เครื่องเสียง : The Best Equipments (จบ) / พิพัฒน์ คคะนาท

เครื่องเสียง

พิพัฒน์ คคะนาท / [email protected]

 

The Best Equipments (จบ)

 

มาต่อกันเรื่องผลิตภัณฑ์แห่งปี ที่เป็น The Best ในแต่ละสาขาประเภท ที่เครือข่ายสังคมเครื่องเสียงออนไลน์ซึ่งมีอยู่แทบจะทุกทวีปทั่วโลก ทั้งยุโรป อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และเอเชีย ได้โหวตเอาไว้ครั้งล่าสุดกันนะครับ

เที่ยวก่อนว่ากันไปแล้ว 11 สาขา เที่ยวนี้มาว่ากันต่อให้จบ

โดยเริ่มกันที่สาขาอุปกรณ์ประมวลผลภาพ

 

Video Processor : Lumagen Radiance Pro เป็นเครื่องที่มีศักยภาพเช่นมีดอเนกประสงค์ของทหารสวิส หรือ Swiss Army Knife อันลือเลี่อง สามารถรังสรรค์ภาพต้นทางไม่ว่าจะจากแผ่น หรือจากการสตรีม ออกมาได้อย่างโดดเด่นระดับเดียวกับงานภาพในสตูดิโอ ด้วยความคมชัดและมิติภาพที่เสมือนจริง ผนวกฟังก์ชั่นที่ช่วยให้ได้ภาพสวยงามทั้งในแง่ของสีสัน และแสงเงา ไม่ว่าจอภาพจะมีขนาดใหญ่แค่ไหนก็ตาม

Soundbar : Sennheiser Ambeo ซาวด์บาร์ที่ดีจะต้องสามารถให้บรรยากาศเสียงแบบ Doby Atmos และ DTS : X ออกมาได้อย่างไร้ที่ติด้วยตัวมันเองแบบมิพักต้องมีตัวช่วย และนี่คือคำตอบ มาพร้อมไดรเวอร์ 13 ตัว บรรจุในโครงสร้างชิ้นเดียว มีการทำงานอย่างชาญฉลาดในการให้เสียงในระบบ 5.1.4 ออกมาอย่างสมจริง รองรับการทำงานแบบไร้สายร่วมกับ Chromecast และอุปกรณ์เครือข่าย DLNA ได้ โครงสร้างมั่นคงแข็งแรงดูดีสมราคา (บ้านเราขายใกล้ๆ แสน ที่เห็นในรูปนั่นแหละครับ)

Standmount Loudspeaker : Neat Acoustic Ministra นี้, อาจเป็นลำโพงราคาประหยัดที่มีความก้าวล้ำทางด้านเทคโนโลยีเอามากๆ แต่ที่เหนือกว่านั้นก็คือมันให้สุ้มเสียงได้ดีมาก และน่าจะเป็นลำโพงวางขาตั้งเพียงรุ่นเดียวที่ผสมผสานการทำงานของทวีตเตอร์แผง Ribbon กับมิด/เบส ไดรเวอร์ ที่ขึ้นรูปกรวยด้วยกระดาษแบบ Isobaric Load สองตัว โดยวางซ้อนอยู่ภายในตู้ด้านหลังที่ตำแหน่งเดียวกันกับตัวที่อยู่บนแผงหน้าตู้ เพื่อเป็นการเพิ่มพลังเสียง และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือน้ำเสียงที่น่าทึ่งอย่างยิ่ง

