รายงานพิเศษ/เมื่อ “บิ๊กป้อม” จะไม่พรากจากกลาโหม วัดอุณหภูมิกองทัพ จัดโผ จัดทัพ จัดแถว กห.กรุ่น-ทบ.เข้ม-ทัพ 1 ระอุ-สมช.ขยับ-วงศ์เทวัญ จ่อ

รายงานพิเศษ

เมื่อ “บิ๊กป้อม” จะไม่พรากจากกลาโหม

วัดอุณหภูมิกองทัพ จัดโผ จัดทัพ จัดแถว

กห.กรุ่น-ทบ.เข้ม-ทัพ 1 ระอุ-สมช.ขยับ-วงศ์เทวัญ จ่อ

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท, พลโท อภิรัชต์ คงสมพงษ์, พลตรีธรรมนูญ วิถี, พลโท กู้เกียรติ ศรีนาคา

ไม่ใช่แค่โผโยกย้ายทหาร ที่ทำให้กระทรวงกลาโหม และกองทัพกรุ่นๆ เท่านั้น แต่การจัดทัพใหม่ของ ทบ. ก็ทำให้กองทัพมีอุณหภูมิสูงขึ้นไปด้วย

โดยเฉพาะที่กระทรวงกลาโหม ที่ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กำลังจัดโผทหารอยู่ดีๆ ด้วยความมั่นใจว่า โผนี้ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ยุ่ง เพราะโยกย้ายใหญ่ปีที่แล้ว บิ๊กตู่ตัดสินใจเองหมด

จนเกิดประโยคที่ว่า บ้าน ร.1 รอ. ของบิ๊กป้อม ตกอยู่ในสภาพ “หัวกระไดไม่แห้ง”

แต่จู่ๆ กระแสข่าวปล่อยเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี ที่จะโยกสลับให้ พล.อ.ประวิตร รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้ไปควบ รมว.มหาดไทย นั่งแท่น มท.1 เพื่อเตรียมรับมือการเลือกตั้งสิงหาคม 2561 ในฐานะพี่ใหญ่ผู้เปี่ยมบารมี และถูกเล็งว่าจะเป็นผู้จัดการรัฐบาล

แล้วให้ บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ข้ามมาเป็น รมว.กลาโหม เพราะการเป็น 1 ใน 3 ป.บูรพาพยัคฆ์ และการเป็นพี่รอง ก็ยังมีบารมีพอที่จะคุมทหาร เพราะบิ๊กป๊อก ก็คือ บิ๊กป้อม และก็คือ บิ๊กตู่ นั่นเอง

จนทำให้ พล.อ.ประวิตร ต้องออกตัวชัดๆ ครั้งแรกว่า ไม่ได้อยากจะย้ายไปเป็น รมว.มหาดไทย ไม่ได้อยากจะไปเป็น มท.1

พันเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี, พลเอก วัลลภ รักเสนาะ

แต่ “ถ้าถามใจผม ผมอยากอยู่กลาโหมมากกว่า” บิ๊กป้อมระบุ พร้อมเตือนนายกฯ ว่า นี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะในการปรับ ครม. ควรจะรอให้พระราชพิธีสำคัญ เรียบร้อยไปเสียก่อน

เพื่อปิดโอกาสการเปลี่ยนตัว รมว.กลาโหม ในช่วงครบรอบ 3 ปี รัฐบาล คสช. ในเดือนสิงหาคมนี้ เพราะ พล.อ.ประวิตร ต้องการจัดโผทหารให้เสร็จสิ้น จัดทัพให้เสร็จเสียก่อน เพราะมีน้องรักที่รอพี่ป้อมเนรมิตฝันให้เป็นจริงอยู่เป็นคิวยาวเหยียด

โดยก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร ก็ยืนยันว่า จะไม่ถอดใจหรือสละเก้าอี้ไปเพราะเรื่องสุขภาพ แต่จะอยู่จนครบเทอมของรัฐบาล คสช.

