โฟกัสพระเครื่อง/เหรียญฉลองแซยิด 94 ปี มงคล “หลวงพ่อทบ” พระเกจิชื่อดังเพชรบูรณ์

โฟกัสพระเครื่อง/โคมคำ [email protected]

เหรียญฉลองแซยิด 94 ปี

มงคล “หลวงพ่อทบ” พระเกจิชื่อดังเพชรบูรณ์

“พระครูวิชิตพัชราจารย์” หรือ “หลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ” อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทชนแดน พระเกจิชื่อดังแห่งเพชรบูรณ์ ที่สาธุชนให้ความเลื่อมใสศรัทธา

หลวงพ่อทบ เป็นพระเกจิที่ชาวเมืองเพชรบูรณ์เคารพศรัทธา ด้วยมีเมตตา กรุณา ไม่เลือกชั้นวรรณะ และมีอิทธิปาฏิหาริย์เป็นที่ปรากฏ จนได้รับสมญา “เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำป่าสัก”

ด้านวัตถุมงคล มีมากมายหลายประเภท ทั้ง รูปหล่อโลหะ เหรียญ ตะกรุด แหวน ฯลฯ

สำหรับเหรียญหลวงพ่อทบ ที่นับว่าเป็นเหรียญดีเหรียญหนึ่งที่หายาก คือ เหรียญรุ่นแซยิด 94 ปี

จัดสร้างโดย หลวงพ่อบุญ เจ้าอาวาสวัดโบสถ์โพธ์ทอง ต.นายม อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เมื่อปี พ.ศ.2517 ซึ่งเป็นชาวบ้านนายม ได้ชักชวนชาวบ้านนายม ร่วมกันสร้างขึ้น เพื่อเป็นการฉลองอายุวัฒนมงคลวให้หลวงพ่อทบ

ลักษณะเหรียญเป็นรูปไข่ ขนาด 3 เซนติเมตร ขอบเหรียญยกสูง 2 ขอบ

ด้านหน้าเหรียญ ตรงกลางเป็นรูปหลวงพ่อทบ ครึ่งองค์ พาดสังฆาฏิ ห้อยลูกประคำ ด้านบนเป็นตัวอักษรคำว่า “ฉลองแซยิด ๙๔ ปี” ใต้รูปเขียนว่า “พระครูพิชิตพัชาราจารน์ (หลวงพ่อทบ)”

ด้านหลังเหรียญ เป็นรูปยันต์ห้า มีอักขระเขียนบนยันต์ ใต้ยันต์ มีอักขระ 4 ตัว ด้านบนยันต์ เขียนเป็นอักษรไทยคำว่า “รุ่นหนึ่ง” ส่วนโค้งขอบเหรียญด้านล่าง เขียนว่า “วัดโบสถ์โพธิ์ทอง ต.นายม เพชรบูรณ์ ๑๗”

เหรียญดังกล่าว เชื่อกันว่ามีพุทธคุณโดดเด่นรอบด้าน ส่วนราคาเช่าหาบูชา ตามความคมชัดสวยงามของเหรียญ

จัดป็นอีกเหรียญหนึ่งที่นักสะสมพระเครื่อง ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

เกิดในสกุลม่วงดี ที่บ้านยางหัวลม ต.นายม อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2424

ในช่วงวัยเยาว์ เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะดี จึงไม่ค่อยเดือดร้อนและลำบากเท่าใด

เมื่ออายุได้ 16 ปี บิดาได้นำไปฝากให้พระอาจารย์สี วัดช้างเผือก ต.วังชมพู อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ให้บวชสามเณร ได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและวิทยาคมจากพระอาจารย์สี

พ.ศ.2445 เมื่ออายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดศิลาโมง ต.นายม อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โดยมีพระครูเมือง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์ปาน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์สี เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับฉายาว่า ธัมมปัญโญ หมายถึง ผู้มีความรู้ในพระธรรม

