ศิลา โคมฉาย : ในเงาเมฆ

คอลัมน์แตกกอ-ต่อยอด

สิ่งที่ผุดวาบขึ้นมาในความรู้สึก นึก คิด คืออยากออกเดินทาง

แม้บนฟ้าจะครึ้มทึมด้วยเงาเมฆ ฝนกลางฤดูกำลังกระหน่ำไม่เว้นวัน ถนนหนทางเจิ่งนองด้วยน้ำ ที่ไหนๆ ก็คงขลุกขลัก แฉะชื้น ไร้ความสะดวกสบาย

แต่การออกไปเห็นป่าเขียวทึบอิ่มฝน น้ำท่าปริ่มลำห้วยระเริงไหล ผืนไร่ถูกพลิกฟื้นพืชพันธุ์อุดม แตกกอชูช่อใบสะพรั่ง น่าจะได้พักจากแรงวิตกที่ค่อยเพิ่มแรงกดดัน เงียบและลึก

ในเครือข่ายออนไลน์ กลุ่มเพื่อนเก่าวัยเรียน หนักกิจกรรมแบบถึงเลือดเนื้อ แม้จะผ่านไปถึงประตูความชรา นอกจากจะส่งข่าวบอกกล่าวสถานะส่วนตัว นัดแนะพบปะวิสาสะ แบ่งปันความรู้ทางสุขภาพ หาเรื่องภาพบันเทิงเริงใจ เพื่อผ่อนคลาย

แต่ประสาพวกนิยมสาระแต่ไหนแต่ไร ทั้งเป็นชาวเมืองชั้นมหานคร อดไม่ได้ที่จะสอดแทรกเรื่องหนักๆ เครียดๆ มากระตุ้นความตื่นตัวให้ตระหนักคิด คอยระมัดระวัง ตระเตรียมรับมือกันในทุกระดับ

เขาว่าผ่านช่วงเฉลิมพระชนมพรรษา นักโทษราว 38,000 คนจะถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำให้รับอิสรภาพ ตามสิทธิ์ ออกมาพร้อมเสียงเตือนของผู้คุม

คนพวกนี้ส่วนข้างมาก ต้องโทษคดียาเสพติด ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ปล้นทรัพย์ มีโอกาสก่อเหตุซ้ำสูงมาก วนเวียนเข้าออกคุกอยู่จำนวนไม่น้อย

พวกเขาออกจากคุกมาในขณะเศรษฐกิจย่ำแย่หนัก พืชผลทางการเกษตรตกต่ำอย่างน่ากลัว จากสวนยางถึงไร่สับปะรด กำลังซื้อหดหายไปจากข้างถนนลามเลยถึงบนห้าง เงินทองหายากมากขึ้น หนี้สินครัวเรือนสูงลิบจนอาจพากันล้มคว่ำคะมำหงาย แบบเทถ้วยต้มยำ

ทั้งเป็นช่วงเดินหน้าปฏิรูปตำรวจ ที่อาจเกิดผลกระทบ เงื่อนไขเอื้อต่อการเกิดอาชญากรรม

ผู้คุมนักโทษจึงร้องเตือนให้ดูแลตัวเองเป็นสำคัญ ตื่นตัว ระมัดระวัง ไม่พาตัวเองไปอยู่ในภาวะเสี่ยง ช่างสังเกต ขี้สงสัย ไม่ทำตัวเป็นพ่อพระแม่พระ เพราะคนพวกนี้ไม่มีศีลธรรม

ข่าวคราวกระชากใจชักพาให้เสาะหาพื้นที่โล่ง กว้าง และสงบ

 

ผมคิดและเข้าใจแบบเอาตัวเองเป็นตัวตั้ง ไม่มีข้อมูลใดยืนยัน คือเชื่อเอาว่าชาวเมืองพวกที่ชื่นชอบการเดินทาง ออกไปสัมผัสธรรมชาติในที่โล่งแจ้ง แบบไม่เลือกฤดูกาล เทศกาล ขอแค่มีโอกาสเหมาะ

น่าจะเคยเป็นคนต่างจังหวัด

แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่า ชาวกรุงโดยกำเนิดก็รู้สึกเช่นนี้ได้

ภารกิจ วิถีชีวิตสมัยใหม่อยู่กับความกดดันเกือบตลอดเวลา ไม่อาจเป็นตัวของตัวเอง แปลกแยก อับจน ขั้นกระหายโหยย้อนไปสัมผัสสิ่งที่เป็นความคุ้นเคย และบางอย่างอาจควบคุมได้ดั่งใจ