แต่ที่น่าสังเกตคือ ปฏิกิริยาตอบสนองต่อข่าวถูกปรับ ครม. ของ พล.อ.ประวิตร แตกต่างกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะการไปผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ จนแซวกันขำๆ ว่า คุณหมอตัดต่อมปริ๊ดของบิ๊กป้อมทิ้งไปด้วยหรือไม่ จึงไม่มีอารมณ์โกรธ หรือเสียงดังโวยวายเช่นที่ผ่านมา

แต่คราวนี้ พล.อ.ประวิตร เปรยว่า “ยังไม่รู้เลย” เมื่อถูกถามถึงการสลับไปนั่งคุมเลือกตั้ง บนเก้าอี้ มท.1 หาใช่การอารมณ์เสียใส่นักข่าว หรือการปฏิเสธเสียงเข้ม แต่กลับกลายเป็นการยอมพูดตรงๆ ว่า อยากเป็น รมว.กลาโหม ต่อ

แต่ที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ ก็ปฏิเสธข่าวการปรับ ครม. ถึงขั้นระบุว่า “เพ้อเจ้อ”

โดยยืนยันว่า ยังไม่ได้คิดอะไรสักอย่าง และไม่จำเป็นที่จะต้องโยก พล.อ.ประวิตร ไปอยู่มหาดไทยเพื่อคุมการเลือกตั้ง เพราะมีหน่วยที่มีหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว

แต่ทว่า กระทรวงกลาโหม ก็ยังคุกรุ่นจากการจัดโผโยกย้ายนายพล ทั้งศึกชิงเก้าอี้ปลัดกลาโหม ที่บิ๊กทหารคนนอก ก็จะมาเสียบ เพราะในกลาโหมถูกวางหมากให้โตกันไม่ทัน เพราะรองปลัดกลาโหม 4 คนเกษียณราชการพร้อมกันหมดเลย

พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์, พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ

จึงเป็นช่องให้ห้าเสือ ทบ. ข้ามมาเสียบยอด ระหว่าง บิ๊กเข้ พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ผช.ผบ.ทบ. (ตท.18) สายบูรพาพยัคฆ์ และ บิ๊กต้อ พล.อ.สสิน ทองภักดี เสธ.ทบ. (ตท.17) สายทหารม้า บ้านป๋า ที่เชื่อกันว่า พล.อ.เทพพงศ์ จะได้เป็นปลัดกลาโหม ปลอบใจที่พลาดเก้าอี้ ผบ.ทบ. เพราะ บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท นั่งเป็น ผบ.ทบ. ต่อเป็นปีที่ 2

แต่ที่ร้อนขึ้นมาอีก เมื่อส่อเค้าว่า พล.อ.ประวิตร จะส่ง บิ๊กลภ พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ ผอ.สำนักนโยบายและแผนกลาโหม (ตท.18) ข้ามไปเป็นคนนอก ไปเสียบเก้าอี้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

จนถูกมองว่า เพื่อเปิดทางให้ บิ๊กณัฐ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ หัวหน้าคณะนายทหารฝ่าย เสธ.ประจำ รมว.กลาโหม น้องรัก ตท.20 ของบิ๊กป้อม ขึ้นเป็นรองปลัดกลาโหม

เพราะตามไลน์เดิมแล้ว พล.อ.วัลลภ จะต้องขึ้นเป็นรองปลัดกลาโหม แถมทั้งมีอายุราชการถึงปี 2562 ก็ย่อมมีโอกาสที่จะเป็นปลัดกลาโหมต่อในอนาคต

ส่งผลให้ พล.อ.ณัฐ ดูลำบากใจไม่น้อย เพราะในทางปฏิบัติแล้ว พล.อ.ประวิตร อาจจะยังไม่ให้ พล.อ.ณัฐ ขึ้นรองปลัดกลาโหม แต่ให้น้องรักที่เป็นพลเอกในกลาโหม ที่จะเกษียณ มานั่งรองปลัดกลาโหมไปพลางก่อน เพราะ พล.อ.ณัฐ มีอายุราชการถึงปี 2564 ก็ยังมีเวลา

แต่ทว่า ก็มองกันว่า บิ๊กป้อมต้องการวางตัว พล.อ.ณัฐ ให้เป็นปลัดกลาโหมต่อเนื่อง ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่การเลือกตั้งเลยทีเดียว

นี่จึงไม่ได้ทำให้แค่ พล.อ.ณัฐ ถูกจับตามอง และวิพากษ์วิจารณ์เท่านั้น แต่ พล.อ.วัลลภ ก็ถูกคนใน สมช. ต่อต้าน เพราะต่างต้องการให้ “รองเกลี้ยง” นายสมเกียรติ ศรีประเสริฐ รองเลขาฯ สมช. ขึ้นเป็นเลขาฯ สมช.คนใหม่

