัฐได้หารือ กับ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงเหตุผลในการสนับสนุนบิ๊กเฒ่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย รองปลัดกลาโหม เป็น ผบ.ทร.คนใหม่
มีรายงานว่า การแต่งตั้งโยกย้ายทหารปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ให้ยึดหลัก 3 ข้อ คือ คุณสมบัติ วิสัยทัศน์ และคุณธรรม
นั่นหมายถึง การดูประวัติการทำงาน แนวคิด มุมมองในการเป็นผู้นำ และมีคุณธรรมในใจ นอกเหนือจากความรู้ความสามารถ เพราะแต่ละคนที่กว่าจะโตมาถึงจุดนี้ ย่อมมีความรู้ความสามารถไม่แตกต่างกันมากนัก
แต่ข่าวสะพัดจากสัตหีบว่า บิ๊กปู พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผบ.กองเรือยุทธการ อาจกลายเป็นตาอยู่
ขณะที่บิ๊กแอร์ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผบ.ทอ. ที่ส่งบัญชีรายชื่อในส่วนของ ทอ.ให้ ผบ.ทหารสูงสุด และกลาโหมแล้ว
ท่ามกลางกระแสข่าววว่า พล.อ.อ.แอร์บูลเสนอชื่อบิ๊กป้อง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ประธานที่ปรึกษา ทอ. เพื่อน ตท. 21 ที่ถือว่าเป็นคนกลางๆ และทุกฝ่ายยอมรับได้ เมื่อขึ้นมาเป็น ผบ.ทอ. จะไม่เพิ่มความขัดแย้ง หรือล้างบางกัน
ที่สำคัญคือ บิ๊กเบิร์ท พล.อ.ท.อนันตชัย แก้วศรีงาม เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารอากาศ น้องรัก ตท.22 นักบิน C130 ของ พล.อ.อ.แอร์บูล สามารถอยู่ในตำแหน่งเสธ.ทอ.ได้
ทุ่งดอนเมืองอาจเกิดปฏิบัติการเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดกันอีกครั้ง เพราะใน ทอ.รู้ดีว่า พล.อ.อ.แอร์บูลสนิทสนมรักใคร่ใกล้ชิดกับบิ๊กตั้ว พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์ วัฒนวรางกูร ผบ.คปอ. อย่างมาก และถ้าอ่านใจ ก็ต้องเสนอชื่อบิ๊กตั้ว
แต่มีข่าวจากทำเนียบรัฐบาลว่า โผนี้ พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งไม่เคยล้วงลูกโผโยกย้ายทหาร ผู้บัญชาการเหล่าทัพเสนอขึ้นมาอย่างไร ก็อนุมัติไปตามนั้นมาตลอด
แต่ครั้งนี้จำเป็นที่จะต้องลงมาดู เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาในกองทัพอากาศเช่นการโยกย้ายครั้งที่ผ่านมา
กระแสข่าวนึ้เอง ที่ทำให้ชื่อของบิ๊กต่วย พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ ต่ายทอง รอง ผบ.ทหารสูงสุด ที่ พล.อ.ประยุทธ์เคยสนับสนุน ถูกจับตามองอีกครั้ง
แต่ที่ข่าวที่มาแรงคือ ความพยายามเฮือกสุดท้ายของ พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ อดีต ผบ.ทอ. และแกนนำเตรียมทหาร 20 ที่ยังคงไม่ต้องการให้ พล.อ.อ.แอร์บูลยึดครองทัพฟ้า โดยผลักดันผ่านแกนนำ ตท.20 หลายคนที่สนิทสนมกับนายกฯ ให้พิจารณาการจัดโผของ ทอ.
เป็นที่รู้กันดีว่า พล.อ.อ.มานัตสนับสนุนเสธ.หนึ่ง พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา เสนาธิการทหารอากาศ ให้เป็น ผบ.ทอ.เลย แม้จะเกษียณ 2567 เพราะการอยู่ยาว จะทำงานพัฒนา ทอ.ได้ต่อเนื่องกว่า
แต่มีรายงานว่า พล.อ.อ.แอร์บูลไม่ตอบรับคำร้องขอนี้
จึงมีโอกาสที่ในการประชุมบอร์ด 7 เสือกลาโหมคราวนี้ พล.อ.ประยุทธ์อาจต้องใช้อำนาจ รมว.กลาโหม และยังเป็นนายกฯ ตัดสินใจท้ายสุดด้วยตนเอง
ขณะที่กองทัพบกนั้น ยังไม่เปลี่ยนหัว ยังคงเป็นบิ๊กบี้ตามเดิม จนกันยายน 2566 จะเกษียณ
แต่เห็นเงียบๆ ไม่ค่อยพูด แต่บิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. สวมบทสำคัญแบบเนียนๆ ด้วยการเป็นเสมือนแม่ทัพทวิตเตอร์ของ ทบ.เลยทีเดียว เพราะทวีตไหนที่ ผบ.ทบ.แชร์ บรรดาทวิตเตอร์ของหน่วยทหารก็จะช่วยแชร์ รีทวีตตาม โดยเฉพาะที่เป็นทวีตของบรรดาสลิ่ม และสลิ่มลายพราง
โดยใช้บัญชีทวิตเตอร์ @narongpanj มาในปี 2558 หลังรัฐประหารปี 2557 คาดว่าสมัยที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์เป็น ผบ.พล.1 รอ. ต่อจากบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ที่ตอนนั้นขึ้นจาก ผบ.พล 1 รอ. เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 และเข้าไลน์สู่แม่ทัพภาคที่ 1 จนได้เป็น ผช.ผบ.ทบ. และ ผบ.ทบ.
