เครื่องเคียงข้างจอ : หว่ออ้ายหนี่ เธอที่รัก / วัชระ แวววุฒินันท์

 

หว่ออ้ายหนี่ เธอที่รัก

 

เครื่องเคียงฯ ฉบับก่อน ผมเล่าถึงรายการใหม่ที่เจ เอส แอลเป็นคนผลิต ชื่อรายการ “sacict War Craft สงครามทำมือ” ออกอากาศทางช่องอมรินทร์ทีวี หมายเลข 34 ไปแล้วนะครับ

ฉบับนี้ผมขอเล่าถึงอีกผลงานหนึ่งของเจ เอส แอลสักหน่อยนะครับ คราวนี้เป็นละครโทรทัศน์ที่เพิ่งลงจอไปวันแรกเมื่อวันจันทร์ที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ชื่อเรื่อง “หว่ออ้ายหนี่ เธอที่รัก” ครับ ออกอากาศทางช่อง pptv หมายเลข 36

“หว่ออ้ายหนี่ เธอที่รัก” เป็นละครแนวโรแมนติกคอเมดี้ที่เจ เอส แอลถนัดครับ ได้ 3 นักแสดงที่วัยและเคมีเข้ากันได้ดีมาเป็นตัวนำ เป็นเรื่องความรักระหว่าง 1 หญิง 2 ชาย ฝ่ายหญิงคือ “พีค ภัทรศยา” นางเอกสาวร่างเล็ก ผมยาว ดวงตากลมโต ส่วนสองชายที่ต้องมาแข่งขันความรักกันคือ “ฌอห์ณ จินดาโชติ” และ “โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร” ครับ

เดิมทีละครเรื่องนี้ถูกออกแบบให้เป็นซีรีส์สั้นๆ ขนาด 4 ตอนจบ ตอนนั้น เจ เอส แอลเสนอให้แก่สายการบินแห่งหนึ่งที่ขยายเส้นทางไปยังประเทศจีน ละครเรื่องนี้จะช่วยเสริมแบรนด์ และสร้างความประทับใจกับการบริการให้กับเขาได้ แต่ตอนนั้นเขายังไม่พร้อมจึงพับโปรเจ็กต์ไป

แต่เจ เอส แอลเห็นเสน่ห์ของละครและตัวละครของเรื่องว่าน่าจะพัฒนาเป็นละครยาวที่สนุกได้ จึงสร้างตัวละครเพิ่มเติม และขยายเรื่องราวให้เข้มข้น มีอุปสรรคที่ท้าทายชวนติดตามมากขึ้น จนได้เป็นละครสนุกจำนวน 24 ตอนจบ

สถานี pptv ที่มีรายการกีฬาเป็นแม่เหล็กดึงดูดคนดูผู้ชายแล้ว อยากจะขยายฐานผู้ชมให้มีกลุ่มผู้หญิงมากขึ้นจึงเปิดสล็อตเวลาละครขึ้นมาตั้งแต่ปี 2562 แล้ว และเมื่อเห็นถึงความสนุกของเรื่อง “หว่ออ้ายหนี่ เธอที่รัก” ที่เจ เอส แอลนำไปเสนอ จึงได้อนุมัติให้สร้าง

ซึ่งที่ช่องเชื่อมั่นคือประสบการณ์ของเจ เอส แอล และชื่อเสียงและความสามารถของนักแสดงนำทั้งสาม

 

 

“หว่ออ้ายหนี่ เธอที่รัก” ชื่อมีสองภาษาอย่างนี้ แน่นอนที่ต้องเกี่ยวกับจีนและไทย พล็อตเรื่องก็มีว่า “พีค” เป็นนักเรียนไทยที่ไปเรียนออกแบบจิวเวลรี่ที่ประเทศไต้หวัน พีคมีชื่อจีนว่า “หยางมี่” ที่เรียกขานกันมาแต่เด็ก ที่นั่นหยางมี่ได้พบกับ “เฉินอัน” นักธุรกิจหนุ่มทายาทตระกูลเฉินที่เป็นเจ้าของโรงแรมและกิจการหลายแห่งในไต้หวัน รับบทโดย “โต๋” จริงๆ แล้วเฉินอันเป็นลูกครึ่งไทย-จีน เพราะแม่เป็นคนไทยที่ไปแต่งงานกับคนไต้หวัน และเฉินอันก็เกิดและเติบโตที่นั่น