นายสมเกียรติ ศรีประเสริฐ, พล.อ.ทวีป เนตรนิยม

อีกทั้ง บิ๊กแอ๊ว พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาฯ สมช.คนปัจจุบัน ก็ประกาศชัดเจนว่า เสนอชื่อนายสมเกียรติ ขึ้นแทนตนเอง

แต่ พล.อ.ประวิตร ไม่คิดว่าคนใน สมช. จะมีปัญหาหรือน้อยใจอะไร เพราะ พล.อ.ทวีป ก็มาจากคนนอก และเป็นทหาร พร้อมยืนยันว่า หากส่งทหารมา สมช. ก็ไม่ใช่เพราะการโยกย้ายทหารไม่ลงตัว

แต่ย่อมมีปฏิกิริยาจากคนใน สมช. เพราะหาก พล.อ.วัลลภ มาเป็นเลขาฯ สมช. คนใน ก็จะไม่ได้ขยับกันอีก 2 ปี หลังจากที่ก็ไม่ขยับมา 2 ปีที่ พล.อ.ทวีปอยู่มาแล้ว

งานนี้ คาดกันว่า ต้องถึงมือ นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร และอดีตเลขาฯ สมช. สายพลเรือน ที่ต่างก็หนุนให้นายสมเกียรติขึ้น

แม้ว่า พล.อ.วัลลภ จะเป็นนายทหารคนเก่งของกลาโหมก็ตาม แต่คน สมช. ย่อมอยากให้คนใน อย่างนายสมเกียรติ เป็นเลขาฯ สมช. มากกว่า

งานนี้ให้จับตามอง “วปอ.คอนเน็กชั่น” เพราะทั้ง พล.อ.วัลลภ และนายสมเกียรติ ก็เป็นเพื่อน วปอ.54 ด้วยกัน และทั้งคู่ก็เป็นเพื่อน วปอ. กับ บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. และเลขาฯ คสช. ด้วย แต่ทว่า อยู่หมู่เดียวกับนายสมเกียรติ

พลตรีณรงค์พันธุ์ จิตต์แก้วแท้, พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา

นี่อาจเป็นผลให้ พล.อ.ทวีป ซึ่งเป็นเพื่อน ตท.16 ของ พล.อ.เฉลิมชัย ประกาศออกมาเลยว่า เสนอชื่อนายสมเกียรติ เพื่อสร้างความชอบธรรม พร้อมเปรยๆ ว่า หลังเกษียณแล้วจะไปบวช

จนเชื่อกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะต้องตัดสินใจเอง ในการเลือกเลขาฯ สมช.คนใหม่

ขณะที่ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่ บิ๊กแดง พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ที่ใครๆ ก็ว่า “นอนมา” ในการขึ้นพลเอก เป็น ผช.ผบ.ทบ. เป็นหนึ่งใน 5 เสือ ทบ. และเตรียมตัวขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ในปลายปี 2561

แม้หากมีการเลือกตั้ง 19 สิงหาคม 2561 แต่ก็เชื่อกันว่า ขั้วอำนาจจะไม่เปลี่ยน เพราะจะเป็นรัฐบาลผสม หรือรัฐบาลปรองดอง ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ คนนอก

โดยมี พล.ท.อภิรัชต์ คุมกำลัง ทบ. ในเวลานั้น เป็นฐานค้ำเก้าอี้นายกฯ คนนอก ให้ พล.อ.ประยุทธ์ นั่นเอง โดยมีอายุราชการถึงปี 2563

ตามแผนของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น มีการวางตัวน้องรักในสายทหารเสือฯ และบูรพาพยัคฆ์ ไว้เป็น ผบ.ทบ. ต่อ เช่น บิ๊กติ่ง พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ที่มีอายุราชการถึงปี 2565 และวางตัว เสธ.ต่อ พล.ต.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.พล.ร.2 รอ. แล้วต่อด้วย เสธ.ตั้ม พ.อ.วรยุทธ์ แก้ววิบูลย์พันธุ์ รอง ผบ.พล.ร.2 รอ. น้องรักสายทหารเสือราชินี มาเป็น ผบ.ทบ. ต่อ ตามสูตร “ตู่-ติ่ง-ต่อ-ตั้ม” ที่รู้กันดีใน พล.ร.2 รอ.

