หลังเลนส์ในดงลึก/”เมื่อวาน”

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ

หลังเลนส์ในดงลึก/ปริญญากร วรวรรณ

“เมื่อวาน”

หากเทียบ “วันนี้” กับ “เมื่อวาน”

โดยนึกถึงเพียงเรื่องการใช้เวลาอยู่ในซุ้มบังไพร พูดได้ว่า ชีวิตผมดีขึ้นมาก

ถึงวันนี้ ผมมีซุ้มบังไพรอันมิดชิด ปิดทุกด้าน มีแค่ช่องเล็กๆ ที่ให้ปลายเลนส์โผล่ออกมา กันฝนและความเปียกชื้นได้ในระดับหนึ่ง ที่สำคัญสุดคือ กันยุงและแมลงต่างๆ ได้ด้วย

สิ่งซึ่งช่วยให้ชีวิตในซุ้มบังไพรดียิ่งขึ้น เป็นเก้าอี้แบบนั่งสบาย น้ำหนักเบา ใส่เป้กลับแคมป์ ไว้นั่งกินข้าว หรือข้างกองไฟได้อีก

ในฤดูฝน อุปสรรคใหญ่ของผมในการนั่งอยู่ในซุ้มบังไพรวันละกว่า 10 ชั่วโมง คือยุง

เมื่อแก้ปัญหาโดยออกแบบสั่งตัดซุ้มบังไพรให้มิดชิด ความยุ่งยากก็หายไป

กระนั้นก็เถอะ สิ่งที่ผมไม่สามารถแก้ไขได้เลย คือเรื่องกลิ่นกาย

ไม่ว่าจะปิดมิดชิดอย่างไร สัตว์ป่าก็สัมผัสได้

การเลือกทำเลตั้งซุ้มบังไพร ดูทิศทางลมอย่างละเอียด จำเป็น แต่ในป่า โอกาสที่กระแสลมจะพัดไป-มา ทางโน้นทางนี้ เกิดขึ้นไม่ยาก

เรื่องกลิ่นกายสำคัญ แม้การเดินบนด่านนั้น ก็มีกลิ่นเราติดอยู่ให้สัตว์ป่าสัมผัสได้แล้ว

ผมใช้หลายวิธีเพื่อลดกลิ่น เอาขี้ช้าง ขี้กระทิง มาโรยๆ เอาผสมน้ำเทราดรอบๆ เดินอ้อมไกลๆ เพื่อมาซุ้ม ไม่เดินตามด่านที่สัตว์ใช้ ต่างๆ เหล่านี้เป็นวิธีอันได้ผลบ้าง

วันไหนโชคดี กระแสลมเป็นใจ วันนั้นมีโอกาสได้พบสัตว์และได้งานดีๆ

นอกจาก “โชค”

สิ่งที่ควรทำคือ ไม่ประเมินความสามารถของเหล่าสัตว์ป่าที่อยู่ในป่าแบบพึ่งพา ช่วยเหลือกัน ต่ำเกิน

“วันนี้” ขณะนั่งสบายๆ มองรอบๆ ซุ้มบังไพรที่ใช้

เป็นเช่นนี้ได้ เพราะวันเวลาของเมื่อวาน

สําหรับผม ภาพสัตว์ป่า โดยส่วนใหญ่ได้มาจากการเฝ้ารอริมสถานที่อันเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่า เช่น โป่ง บึงน้ำ ต้นไทร หรือตามด่านที่สัตว์ป่าใช้เดิน

แถวๆ โป่ง มีโอกาสมาก เพราะมีน้ำและแร่ธาตุที่สัตว์กินพืชจำเป็นต้องมากิน

ในระยะแรก ผมทำซุ้มแบบคนล่าสัตว์ใช้ แค่หากิ่งไม้มาบังๆ

ต่อมามีผ้ายางลายพราง และเอาใบไม้กิ่งไม้ปิดทับ

วิธีนี้ได้ผลบ้าง แม้ว่าต้องนั่งอย่างระวังมาก กวาดใบไม้ที่พื้นให้โล่ง เวลาขยับตัวจะได้ไม่เกิดเสียง

นอกจากสายตาที่คอยดูว่ามีตัวอะไรโผล่เข้ามาในโป่งแล้ว หูยังต้องคอยฟังเสียงแกรกกราก ซึ่งเกิดจากการเลื้อยของสัตว์เลื้อยคลาน

