โค้งสุดท้ายโผ 157 นายพล ‘สำราญ’ จ่อ น.1 ‘วิระชัย’ รอง ผบ.ตร. นรต. 41 ยึดเก้าอี้หลัก/โล่เงิน

โล่เงิน

 

โค้งสุดท้ายโผ 157 นายพล

‘สำราญ’ จ่อ น.1

‘วิระชัย’ รอง ผบ.ตร.

นรต. 41 ยึดเก้าอี้หลัก

 

ตั๋วทะลักหน้าตัก ‘บิ๊กปั๊ด’ ยันเสร็จทัน ส.ค.

เวลานี้สำนักปทุมวันค่อนข้างฝุ่นตลบ เพราะเป็นโค้งสุดท้ายก่อนส่งบัญชีรายชื่อนายพลสีกากี เข้าที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 9/2564 เพื่อแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถึงผู้บังคับการ (ผบก.) วาระประจำปี 2564 จะมีขึ้นปลายเดือนสิงหาคม โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณารายชื่อผู้เหมาะสม

ปีนี้ “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้จัดทัพนายพลเป็นปีแรก หลังก้าวมาเป็นแม่ทัพสีกากีตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว

ตามธรรมเนียมบรรดาตั๋วผู้มีอำนาจ ตั๋วนักการเมือง ที่หวังจับจองเก้าอี้สำคัญ ถูกส่งมาให้ “บิ๊กปั๊ด” จนทะลักเต็มหน้าตัก

เป็นโจทย์หินที่เจ้าตัวต้องจัดสรรตำแหน่งให้สอดคล้องกับแผนภาพองค์กรอีก 5 ปีข้างหน้าว่า ‘ตำรวจ’ จะเปลี่ยนอย่างไร? ตามที่ ผบ.ตร. ชวน ผบก. ถึง ผบช. มาระดมสมองอยากเห็นตำรวจองค์กรนี้มีหน้าตาแบบไหน จะเดินไปที่จุดนั้นได้อย่างไร เป็นแนวคิดที่ “พิทักษ์ 1” หวังจะทำเพื่อองค์กรตำรวจกับเวลาที่เหลืออีกปีเศษ

5 สิงหาคม 2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ประชุมให้ข้อมูลประกอบการคัดเลือกผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ระดับ ผบก.-ผบช.เพื่อใช้ประกอบการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. วาระประจำปี 2564

พร้อมเผยว่า เป็นการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้บัญชาการทุกหน่วย ว่าในการแต่งตั้ง ผบก.-รอง ผบ.ตร. วาระ 2564 มีขั้นตอนดำเนินการอย่างไรบ้าง รวมถึงถามความเห็นของผู้บังคับบัญชาทุกระดับ

ได้ข้อสรุปว่าให้ทางหน่วยระดับกองบัญชาการ ยืนยันบัญชีผู้ที่เหมาะสมซึ่งเป็นไปตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้ง แต่ส่วนที่นอกเหนือจากระเบียบคือให้ผู้บังคับบัญชาส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการพิจารณาตัวบุคคล เพื่อให้ทราบว่าการที่จะแต่งตั้งใคร บุคคลนั้นมีคุณสมบัติครบถ้วนถูกต้องหรือไม่

ทั้งนี้เชื่อว่าการแต่งตั้ง ผบก.-รอง ผบ.ตร. วาระ 2564 จะเสร็จสิ้นตามกรอบเดือนสิงหาคม

 

สําหรับการแต่งครั้งนี้ มีตำแหน่งว่างระดับรอง ผบ.ตร.ว่าง 2 ตำแหน่ง ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.ว่าง 9 ตำแหน่ง ระดับ ผบช.ว่าง 20 ตำแหน่ง ระดับรอง ผบช. ว่าง 42 ตำแหน่ง และ ผบก.ว่าง 84 ตำแหน่ง

ดังนั้น ในการแต่งตั้งนายพลวาระประจำปีนี้จะมีตำแหน่งว่างทั้งสิ้น 157 ตำแหน่ง รวมการแต่งตั้งโยกสลับระนาบเดียวกัน จะมีการแต่งตั้งโยกย้ายกว่า 200 ตำแหน่ง

ระดับรอง ผบ.ตร. คาดว่ามีการเสนอชื่อ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. นรต.40 คนสนิท “บิ๊กปั๊ด” และ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. บุตรชาย พล.ต.อ.เภา สารสิน อดีตอธิบดีกรมตำรวจ

ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. คาดว่ามีการเสนอชื่อ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. นรต.40, พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7 นรต.42 อดีตนายเวร พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร., พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผบช.สงป. นรต.37, พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. นรต.38, พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 นรต.39 สายตรง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์, พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ จตร. นรต.38, พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบช.ภ.8 นรต.41 นายตำรวจคนสนิท ผบ.ตร.