แต่ความหวั่นไหวในหมู่ทหารเสือฯ และบูรพาพยัคฆ์ ก็เกิดขึ้น เมื่อมีความเชื่อกันว่า ทหารเสือฯ และบูรพาพยัคฆ์ ที่คุมอำนาจมายาวนานตั้งแต่รัฐประหารปี 2549 นั้น จะค่อยๆ ลดความสำคัญลงไป

โดยมีทหารสายวงศ์เทวัญ ขึ้นมาคุมอำนาจแทนที่ โดยมี พล.ท.อภิรัชต์ เป็นหัวหอกวงศ์เทวัญ คุมกองทัพ

จึงไม่แปลกที่ความสำคัญของ พล.ท.อภิรัชต์ จะทำให้สหรัฐอเมริกาเกาะติด ถึงขั้นที่เชิญไปเยือนเยี่ยมหน่วย ถึง 2 ครั้ง รอบแรก บิ๊กแดงนำ ผบ.หน่วยไปเยือน ทบ.สหรัฐมาแล้ว เมื่อมีนาคมที่ผ่านมา

มาครั้งนี้ สหรัฐเชิญ พล.ท.อภิรัชต์ ไปเรียนหลักสูตรของ War College ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. 14-24 กรกฎาคม ที่เป็นหลักสูตรที่เชิญผู้นำทหารระดับนายพล มาอบรมความรู้ทางการทหารในโลกยุคใหม่และการรับมือภัยคุกคามต่างๆ

อีกทั้ง พล.ท.อภิรัชต์ ก็จบชั้นนายพันที่ฟอร์ตเบนนิ่ง และเรียนจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย Georgetown สหรัฐอเมริกาอีกด้วย

แต่ที่ถูกจับตาอย่างยิ่งในโผนี้ คือเก้าอี้แม่ทัพภาคที่ 1 ที่ตอนนี้ บิ๊กตู่เล็ก พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพน้อยที่ 1 น้องรักของบิ๊กป้อม จะเป็นเต็งหนึ่ง และดูเจ้าตัวก็ดูจะยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ทว่า ก็รู้ดีว่า ตราบใดที่โผยังไม่คลอด ก็ไม่มีอะไรแน่นอน

เพราะทุกสายตายังจับจ้องไปที่ บิ๊กหนุ่ย พล.ต.ธรรมนูญ วิถี รองแม่ทัพภาคที่ 1 ด้วยผลงานที่ผ่านมา ทั้งแบบปิดทองหลังพระ ตั้งแต่รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 และงานที่ได้รับมอบหมายสำคัญๆ มาตลอด จนทุกวันนี้

แถมทั้งก็เป็นน้องรักในสายบูรพาพยัคฆ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยเช่นกัน แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เป็นน้องเลิฟของ บิ๊กหมู พล.อ.ธีรชัย นาควานิช องคมนตรี และอดีต ผบ.ทบ.

แต่หาก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการคืนความชอบธรรมให้ พล.ท.กู้เกียรติ ที่จ่ออยู่ แถมครั้งก่อนก็เคยพลาดหวังมาแล้ว ก็คาดกันว่า พล.ต.ธรรมนูญ จะขึ้นเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 แทน

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พล.ต.ธรรมนูญ จะได้ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในอนาคต เพราะยังมีแคนดิเดตสำคัญคือ บิ๊กติ่ง พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อน ตท.22 สายทหารเสือราชินี แต่ร่วมวงศ์บูรพาพยัคฆ์ด้วยกัน ก็จ่อชิงแม่ทัพภาคที่ 1

แบบที่คนใน พล.ร.2 รอ. รู้ดีว่า เป็นน้องรักในลำดับหัวแถวของ พล.อ.ประยุทธ์ เลยทีเดียว

กล่าวกันว่า จากแคนดิเดตที่มีอยู่ ทั้ง พล.ท.กู้เกียรติ พล.ต.ธรรมนูญ และ พล.ต.สันติพงศ์ แล้ว ใครเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ก็อาจจะเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คนสุดท้าย ที่มาจากทหารเสือฯ หรือบูรพาพยัคฆ์