หลังอุปสมบท ย้ายไปจำพรรษาที่วัดช้างเผือก เพื่อศึกษาด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคมจากพระอาจารย์ปาน จนมีความเชี่ยวชาญ จากนั้นได้ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ บำเพ็ญภาวนา แสวงหาสถานที่สัปปายะทำกัมมัฏฐาน ขณะเดียวกัน ได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมด้านวิทยาคมจากพระเกจิอาจารย์ต่างๆ

ในขณะออกท่องธุดงควัตร ได้มีโอกาสพบกับหลวงพ่อเขียน ธัมมรักขิโต พระเกจิชื่อดัง โดยหลวงพ่อเขียนเป็นคนบ้านตลิ่งชัน ต.ชอนไพร อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ แต่มีอายุและพรรษามากกว่า หลวงพ่อทบจึงเรียกขานหลวงพ่อเขียน ว่า “หลวงพี่” ทุกครั้งไป

ทั้งสองท่านเป็นสหายธรรมที่ใกล้ชิดกันมากที่สุด

ด้านวัตถุมงคล หลวงพ่อทบ สร้างวัตถุมงคลไว้มากมาย อาทิ พระผง รูปหล่อ มากกว่า 200 พิมพ์ รูปหล่อหน้าฝรั่ง รูปหล่ออกซื่อ และรูปหล่อหัวไม้ขีด เป็นต้น ในส่วนของเครื่องราง คือ ตะกรุดโทน ถักด้าย ถือว่าเป็นที่นิยมมากที่สุดของบรรดาเซียนพระ มีพุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน

นอกจากนี้ ยังได้สร้างวัด ศาลาการเปรียญ อุโบสถให้แก่วัดต่างๆ มากมาย อีกทั้งบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะของวัดที่ชำรุดทรุดโทรม

เมื่อเดินธุดงค์ไปยังพื้นที่เขต อ.ชนแดน ญาติโยมได้พากันนิมนต์ให้สร้างวัดพระพุทธบาทเขาน้อย ซึ่งขณะนั้นเป็นเพียงสำนักสงฆ์เล็กแห่งหนึ่ง โดยได้สร้างวัด สร้างกุฏิ อุโบสถ ศาลาการเปรียญ จนเจริญรุ่งเรือง จนได้รับการยกฐานะให้เป็นวัดประจำเภอ

พ.ศ.2490 ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2497 ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอชนแดน และได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่ พระครูวิชิตพัชราจารย์

มรณภาพลง เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2519 สิริอายุ 95 ปี

ทั้งนี้ ก่อนที่หลวงพ่อจะมรณภาพ ท่านได้สั่งเสียเป็นครั้งสุดท้ายว่า ห้ามไม่ให้เผาร่างของท่าน ด้วยในวันข้างหน้า ร่างของท่านจะมีคุณประโยชน์ต่อวัดอย่างมาก

คณะศิษย์นำร่างของท่านบรรจุไว้ในโลงแก้ว ต่อมา จังหวัดเพชรบูรณ์ เข้ามาบูรณะ ปรับภูมิทัศน์ สร้างรูปเหมือน สร้างมณฑป ให้เป็นที่ตั้งโลงแก้ว เพื่อให้ประชาชนได้สักการบูชากราบไหว้

ปัจจุบัน วัดช้างเผือกกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาแห่งหนึ่ง ในแต่ละวันจะมีประชาชนทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดพากันมากราบสักการะร่างที่ไม่เน่าเปื่อยทุกวัน

ร่างกายที่ไม่เน่าเปื่อยและกลายสภาพเป็นหิน นอนสงบนิ่งอยู่ภายในโลงครอบแก้ว เหมือนกับว่า ท่านยังไม่มรณภาพ

ทุกปี วัดช้างเผือกจะทำการเปลี่ยนผ้าไตรจีวรให้แก่ท่านเป็นประจำ และผ้าจีวรที่เปลี่ยนออกมา ชาวบ้านญาติโยมต่างพากันนำไปเป็นเครื่องราง

กล่าวกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ไม่เสื่อมคลาย แม้ว่าท่านจะมรณภาพไปนานกว่า 40 ปี