แม่หวาน ละมุนมัม : ความจำสีรุ้ง บ้านสวนธรรม (13)

คอลัมน์ปรุงในครัวทัวร์นอกบ้าน

ฉันชื่นชอบอากาศสดชื่นยามเช้าของทุกวันเสาร์เสียงไผ่เสียดสีด้วยแรงลม นกสารพัดชนิดเจื้อยแจ้วส่งเสียงทักทายซึ่งกันและกันก้องกังวานไปทั่วทั้งเขาน้อยแผ่มาถึงบ้านสวนธรรม เกลียวคลื่นเล็กๆ บนผิวน้ำกระเพื่อมเบาๆ ด้วยปลาน้อยใหญ่ที่พากันดำผุดดำว่ายอย่างสนุกสนาน

ความอิ่มเอิบใจที่ฉันจะได้ไปพบเจอเด็กๆ ที่วัดสุวรรณฯ หรือภาพเด็กๆ คละอายุช่วยกันกวาดห้องเรียน และจัดโต๊ะเก้าอี้เพื่อเตรียมพร้อมให้ครูของเธอเป็นภาพที่ทำให้ฉันสุขใจมากท่ามกลางสังคมที่มีการแข่งขันสูงและกดดัน

กลิ่นควันอ่อนๆ ผสมกลิ่นดินลอยพวยพุ่งมาแตะจมูกได้ชั่วครู่ก็ถูกกระแสลมพัดผ่านเลยไปความเย็นชื่นบานเข้ามาแทนที่ทุกสัมผัสช่างอบอุ่นเมื่อฉันก้าวเข้าไปภายในวัด

เด็กๆ มักจะวิ่งกรูกันมารับครูของพวกเขาบ้างก็มาช่วยถือของกันอย่างขันแข็ง แต่ก่อนที่จะมาถึงตัวฉันนั้นไม้กวาดต่างกระเด็นกระดอนไกล ผ้าเช็ดโต๊ะผืนแข็งดำลอยละลิ่ว บ้างกระโจนออกมาจนสมุดดินสอล่วงหล่นกระจาย

ช่างน่าขำยิ่งนักเพราะนี่คือเกมยามเช้าของพวกเขา “ใครมาถึงครูก่อนชนะ” การแข่งขันที่ไม่ต้องท่อง ไม่ต้องส่งการบ้านอาศัยแค่แรงกายใครเร็วใครได้ และความภูมิใจก็จะมาเยือนเด็กๆ ที่ร่างกายคล่องแคล่วว่องไวให้ชื่นใจในยามเช้า

 

–พวกมึงอายครูกันบ้างไหม? หัดมีมารยาทกันเสียบ้าง

ป้ากิ๊บแม่บ้านที่ศูนย์อนามัยตำบลปากข้าวสารอายุอานามใกล้ 60 แล้ว ไม่ได้วิ่งตามเด็กๆ มาด้วยแต่มักคอยตะโกนปรามเด็กๆ หรือไม่ก็คอยสอนเรื่องมารยาทและระเบียบวินัยที่พึงมีต่อครู ในชุมชนนั้นส่วนใหญ่เด็กๆ จะกลัวและเชื่อฟังผู้ใหญ่โดยเฉพาะป้ากี๊บขาใหญ่ที่คนส่วนมากยำเกรง

–ไอ้พวกนี้มันเห็นด๊อกเตอร์หวานใจดี มันเลยลามปามต้องสะกัดมันไว้บ้างค่ะ

ป้ากิ๊บมักเรียกฉันเต็มยศเสมอ และที่แกพูดก็ดูมีเหตุผลดี แต่ฉันก็ไม่เห็นเด็กๆ จะเสียมารยาทตรงไหน? ดูน่ารักสดใสสมวัยต่างหาก

ฉันเองตอนเป็นเด็กก็เคยชอบ เคยประทับใจครู หลายๆ ครั้งที่อยากจะวิ่งไปรับครู อยากจะไปถือของให้ครูแต่ก็ไม่เคยทำได้สักทีได้แต่ยืนยิ้มนิ่งเฉยแอบมองครูอยู่ห่างๆ เท่านั้น ฉันจึงชื่นชม และในขณะเดียวกันก็แอบอิจฉาเด็กๆ ที่ได้แสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาอย่างที่ตัวเองปรารถนา

–ครูครับ ผมขออนุญาตนะครับ เดี๋ยวมาครับ

เริ่มสอนไปยังไม่ทันไร และเจ้าตัวก็พูดยังไม่ทันขาดคำ เด็กๆ ในห้องเรียนก็วิ่งหายเข้าไปในวัดเกินครึ่ง

–เกิดอะไรขึ้นคะ?