เรื่องนี้โต๋จึงได้โชว์ทักษะการพูดภาษาจีนของเขาในเรื่องด้วย รวมทั้งได้โชว์ความสามารถทางด้านดนตรีที่มีอยู่เต็มเปี่ยมด้วยการเล่นเปียโน และกีตาร์ ซึ่งเพลงประกอบละครเรื่องนี้ โต๋ โดย บ.เทโรฯ ได้แต่งให้ถึง 2 เพลงด้วยกัน ชื่อเพลง “ไม่รู้ตัว” เพลงนำละครที่มีดนตรีสนุกสนานร้องโดยนักแสดงนำทั้งสาม และ “เป็นของเธอ” เพลงเศร้าที่ร้องโดยโต๋เอง บอกเลยว่าเพราะมาก

นอกจากสองเพลงนี้แล้ว ยังมีเพลง “ไม่เป็นไร” ที่ บ.แกรมมี่ฯ เป็นคนแต่ง ร้องโดยฌอห์ณ ก็เพราะไม่แพ้กันด้วย

 

กลับมาที่เนื้อเรื่อง ทั้งหยางมี่และเฉินอันพบกันก็รักกัน จนมีแผนจะแต่งงานกัน แต่แม่ของเฉินอันที่แสดงโดยตุ๊ก ญาณี ไม่ชอบนางเอกของเรา และเผอิญมีเรื่องให้สองคนเข้าใจผิดกันจนเฉินอันบอกเลิกกับหยางมี่ หยางมี่ก็เสียใจและหนีกลับมาบ้านที่เมืองไทย

ตอนเดินทางกลับนี่แหละที่ได้พบกับ “แดนไท” ช่างภาพหนุ่มชาวไทยสายติสต์ แต่เป็นการพบกันแบบที่ต้องทะเลาะและเกิดไม่ชอบหน้ากัน แต่ดูเหมือนพรหมลิขิตจะกลั่นแกล้ง จึงให้สองคนได้โคจรมาร่วมงานกันอีก จึงจำต้องรู้จักใกล้ชิดกัน และแน่นอนที่จะค่อยๆ พัฒนาเป็นความรักในเวลาต่อมา

แต่เรื่องไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะเฉินอันที่ประสบอุบัติเหตุจนความจำหายไป จำได้เลือนๆ ถึงคนรักคือหยางมี่เท่านั้น ได้เดินทางมาตามหาหยางมี่ที่เมืองไทย จึงเกิดเป็นความรักที่ต้องแข่งขัน แย่งชิง และต้องตัดสินใจเลือกของคนสามคน

ตามสโลแกนของละครเลยครับ “จะเซ็ตซีโร่กับคนรักเก่า” หรือ “จะเริ่มต้นกับคนรักใหม่” ดี อันนี้ต้องติดตามครับ

 

“พีค” เคยร่วมงานกับเจ เอส แอลมาแล้วจากละครเรื่อง “เล่ห์รักบุษบา” จึงคุ้นเคยกันดี และนึกภาพออกแต่แรกเลยว่า บทหยางมี่ต้องพีคแสดงเท่านั้น และพีคก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย เธอยอมเล่นแบบไม่ห่วงสวย ไม่ติดภาพนางเอก จึงออกมาน่ารัก น่าตี และกวนโอ๊ยมาก โดยเฉพาะเมื่อเข้าฉากปะทะกันกับฌอห์ณซึ่งจะเห็นได้ตั้งแต่ละครตอนแรก

และเมื่อถึงบทดราม่า โดยเฉพาะในพาร์ตที่เกี่ยวพันกับโต๋ พีคหวานซึ้งได้อย่างประทับใจ และก็ร้องไห้ได้อย่างน่าสงสาร

“โต๋” นั้น แม้จะผ่านการแสดงมาบ้าง แต่ยังไม่เคยได้รับบทนำที่ท้าทายความสามารถเขาเช่นนี้ บท “เฉินอัน” ที่โต๋แสดง สามารถขับให้ผู้ชายที่ดูอบอุ่น จิตใจดี และน่าสงสารจากความรักคนนี้มีความน่าสนใจขึ้นได้อย่างมาก ซึ่งถ้าเล่นไม่ดีบทนี้จะจมไปเลย