บ่อยครั้งในพักหลัง เมื่อชมภาพยนตร์คาวบอยเก่าๆ เนื้อหาแสนธรรมดา เชยๆ ทื่อๆ แบบโบราณ ทำนองธรรมะชนะอธรรม ไม่ใช่ความเป็นวีรบุรุษลูกผู้ชาย กับข้อคิดพื้นๆ อย่างที่ยอดมือปืนพเนจร “เชน” พูดกับเด็กชายชาวไร่ ผู้ปรารถนายึดเอาเขาเป็นต้นแบบ

“ชีวิตที่มีแต่การฆ่าฟัน ไม่สนุกหรอก จะถูกหรือผิดมันจะติดตัวตลอดไป…”

แต่สิ่งที่ยังคงดึงดูดใจ และเร้าความรู้สึกให้ชื่นชอบ ชื่นชมหนังคาวบอย คือสภาพชีวิตดิบๆ สุกๆ ขรุขระ กลางแจ้งใต้โค้งฟ้าครามผืนใหญ่เต็มตา แนวเทือกทิวเขาสูงชันเหยียดยาว ฉาบย้อมด้วยสีสันหลากหลายกลมกลืน จากใบไม้ ผืนดิน ผาหิน สายลมพัดไกวทุ่งหญ้า ก่อแนวระเนนกว้างไกล ธารน้ำสะอาดใสสะท้อนระยิบแดด ทอดตัววาดโค้งล่องรินไหล

เป็นช่วงขณะที่อิ่มเอม แต่เมื่อมีบางคำถามแอบผุดขึ้น ผมก็เกิดความไม่แน่ใจ

ธรรมชาติให้ความสุขกับเรา หรือเราแสวงหาความสุขจากมันได้ละหรือ?

ความสุขขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศ สิ่งแวดล้อม หรือเกิดมาจากภายในจิตใจเราเอง?

 

ผมชมชอบการเดินทาง แม้จะเป็นทางสายเดิมซ้ำๆ ไม่เคยรู้สึกซ้ำซาก เชื่อมั่นว่ามีสิ่งใหม่เกิดขึ้นทุกคราวที่ผ่านไป สภาพแวดล้อมเปลี่ยนตามฤดูกาล สีของผืนไร่ขณะช่วงเตรียมหน้าดิน ยามพืชพันธุ์ผลิงาม วันเวลาอาบสีทองในยามเก็บเกี่ยว

ซังหญ้าแห้งช่วงแล้งโหย กระทั่งหมู่เมฆที่ก่อรูป ไม่มีวันเหมือนเดิม

หลายๆ ครั้ง ผมพยายามค้นหาคำตอบ ต่อความรู้สึกโหยกระหายธรรมชาติ กับสภาพที่ตัวเป็นคนเมืองชนิดกลายพันธุ์ แน่นอนว่าชีวิตกลางแจ้ง ในทุ่งหญ้า ป่า เขา เป็นความคุ้นเคย แนบชิด กระตุ้น ยั่วเย้าให้ต้องควานมือไปเปิดคลังความทรงจำ

ปลดปล่อยประสบการณ์พรั่งพรู

สิ่งหนึ่งที่ค้นพบ คือสภาพตามธรรมชาติ มักให้จินตภาพกับคนเรามานาน ภาพที่เห็นด้วยตาถูกนำไปเทียบกับคน สัตว์ สิ่งของ แล้วตั้งชื่อเรียกขาน สร้างตำนาน วาดนิทานประกอบเป็นเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ผาหิน เนินดิน แม่น้ำ

ระดับลึกลงไปในความรู้สึก มันมีอิทธิพลต่อจิตใจ โน้มน้าวให้รู้สึกเศร้า หม่นหมองเมื่อฝนโปรย และสดใสเมื่อแดดจ้า ตัวตนถูกบีบหดเล็ก เมื่อโดดเดี่ยวในทุ่งโล่งสุดลูกหูลูกตา

หรือจินตนาการต่อการดำเนินชีวิต อยู่กิน เรียนรู้ ภายใต้การโอบอุ้มของธรรมชาติ โดยเฉพาะในวัยเยาว์ ช่วยวาดหวังและสร้างภาพฝันแฝงฝังอยู่ในตัวตน

บนสายทางอันยาวนาน เราถูกต้อนให้เดินไปสู่ความจริงของชีวิต นับวันจะแห้งแล้ง กระทั่งเหี้ยมเกรียมจนน่ากลัว จินตนาการพอช่วยประพรมความชุ่มชื่น เติมแต่งสีสัน ให้รสชาติอันจำเป็น

สิ่งนี้อาจไม่ใช่ความสุข หากเป็นพลัง

การได้เดินทางใต้เงาเมฆกลางฤดูฝน น่าจะทำให้ผมสงบลง นิ่งและพร้อมกับทุกภาวการณ์มากขึ้น