ฉันหันไปถามป้ากิ๊บเพราะอายากะลูกสาวฉันก็ออกวิ่งไปกับเขาด้วยเหมือนกัน ด้วยความห่วงใยฉันรีบโผล่ไปดูตรงประตูห้องเรียนแต่สายเสียแล้ว สิ่งที่ฉันได้เห็นนั้นมีแต่ฝุ่นและก้นสุนัขที่วิ่งตามเจ้าของไปติดๆ

ฉันหายใจอยู่ไม่ทั่วท้องประมาณเกือบ 15 นาที กลุ่มเด็กๆ 10 กว่าคนก็กลับมาด้วยหน้าตาแจ่มใส

–ไปไหนมาคะ?

–ไปอุโบสถมาครับ

มด เด็กชายวัยใสปลิ้นเสื้อยืดขึ้นแนบอกโชว์พุงดำที่โผล่พ้นเสื้อออกมาทักทายทุกคนอย่างน่าขัน เอ๊ะ! เหมือนในเสื้อยืดที่แนบอกอยู่นั้นมีของสำคัญอยู่เพราะดูท่าทางเขาจะหวงแหนเอาการ สองมือทั้งห่อทั้งกอดอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญเขายอมโชว์พุงกลมดำให้ชาวบ้านชาวช่องได้ดูต่างหน้าอีกต่างหาก

–อันนี้ผมให้ครูครับ

มดล้วงไปหยิบของสำคัญในเสื้อที่ปลิ้นขึ้นมาเป็นกระเป๋าแล้วหยิบออกมาวางบนโต๊ะครู 3 ชิ้น

ริบบิ้นสีสวยชมพูหวาน เหลืองนวลและขาวผ่องส่องประกายอยู่ตรงหน้า

–คืออะไรคะ?

มดไม่ตอบ ทำหน้าเขินๆ แล้วรีบกลับไปนั่งที่โต๊ะ

–ไอ้มด มึงให้ครูแค่นี้เองเหรอ?

เพื่อนๆ แซว คงเห็นว่ามดมีของสำคัญมากมายกว่าคนอื่นๆ

–จะเอาไปให้พ่อกับแม่

มดตอบเบาๆ

–แค่นี้ครูก็ดีใจแล้วค่ะ ขอบใจนะมด

ฉันรีบออกตัวเพราะแค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับฉัน

–หนูก็มีให้ครูค่ะ

เด็กน้อยสาวปุ๋ม สาวจิน สาวแตน ฯลฯ ต่างก็หยิบยื่นให้ฉันคนละชิ้นสองชิ้น ส่วนอายากะนั้นว่างเปล่า

–เร็วมากเลยค่ะ พอเงินถูกโปรยมาจากโบสถ์ ทุกอย่างรวดเร็วมาก ขนาดเหรียญมาตกอยู่ที่ขาหนูยังถูกเด็กคนอื่นแย่งไปเลยค่ะ หนูเก็บไม่ได้สักอันค่ะ แต่กลับโดนเหยียบเท้าและหมาเกือบกัดแทนค่ะ

–อืม…ค่ะ

ฉันมองหน้าเธอยิ้มๆ เด็กเมืองหรือจะมาสู้เด็กต่างจังหวัด ความคล่องแคล่วและการเอาตัวรอดนั้นช่างแตกต่างกันหลายขุม

 

ฉันมองเหรียญที่ห่อริบบิ้นแสนสวยที่กองอยู่บนโต๊ะแล้วก็หันไปยิ้มกับป้ากิ๊บ ฉันเข้าใจแล้วละ มิน่า เด็กๆ ถึงไม่ค่อยมีสมาธิในการเรียนนัก ก็ทั่วทั้งวัดเปิดเพลงดังสนั่นจนเสียงของฉันถูกกลืนหายไปตั้งแต่เช้า เสียงไชโยโห่ฮิ้วดังมาเป็นระยะๆ มีงานบวชนี่เอง! เด็กๆ ก็ช่างกะเวลาวิ่งไปเอาเหรียญที่โปรยได้แม่นยำมาก นับถือจริงๆ

–เจ๋ง ทำไมมึงมาสาย

เพื่อนๆ สอบถามเจ๋งที่เดินหน้ามุ่ยเข้ามาให้ห้องด้วยความรีบเร่ง

–ขอโทษครับครู ผมต้องช่วยแม่เลี้ยงน้องเพราะวันนี้แม่จะไปขายของที่ตลาดครับ

เจ๋งรีบวางเงินหนึ่งบาทบนโต๊ะครูแล้วก้มหน้าขอโทษด้วยความเกรงใจ

–เก็บไปค่ะ

ฉันหยิบเงินหนึ่งบาทวางบนมือเจ๋ง

–วันนี้เธอมาสายไปเกือบครึ่ง เธอเรียนยังไม่ถึงหนึ่งบาทเลยนะ แล้วอีกอย่างวันนี้เธอก็ทำความดีด้วยการช่วยแม่เลี้ยงน้อง ครูจึงขอสอนเธอฟรีนะคะ

เจ๋งกำเงินแน่นยกมือไหว้แล้วโค้งขอบคุณฉันอีกรอบก่อนเดินไปนั่งประจำที่

ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก เอาละการเรียนจะได้เริ่มต้นเสียที