เมื่อพูดถึงกีตาร์ ใครๆ ก็ทราบดีว่าเครื่องดนตรีนี้มี 6 สาย สำหรับคนที่เล่นกีตาร์ เวลาสายขาดสักสาย การเล่นจะเริ่มติดขัด ถ้าขาดอีกเป็นสอง สาม สาย จะเริ่มเล่นไม่ได้ ด้วยอรรถรสที่หายไป และสัมผัสมือที่ไม่คุ้นชิน แต่สำหรับน้า Brushy One String หรือ Andrew Chin ศิลปินจากจาไมก้าคนนี้ เขาใช้กีตาร์ที่มีเพียงสายเดียว กับนำพาเขามาเป็นศิลปินระดับโลกได้  เพียงเหยาะจิตวิญญาณเต็มล้านลงไปด้วย

คุณพ่อของ Brushy เป็นศิลปินเรกเก้ของจาไมก้า ที่เสียชีวิตไปตั้งแต่เขาเด็กๆ เนื่องจากกำพร้าพ่อแต่เด็ก ชีวิตของเขาไม่ได้สุขสบายนัก ส่วนคุณแม่เป็นนักร้องแบ็คอัพชั้นนำ ที่คอยร้องเพลงขับกล่อมจิตใจเขาเรื่อยมา การดิ้นรนที่จะมีชีวิตอยู่ ผสมกับดนตรีและเสียงเพลง เป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนชีวิตของเขาให้สู้โลกใบนี้ต่อไปอย่างมีจังหวะในหัวใจ

ตั้งแต่เด็กๆ Brushy นอกจากชอบร้องเพลงแล้ว เขาได้ลองหัดเล่นเครื่องดนตรีหลายชนิดด้วยตัวเอง รวมทั้งกีตาร์ด้วย ทว่าเขาเป็นคนที่เล่นแรงมากๆ (สามารถรับรู้ได้จากการชมเขาเล่นสายเดี่ยวในปัจจุบัน) และไม่มีครูคอยแนะนำอย่างถูกต้อง ทำให้เขากระหน่ำไปตามอารมณ์ จนกีตาร์สายขาดไปหมด เหลืออยู่เพียงสายบนเส้นเดียว เล่นได้แต่เสียงเบส ตีคอร์ดไม่ได้ โซโล่ก็ไม่ครบ จนท้ายที่สุดกีตาร์ตัวนั้นก็ถูกดันเข้าไปดองไว้ใต้เตียง

ความมหัศจรรย์เกิดขึ้นในคืนหนึ่ง มีอะไรสักอย่างมาบอกเขาในฝัน ให้ลองมาเล่นกีตาร์สายเดียวแบบจริงจังดูสิ เช้าวันรุ่งขึ้น Brushy ตื่นขึ้นมาพร้อมความตั้งใจใหม่ หยิบกีตาร์สายเดียวของเขาออกมา แล้วเริ่มเรียบเรียงเพลง ที่ใช้เจ้าสายเดี่ยวนี้เล่น จากนั้นเขาสวมหมวกปีกใบเก่ง แล้วมุ่งสู่ตลาดชานเมืองจาไมก้า เพื่อนำเสนอผลงานให้คนผ่านไปมาฟังทันที

สไตล์การเล่นของ Brushy One-String ไม่เหมือนใคร เพราะไม่มีใครเคยเอากีตาร์สายเดียวมาเล่นจริงจัง เขาใช้กีตาร์ที่ดูคล้ายจะพังตัวหนึ่ง มาเล่นเคาะจังหวะให้เป็นทั้งเพอร์คัสชั่น และเล่นสายเขสสำดนียงบลูส์ ผสมความเป็น ฮิปฮอป กับ เรกเก้ เข้าไปอย่างมีจังหวะจะโคน เคล้าเสียงร้องลุ่มลึกอบอุ่นของเขา ทำให้ก่อเกิดความอร่อยในอรรถรสแห่งเสียง ที่ไม่เคยมีใครได้ชิมแบบนี้ที่ไหนมาก่อน