แต่คนดูจะได้เห็นเสน่ห์ของโต๋ได้อย่างเต็มที่จากเรื่องนี้ รวมทั้งบทสนุกๆ ยามต้องเชือดเฉือนกับฌอห์ณ โต๋ก็ไม่เป็นรองเลย แถมยังแอบขโมยหัวใจคนดูให้เอาใจช่วยเขาไปด้วย

“ฌอห์ณ” นั้นไม่ต้องพูดถึง ผ่านงานแสดงมาหลายเรื่อง และเขาก็จริงจังและจริงใจกับทุกบทที่เขาได้รับเสมอ กว่าจะรับเล่นเรื่องนี้ฌอห์ณขอคุยกับผู้กำกับฯ หลายเที่ยว เพื่อจูนความคิดกันว่าจะเป็นในทิศทางที่เขาอยากเล่นด้วยหรือเปล่า

และการให้รับบท “ช่างภาพมืออาชีพ” นี้ ก็มาจากทักษะส่วนตัวทางด้านนี้ของฌอห์ณด้วยนั่นเอง

เรื่องนี้จะได้เห็นเขาในบทตลก สนุก มากกว่าเรื่องก่อนๆ ที่ผ่านมา และเขาก็ไม่ทำให้ผู้กำกับฯ ผิดหวัง ความกะล่อน เอาตัวรอด มีเล่ห์เหลี่ยม ผสมความทุ่มเทเพื่อเอาชนะให้ได้ทำให้บท “แดนไท” มีสีสันอย่างมาก

ยิ่งเมื่อต้องแกล้งแสดงว่าเขาเป็นเกย์ด้วยแล้ว คนดูต้องเอ็นดูเขาไม่น้อยเลย

 

นอกจากความสนุกจาก 3 นักแสดงนำแล้ว ส่วนที่สร้างสีสันให้กับเรื่องอย่างมากคือกลุ่มเพื่อนและคนรอบข้างของทั้งสามคน โดยเฉพาะคู่รองอย่าง “ฟรอยด์” และ “ซาร่า” นั้น เรียกว่าออกมาฉากไหนได้หัวเราะทุกครั้ง เป็นอีกหนึ่งเคมีที่เข้ากันอย่างมากและขับให้ละครเรื่องนี้ดูสนุกมากยิ่งขึ้น

และยังมีนักแสดงอื่นๆ อีก ได้แก่ รัศมีแข, จียอน, นาย เดอะคอมเมเดี้ยน, แก้มบุ๋ม ปรียาดา, นุ่น ดารัณ, อรอนงค์ ปัญญาวงศ์, น้องมากิ และนักแสดงสมทบอีกหลายคน กำกับการแสดงโดย “ต่อพงศ์ ตันกำแหง” ซึ่งกำกับฯ เรื่อง “เล่ห์รักบุษบา” มาก่อน ซึ่งเขาภูมิใจกับละครเรื่องนี้มาก และได้ร่วมทำคลอดตั้งแต่พัฒนาโครงเรื่อง ควบคุมบท และกำกับการแสดง ที่เปิดโอกาสให้เหล่านักแสดงได้ร่วมเสนอการแสดงที่แต่ละคนออกแบบไว้ด้วยเพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับละคร

โชคดีที่ละครเรื่องนี้ปิดกล้องไปก่อนที่จะมีโควิดระบาด เพราะมีการยกกองไปถ่ายทำต่างประเทศถึงสองแห่งคือที่ประเทศไต้หวัน และเมืองชัยปุระ หรือไจปอร์ ประเทศอินเดีย จึงได้โลเกชั่นสวยๆ แปลกตามาฝากผู้ชมในสองรสชาติอีกด้วย

ติดตามชมได้ทุกวันจันทร์และอังคาร เวลา 21.30 น. ทาง pptv ช่อง 36 และดูทางออนไลน์ได้ทาง WeTV เท่านั้น

หวังว่า ละคร “หว่ออ้ายหนี่ เธอที่รัก” จะช่วยทำให้ผู้ชมได้ผ่อนคลายจากบรรยากาศความตึงเครียดของโควิด-19 ลงได้บ้าง ฝากช่วยติดตามชมผลงานละครจากค่ายเจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย เรื่องนี้กันด้วยนะครับ