Floorstanding Loudspeaker : Acoustic Energy AE520 ด้วยราคา (ในบ้านเรา) ประมาณแสนกลางๆ ซึ่งก้ำกึ่งอยู่ระหว่าง Budget กับ Mid-Price ของกลุ่มก้าวเข้าสู่ Hi-End และไม่ว่าจะจัดให้มันอยู่ฝั่งใดก็ตาม มันได้มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้จากการทำงานของชุดตัวขับเสียงที่ขึ้นรูปกรวยด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญพิเศษในการออกแบบไดรเวอร์ของค่ายนี้ ที่สอดประสานการทำงานของกับโดม ทวีตเตอร์ ได้อย่างลงตัว ให้น้ำเสียงที่นุ่มนวล ลื่นไหล เป็นไปตามครรรลองดนตรีอย่างเคร่งครัด ทั้งยังให้พลังเสียงในย่านความถี่ต่ำๆ ออกมาระดับฟ้าสะท้านดินสะเทือนนั่นเทียว

Hi-End Loudspeaker : TAD Evolution One การคัดสรรวัสดุมาใช้อย่างประณีต พิถีพิถัน และละเอียดลออยิ่ง คือกุญแจสำคัญที่ดึงดูดความน่าสนใจสูงสุดของลำโพงวางขาตั้งที่ถูกออกแบบมาอย่างเหนือชั้นคู่นี้ ทวีตเตอร์เบอร์รีลเลียมบริสุทธิ์ ให้การทำงานไปกันได้เป็นอย่างดีกับกรวยแมกนีเซียมในย่านความถี่กลาง และลงตัวเป็นอย่างยิ่งกับกรวยที่ถักทอขึ้นรูปด้วยใยผ้า Aramid Fibre ของเสียงเบส รวมทั้งปัจจัยสำคัญอีกประการคือทั้งหมดนั้นกอปรกันอยู่ในตู้ที่ปลอดรีโซแนนซ์อย่างสิ้นเชิง มันจึงเป็นลำโพงเล็กที่ให้น้ำเสียงออกมาอย่างยิ่งใหญ่ และด้วยความโปร่งใสอย่างเหลือเชื่อ

ทั้งยังมีสปีดเสียงที่รวดเร็วกับการให้แบนด์วิดธ์ที่ยอดเยี่ยมมากอีกด้วย

 

In-Ear Monitors : Audio-Tecnica ATH-ANC300TW ชุดหูฟังแบบ True Wireless ของ AT กลับมาอีกครั้งด้วยเรือธงรุ่นนี้ ชุดตัวขับเสียงแบบไดนามิก ขนาด 5.8 มม. ขึ้นรูปด้วยคาร์บอน ให้น้ำเสียงที่ใสพิสุทธิ์ประดุจละอองหิมะ ผ่านการทำงานที่รองรับ AAC, SBC และ aptX ของ Qualcomm ที่เป็นพัฒนาการล่าสุดในการใช้งานแบบ TWS+ (TrueWireless Stereo Plus) รวมทั้งยังใช้เทคโนโลยี QuietPoint ที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะ ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าให้การทำงานตัดเสียงรบกวนได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งหมดล้วนเป็นการผสมผสานที่ลงตัวอันนำมาซึ่งชัยชนะของหูฟังชุดนี้

Over-Ear Headphones : Dan Clark Audio Aeon 2 ด้วยโครงสร้างที่ดี ให้การสวมใส่ที่แสนสบายอย่างเหนือระดับ และอุปกรณ์เสริมที่ยอดเยี่ยม ทำให้ชุดหูฟังที่ไม่ธรรมดานี้เริ่มต้นได้อย่างมั่นคง ทั้งยังเสริมส่งด้วยการทำงานอย่างยอดเยี่ยมของชุดตัวขับเสียงซึ่งเป็นแบบ Planar Magnetic ที่ให้น้ำเสียงออกมาด้วยความไพเราะอย่างยากปฏิเสธ ทั้งยังมีความละเอียดอ่อนที่ชวนฟังอย่างยิ่งยวด มีให้เลือกทั้งแบบเปิดและปิดด้านหลัง