หลายครั้ง เจ้าของเสียงเป็นงูพิษ

โดยปกติ เมื่อเข้ามาใกล้ได้กลิ่น พวกมันมักหันหัวเปลี่ยนทิศทาง

โป่งคือแหล่งที่สัตว์ป่าต้องพึ่งพาก็จริง แต่โอกาสที่พวกมันจะห่างไปนานๆ ก็เกิดขึ้นบ่อยๆ อาจเพราะระแวง รวมทั้งกิจวัตรของสัตว์ป่าที่จะเดินหากินเป็นวงรอบ ระยะเวลาในรอบๆ หนึ่งนานพอสมควร

การเฝ้ารอ จำเป็น

รอโดยกิจวัตรประจำวันซ้ำๆ

ทุกวัน ผมเริ่มต้นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง นาฬิกาบอกเวลาตีสี่ครึ่ง เสียงกุกกักจากเพื่อนร่วมทาง ที่คราวนั้นเป็นคนงานจากหน่วยพิทักษ์ป่า ชื่อ ถวัลย์ ดังขึ้น

เขาขยับฟืน เป่าท่อนฟืนที่ยังติดไฟอยู่ ให้เปลวไฟติดขึ้น ต้มน้ำ

ผมงัวเงียเดินไปลำห้วย วักน้ำล้างหน้า

น้ำเดือด ผมจัดกระเป๋ากล้องเสร็จ ถวัลย์ปิ้งกุนเชียงส่งกลิ่นหอม เขาคดข้าวจากหม้อสนามที่หุงไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ใส่กล่อง หักกุนเชียงเป็นสองท่อนวางบนข้าว ท่อนหนึ่งผมจะกินเป็นอาหารเช้า อีกท่อนสำหรับตอนเที่ยง

ผมชงกาแฟใส่กระติก และบรรจุกระติกกับกล่องข้าวไว้ในช่องหน้าของเป้

“เจอกันตอนเย็นนะ”

“โชคดีพี่”

เป็นคำสนทนาระหว่างเราเช้าวันนี้

จากแคมป์ ผมต้องเดินอีกราว 50 นาที จะถึงซุ้มบังไพรริมโป่ง

ข้ามลำห้วยสายเล็ก ข้างแคมป์ผมเดินลัดเลาะไปตามทางคดเคี้ยว รอยช้างที่เดินมาล่วงหน้า ช่วยให้ทางเดินะสดวก

ฟ้าเริ่มสว่าง ขากางเกงเปียกชุ่ม

ผมหยุดหลายครั้ง เพราะเสียงสวบสาบจากการวิ่งของเก้ง ที่จมูกรับกลิ่นได้ดี

ด่านที่ช้างเดินพาผมถึงลำห้วยเล็กๆ อีก ผมลุยข้าม รู้สึกได้ถึงความเย็นของน้ำ

ท่ามกลางแสงสลัว ผมเห็นรอยตีนกระทิงประทับอยู่ริมฝั่ง รอยใหม่ๆ เจ้าของรอยตีนเพิ่งเดินผ่านไป ผมหวังว่ามันคงยังอยู่ในโป่ง

ขึ้นจากลำห้วย ผมเดินตามรอยกระทิง รอยมันแยกไปทางขวา ขณะผมต้องเลี้ยวไปทางซ้าย

อีกราวๆ 500 เมตรจะถึงซุ้ม ผมหยุดฟังเสียงรอบๆ

เริ่มต้นเดินอีกครั้ง คราวนี้คงเรียกได้ว่า ค่อยๆ ย่องไปช้าๆ ในใจคาดหวังว่า มีกระทิง หรือวัวแดงสักฝูง ยังอ้อยอิ่งอยู่ในโป่ง

ผมหยุดจุดไฟแช็ก ทดสอบกระแสลม

ลมพัดจากทิศที่ซุ้มบังไพรตั้งอยู่ ทำให้เบาใจได้ว่า ถ้ามีสัตว์อยู่ในโป่ง พวกมันจะไม่ได้กลิ่นและเตลิดหนีไป

ทรุดตัวลงนั่งฟังเสียง เมื่อถึงซุ้ม ปลดเป้หลัง ค่อยๆ แหวกช่องประตูซุ้มมองพื้นรอบๆ อาจเพราะเคยชิน ครั้งหนึ่งผมรีบมุดเข้าไปโดยไม่ดู มีงูเหลือมตัวหนึ่งนอนขดอย่างสบาย

ผมเข้าซุ้มวางเป้ข้างๆ ค่อยเปิดซิป มือหนึ่งแหวกช่องดูภายนอก บริเวณโป่งว่างเปล่า ไม่มีสิ่งมีชีวิตอย่างที่หวัง