โดยเพลงที่เขานำเสนอ เป็นเรื่องราวที่เขาพบเจอมากับตัวเอง กลั่นกรองมาเป็นเนื้อเพลงไม่ซับซ่อน แต่ซ่อนไว้ด้วยจิตวิญญาณและพลังชีวิตของเขาเอง

ช่วงแรกความแปลกแหวกแนวที่น่าฟังของเพลงและกีตาร์สายเดียว ทำให้เขาเริ่มมีทบาทในวงการดนตรีบ้าง จนได้ไปทัวร์แสดงในหลายๆ ที่ แต่ก็ไม่มีอะไรหวือหวาในสเกลใหญ่ๆ ในที่สุดเขาก็กลับมาเล่นเจ้ากีตาร์สายเดี่ยวแบบเหงาๆ ที่นี่านเมืองจาไมก้าเหมือนเดิม

วันหนึ่งมีผู้กำกับสารคดีระดับรางวัลจากสหรัฐอเมริกา บินมาติดตามการดิ้นรนและชีวิตศิลปินเรกเก้ดาวรุ่งของจาไมก้า ซึ่งศิลปินทั้งหมดไม่ได้มีน้า Brushy ในนั้น เพราะไม่มีใครรู้ว่าเขามีตัวตน และการติดตามศิลปินที่ว่า ก็ตามมาแล้วถึง 5 ปี จนจะจบสารคดีแล้ว

ณ หน้าสตูดิโอย่านชานเมืองจาไมก้า Brushy มานั่งรอผู้กำกับสารคดี พร้อมชวนให้ลองฟังเขาเล่นดูหน่อย ว่าแล้วก็เล่นเพลงเก่ง Chicken in the Corn ของเขาทันที วีดีโอการเล่น ได้ถูกบันทึกไว้ และคณะถ่ายทำสารคดีก็เดินทางกลับอเมริกาไป และในที่สุดการแสดงสั้นๆ นั้นก็ถูกบรรจุไว้ในสารคดี Rise Up นี้ด้วย

จากนั้นผู้กำกับสารคดีคนเดิม ก็ตระหนักว่านักดนตรีแถมในสารคดีที่เขาทำ แท้ที่จริงช่างน่าสนใจอย่างมาก เลยกลับมาจาไมก้าอีกหน เพื่อถ่ายทำเกี่ยวกับ Brushy One-String ล้วนๆ และจากจุดนี้ ทำให้ศิลปินสายเดี่ยวของเรา ได้แจ้งเกิดในระดับโลกอย่างจริงจัง ได้ขึ้นแสดงในเทศกาลดนตรีบลูส์ระดับโลก มีผลงานเป็นอัลบั้มออกมาเรื่อยๆ และมีผู้คนชื่นชอบ ติดใจเพลงของเขา จนกลายเป็น meme สุดฮิตไปในระยะหนึ่ง พร้อมจอดวิว 50 ล้านใน YouTube ด้วย

จากคนยากจนที่ขาดโอกาสหนึ่ง ล่าสุดข้อมูลรายได้สุทธิของเขา แจ้งว่าสูงถึงระดับเกินล้านเหรียญสหรัฐแล้ว ทำให้เห็นว่าถ้าเจ๋งจริง กีตาร์สายเดียว ก็พาไปถึงดวงดาวได้ โดยไม่ต้องหล่อเหลา แค่เขาคนนั้นมีฝีมือที่ไม่ซ้ำใคร กับความมุ่งมั่นที่จะหาโอกาสมาให้ตัวเอง ก็พาความสำเร็จเข้ามาสู่ชีวิตได้ครับ ลองไปฟังเพลงแจ้งเกิดขอบเขา Chicken in the Corn ดูครับ นอกจากจะน่าฟังแล้ว ยังทำให้ทึ่งว่าเขาคิดเพลงนี้ได้อย่างไรกัน ไม่ธรรมดาจริงๆ