Phono Preamplifier: Rega Aria Mk3 เป็นเครื่องที่ออกจะทำให้คู่แข่งในกลุ่มเครื่องราคาประหยัดค่อนข้างลำบากใจกันไม่น้อย ด้วยการใช้ทรานซิสเตอร์ให้งานแบบ Discrete ไม่ใช่เป็นแบบ Op-Amp ในภาคทางเดินสัญญาณ ซึ่งเป็นการออกแบบที่น่าสนใจมาก ทั้งยังรองรับการทำงานกับ MM และ MC ที่มีความยืดหยุ่นสูง อันส่งผลให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีชนิดที่ยากเอามากๆ ที่เครื่องอื่นใดจะสามารถให้ได้มากกว่านี้ในระดับราคาเดียวกัน

Interconnect Cable : SLIC Innovations Eclipse C MkIII กับชื่อแบรนด์ที่มาจากคำว่า Super Low Interference Cable ก็น่าจะอธิบายถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวการนำสัญญาณของค่ายนี้ได้เป็นอย่างดีแล้ว โดยมันสามารถทำงานก้าวข้ามย่าน Ultra-Wide Frequency ไปได้ถึงที่ระดับ 300MHz และกับย่านความถี่ที่หูของมนุษย์สามารถได้ยินนั้น มันให้ออกมาอย่างเปิดกว้าง ทั้งยังโปร่งใสอย่างน่ามหัศจรรย์ยิ่ง ให้ภาพรวมของเสียงออกมาได้กลมกล่อมไม่ว่าจะในแง่ของความหนักแน่น หรือด้านที่นุ่มนวล โดยปราศจากสากเสี้ยนที่คมแข็งอย่างสิ้นเชิง คือความคุ้มค่าแบบที่ต้องบอกว่าสุดจริงๆ

Loudspeaker Cable : Tellurium Q Blue II หากคิดราคาต่อเมตรอาจจะสูงสักหน่อยสำหรับค่าสายลำโพงของผู้คนส่วนใหญ่ (บ้านเราขายชุดละ 5,500 บาท ความยาว 2.50 เมตร/เส้น) แต่เชื่อเถอะว่าสิ่งที่มันให้กลับมานั้น เกินกว่าชนิดที่ต้องบอกว่าเหลือคณานับจริงๆ ด้วยการให้สมดุลเสียงที่ยอดเยี่ยมมาก ทั้งยังสื่อเสียงของย่านความถี่กลางออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง อุดมไปด้วยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบไม่มีสิ่งใดให้รู้สึกตกหล่น ไม่ว่าจะฟังจากแนวดนตรีใดก็ตาม มันสามารถสื่อท่วงจังหวะทำนองของดนตรีนั้นๆ ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ

Power Cable : EGM Audio Black ML Reference สายไฟ AC เส้นนี้ ใช้การควั่นเกลียวของทองแดงบริสุทธิ์ระดับ 6N (Pure OFC : Oxygen Free Copper 99.9999%) แบบ 7 แกน โดยมีแผ่นตะแกรงดีบุกห่อหุ้ม ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันสัญญาณแทรกซ้อนไม่พึงประสงค์ต่างๆ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือเสียงที่ยอดเยี่ยมมาก เป็นน้ำเสียงที่เปิดกว้าง นุ่มนวล ลื่นไหล และอุดมไปด้วยรายละเอียด เป็นงานฝีมือออกแบบระดับไฮ-เอนด์ที่ดูจะสวนทางกับราคาค่าตัว ทั้งยังมีฉนวนหุ้มที่แข็งแรง ทนทาน

บ่งบอกให้รู้ว่าใช้งานได้เนิ่นนานยิ่งอย่างแน่นอน

 

ครับ, ทั้งหลายทั้งปวงที่น่าสนใจก็มีดังที่นำมาเล่าสู่กันฟังนี้แหละครับ ที่เหลืออีกสองสามรางวัลก็มีชั้นวางเครื่องเป็นของ Solidsteel Hyperspike KY-4

รางวัลนวัตกรรมเป็นของลำโพง Magnepan LRS

และสุดท้ายรางวัล Overall หรือ Product of the Year ตกเป็นของ Hegel H120 อินติเกรตเต็ด แอมป์

ครบถ้วนครับ