เพราะที่ต้องจับตาก็คือ ในโผนี้ บิ๊กบี้ พล.ต.ณรงค์พันธุ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.พล.1 รอ. จะขยับขึ้นมาเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 และจะทำให้กลายเป็นแคนดิเดตชิงแม่ทัพภาคที่ 1 ในโยกย้ายปลายปีหน้า

ถ้าหากโผนี้ พล.ต.ธรรมนูญ หรือ พล.ต.สันติพงศ์ ยังไม่ได้เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ก็จะต้องมาชิงกับ พล.ต.ณรงค์พันธุ์ จากสายวงศ์เทวัญ ที่เป็นเพื่อน ตท.22 ด้วยกัน

แต่ก็น่าจับตามอง ที่ ผบ.พล.1 รอ. คนใหม่ ที่ไม่ใช่ เสธ.อ๊อบ พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ที่เติบโตมาจาก ร.11 รอ. ซึ่งเป็น รอง ผบ.พล.1 รอ. จ่ออยู่ แต่ต้องขยับไปเป็น พลตรี ในตำแหน่ง ผบ.มทบ.11

ด้วยเพราะนายทหารที่จะมาเป็น ผบ.พล.1 รอ. จะต้องเรียกว่า “เป๊ะ” ทุกกระเบียดนิ้ว เพราะเป็นหน่วยใน ฉก.904 จึงจำเป็นต้องเลือกนายทหารที่เติบโตมาในสายทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์

พลตรีสนิธชนก สังขจันทร์ , พลตรี เอกรัตน์ ช้างแก้ว

จึงทำให้มีชื่อของ บิ๊กช้าง พล.ต.เอกรัตน์ ช้างแก้ว เสนาธิการกองทัพน้อยที่ 1 แกนนำ ตท.23 สายวงศ์เทวัญ ที่เติบโตมาจาก ร.1 รอ. เป็นอดีต ผบ.ร.1 รอ. และเคยเป็น รอง ผบ.พล.1 รอ. มาเป็น ผบ.พล.1 รอ.คนใหม่

โผนี้ เสธ.หนุ่ม พล.ต.สนิธชนก สังขจันทร์ ผบ.มทบ.11 ก็ต้องขยับไปเป็น ผบ.พล.ร.11 เพื่อเปิดทางให้ พ.อ.ทรงวิทย์ เพื่อนร่วมรุ่น ตท.24

แต่ก็ถือว่า ได้มาเป็นผู้บัญชาการกองพล แม้ พล.ร.11 สมัยก่อนจะเป็นกองพลหนุน

แต่มาตอนนี้ พล.ร.11 มาฝากการบังคับบัญชากับกองทัพภาคที่ 1 เพื่อทำเป็นกำลังทหารเสริมแทน พล.1 รอ. ที่มีภารกิจในการถวายงาน

เพราะตอนนี้กองทัพบกต้องมีการจัดทัพใหม่ เพราะต้องรองรับภารกิจของการถวายงาน ในนาม ฉก.904 หรือ CAT ทั้ง พล.1 รอ. และ พล.ร.2 รอ. รวมทั้ง ร.21 รอ. หน่วยทหารเสือราชินี ที่มีการปรับเปลี่ยนหลักสูตรการฝึก จากหลักสูตรทหารเสือราชินี มาเป็นหลักสูตรทหารรักษาพระองค์ UKBT

รวมทั้ง กรมรบพิเศษที่ 3 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) ที่ทั้งกองพันจู่โจม และ ฉก.90 รบพิเศษระดับพระกาฬที่มีชื่อเสียงของ ทบ. ก็จะได้มาถวายงาน ส่วนภารกิจที่หน่วยเหล่านี้เคยปฏิบัติมานั้น ก็มีการปรับเปลี่ยนให้หน่วยอื่นทำแทน

จึงคาดกันว่า หลังโผโยกย้ายทหารระดับนายพลเสร็จสิ้นแล้ว ต้องมีการจัดทัพระดับ พันเอกพิเศษ ผู้การกรม และผู้พัน ต่อ เพื่อรองรับการปรับภารกิจใหม่ของ ทบ. อีกด้วย

แม้การจัดโผทหาร และการจัดทัพคราวนี้ จะส่งกลิ่นกรุ่นๆ แต่ทว่า ทั้ง 3 ขุนพล คสช. พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.เฉลิมชัย ก็เอาอยู่…