พล.อ.ณรงค์พันธ์ ฉายา “บี้ อดทน” ไม่ชอบเล่นเฟซบุ๊ก แต่ชอบทวิตเตอร์ เพราะข้อความกระชับ แต่สไตล์ของเขาจะไม่โพสต์ข้อความตนเอง แต่จะใช้การรีทวีตของบุคคลอื่นที่ตรงใจโดนใจ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นการรีทวีต แชร์ ผลงานของกองทัพ และการกระจายข่าวสาร
ส่วนใหญ่ข่าวที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์แชร์ จะเป็นข่าวเชิงบวก และช่วยแก้ข่าวปล่อย ข่าวบิดเบือน และพร้อมติดแฮชแท็กทางทหาร ตามสถานการณ์ แต่จะไม่มีตอบ mention
แต่คำที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์จะใช้ในโพสต์รีทวีตคือ “ทหารพระราชา ปกป้องประชา”, ทหารพระราชา ดูแลประชา” ในภารกิจต่างๆ ของทหาร
รวมทั้งการรีทวีต ปฏิเสธข่าวปลอมเรื่อง ผบ.ทบ.ก่อการรัฐประหาร ส่งทหารจับตัวนายกฯ
เพราะเป็นกระแสช่าวลือที่บิ๊กบี้ทนนิ่งไม่ได้ ต้องส่งนายทหารพระธรรมนูญไปฟ้องร้องเอาผิดคนแชร์ข่าวปลอม
ด้วยเพราะรู้กันดีว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ไม่เคยมีเรื่องรัฐประหารอยู่ในหัว และเคยบอกกับสื่อว่า โอกาสรัฐประหารเป็นศูนย์ หรือติดลบเลยทีเดียว
พร้อมสั่งทีมโฆษก ทบ.แถลงประทับตรา Fake News เพราะไม่ต้องการทำให้เกิดความระแวงใดๆ ระหว่างนายกฯ กับกองทัพ เพราะรู้กันดีว่า มีระยะห่างทางใจระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ ผบ.เหล่าทัพ และโดยเฉพาะกับ พล.อ.ณรงค์พันธ์อยู่ไม่น้อย ด้วยเพราะรุ่นที่ห่างกัน แต่ก็ยังเป็นพวกฝ่ายเดียวกัน
จึงยังคงทำให้เกิดกระแสข่าวลือรัฐประหาร ล้มบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาเนืองๆ แต่ในทางปฏิบัติ ทหารในกองทัพรู้กันดีว่า การรัฐประหารจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีไฟเขียวเท่านั้น
ความนิ่ง และไม่ค่อยพูด สนิทกับคนยาก จึงทำให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ถูกจับตามองมากว่า เป็นทหารของพระราชา มากกว่าเป็นทหารของรัฐบาล
เพราะนอกจากเป็น ผบ.ทบ.แล้ว พล.อ.ณรงค์พันธ์ยังเป็น ผบ.หน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 (ผบ.ฉก.ทม.รอ.904) คุมทหารคอแดงในส่วนของ 3 เหล่าทัพด้วย และเรียกได้ว่า เป็นทหารพระราชาอย่างเต็มตัว คือ สถาบันต้องมาเป็นอันดับ 1
พล.อ.ณรงค์พันธ์จึงกลายเป็นผู้นำกองทัพมีจุดยืนที่ชัดเจน
เป็นที่รู้กันดีว่า หากมีภารกิจใดที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน พล.อ.ณรงค์พันธ์จะให้ความสำคัญเร่งด่วนเป็นอันดับ 1 เช่น หากมีประชุมตรงกัน ก็จะเลือกไปร่วมประชุมงานของสถาบัน หรือ ฉก.ทม.รอ.904 ก่อน แม้ว่าการประชุมนั้นจะมีนายกฯ หรือมี ผบ.ทหารสูงสุดเป็นประธานก็ตาม
จนทำให้ถูกมองไปถึงความสัมพันธ์กับนายกรัฐมนตรีที่ห่างเหิน
แต่ในแง่ความเป็นทหาร เรียกได้ว่าเป๊ะที่สุด ทั้งท่าทำความเคารพ หรือแม้แต่ท่าวิ่งก็ยังเป๊ะ
แต่ที่แน่ๆ โผ ทบ.ฝีมือบิ๊กบี้โผนี้ ก็จะได้เห็นฝีมือการจัดทัพแบบเต็มเหนี่ยว โดยเฉพาะตำแหน่งในกองทัพภาคที่ 1 ที่จะสะท้อนอำนาจในมือ ผบ.ทบ.เงียบๆ คนนี้