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 นรต.41 และนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 25 เพื่อนร่วมรุ่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก.

 

ส่วนระดับ ผบช. โฟกัสไปที่ “เก้าอี้แม่ทัพเมืองหลวง” เนื่องจาก พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เกษียณอายุราชการ เดิมมีชื่อ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จเรตำรวจ (สบ8) ปฏิบัติราชการ บช.น. นรต.38 และนักเรียนเตรียมทหาร 22 เพื่อนร่วมรุ่น “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. เป็นตัวเต็ง แต่โค้งสุดท้ายโผพลิก ผู้มีอำนาจสั่งเคาะ พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น. นรต.50 นายพลหนุ่มที่ยังเหลืออายุราชการอีก 12 ปี นั่งเก้าอี้ น.1 ขยับ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ไปนั่งเก้าอี้ ผบช.ปส.แทน

ด้านตำแหน่ง ผบช.อื่นๆ คาดว่ามีการเสนอชื่อ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. นรต.40 สายตรงบิ๊กปั๊ด เป็น ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 นรต.41 อดีตหัวหน้าสำนักงาน พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย อดีตรอง ผบ.ตร. เลื่อนเป็น ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเสรณี รอง ผบช.ภ.5 นรต.41 เลื่อนเป็น ผบช.ภ.5, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. นรต.41 เป็น ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.ภ.7 นรต.41 เลื่อนเป็น ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8 นรต.38 เลื่อนเป็น ผบช.ภ.8, พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จตร. (สบ8) นรต.43 คนสนิท พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. เป็น ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. นรต.38 ผลงานโฆษก บช.น. เข้าตารัฐบาล เลื่อนเป็น ผบช.ทท., พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. นรต.50 เลื่อนเป็น ผบช.ก.

ขณะที่ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 นรต.38 พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 นรต.39 พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. นรต.41 ข่าวว่าอยู่ที่เดิม

 

นอกจากนี้ ยังมีเก้าอี้ที่หลายคนจับตามอง

อย่าง พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ซึ่งศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้คัมแบ๊กกรมปทุมวัน ซึ่งที่ประชุม ก.ต.ช. ครั้งที่ 5/2464 ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ไฟเขียวเปิดเก้าอี้ รอง ผบ.ตร. (เฉพาะตัว) 1 ตำแหน่ง ส่วนใครจะได้นั่งเก้าอี้นี้ ยังไม่มีใครกล้าฟันธง แต่ที่แน่ชัด ตำแหน่งที่เคยเป็นของบิ๊กต้อย ขณะนี้เป็นของ พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร. คงต้องรอจับตาว่าท้ายที่สุดเรื่องนี้จะลงตัวอย่างไร

นายพลดาวรุ่งอีกราย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ 9) ตร. ที่ก่อนหน้ามีคาดการณ์ว่าจะสไลด์มานั่งเก้าอี้หลัก “ผู้ช่วย ผบ.ตร.” ในวาระนี้ จู่ๆ ส่งเรื่องให้ที่ประชุม ก.ตร. ยกเลิกเงื่อนไขการกำหนดตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ9) ตามมติ ก.ตร.ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2564 ต่อมาที่ประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2564 ชี้ชัดว่า ตำแหน่งของบิ๊กโจ๊ก สามารถและมีโอกาสในการเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งใดๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ ไม่ได้เป็นการปิดกั้นหรือเสียสิทธิใดๆ ทั้งสิ้น

โดยคาดว่าบิ๊กโจ๊กน่าจะนั่งที่ปรึกษา (สบ9) ไปอีก 1 ปี เพื่อรอขยับขึ้นรอง ผบ.ตร.ปีหน้า

โผแต่งตั้งนายพลยุคบิ๊กปั๊ด จะต้านทานตัวแปรนอกรั้วปทุมวันได้มากน้อยแค่ไหน รอลุ้นอีกไม่กี่อึดใจ