ตั้งขาตั้ง ประกอบเลนส์ 400 มิลลิเมตร

ปรับระยะชัด เช้าๆ เช่นนี้ ช่องมองภาพและเลนส์มักเป็นฝ้า ผมดึงผ้าผันคอขึ้นปิดจมูกและปาก

หลายครั้งผมพบปัญหาลมหายใจตัวเองไปกระทบช่องมองเป็นฝ้า มันไม่ควรเกิดขึ้นขณะมีสัตว์ป่าอยู่เบิ้องหน้า

หยิบกระติกกาแฟและกล่องข้าวออกมาวาง เปิดกระเป๋ากล้อง เสียงรูดซิปคือเสียงแปลกปลอมที่สัตว์ป่าไม่วางใจ

ถึงเวลาเริ่มต้นการรอ

ฟ้าสว่าง แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านยอดไม้ ป่ามีชีวิตชีวา ฝูงนกเขาเปล้า นกหกเล็กปากแดง นกแขกเต้า เดินทางมาถึง พวกมันมาเป็นกลุ่มๆ ลงกินน้ำ บินวนเวียน บินขึ้นลงพร้อมๆ กัน

หากมีเงาเหยี่ยวโผล่มา ยามจะส่งเสียง ทั้งฝูงจะบินขึ้นดัง “พรึบ”

แสงเช้า อ่อนนุ่ม ดงหญ้าย้อนแสงเป็นเงา

ผมปรับระยะชัดไว้ตรงเงาสวยๆ นั่น

จะสวยงามแค่ไหน ถ้าเสือสักตัวอยู่ตรงนั้น

ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูง เงาสวยๆ หายไป เสียงชะนีโหยหวนพร้อมเสียง “ฟอด! ฟอด!” จากกระรอก

โป่งว่างเปล่า

“กระทิง วัวแดง กวาง เก้ง หมู หรืออะไรก็ได้” ผมคิดในใจ

ทุกวันเป็นเช่นนี้ ผมเริ่มจากคิดถึงสัตว์หายาก อยากพบมากก่อน ขนาดหรือความหายากของสัตว์จะลดลงไปเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผ่านพ้นไป

“พรึบ” เสียงนกบินขึ้น อาจมีเหยี่ยวบินมา ผมไม่ถ่ายนกมากนัก เพราะหากทำพวกมันตื่น สัตว์อื่นๆ จะรู้ว่าแถวนี้ไม่ปลอดภัย

ผ่านไปครึ่งวัน ไม่มีอะไรโผล่มาให้เห็นอีก แสงแดดจัดจ้า

ร้อนเกินไป สัตว์คงออกมาอีกครั้งช่วงบ่ายๆ

ผมกินข้าวกับกุนเชียงที่เหลือครึ่งท่อน เก็บเศษข้าวที่หล่นใส่กล่อง ไม่อย่างนั้นกองทัพมดจะบุก

แสงแดดยามบ่ายอ่อนลง ถ้ามีกระทิงหรือวัวแดงอยู่ใกล้ๆ พวกมันจะออกมาช่วงเวลานี้

ผมมีความหวัง แต่อีกนั่นแหละในช่วงฤดูฝน อาหารมีมาก ไผ่ หน่อไม้ ใบไม้ บนเขามียอดไม้อ่อนๆ ตัวเมียอาวุโสที่นำฝูงอาจพาลูกฝูงขึ้นไป

อีกสักชั่วโมงฟ้าจะมืด จากทางขวามือ มีเสียงย่ำโคลน เสียงเดินๆ หยุดๆ

ผมแหวกช่องดู เก้งตัวหนึ่งเดินย่องเข้ามา ดวงตาดำขลับ หันมองรอบๆ หางกระดิก มันหยุดเดิน ก้มกินน้ำ

ผมปรับระยะชัด ภาพ ความสวยงามของเก้ง ปรากฏอยู่เต็มเฟรม

เก้งเคลื่อนเข้ามาใกล้ ผมลังเลกับการกดชัตเตอร์

ใกล้ขนาดนี้ เก้งอาจตื่น มีเวลาอีกนานก่อนฟ้ามืด อาจมีกระทิง หรือวัวแดงออกมา หากเก้งตื่น พวกนั้นย่อมตื่นหนีไปด้วย

แต่จะปล่อยให้วันนี้จบลงอย่างว่างเปล่าเหรอ?

ผมถามตัวเอง

“ฟอด! ฟอด!” กระรอกส่งเสียง เก้งหันไปมองแสงสวยงาม

“กริ๊ก” เป็นเสียงชัตเตอร์ ผมอดใจไม่อยู่

เก้งหันมาขยับหู ตาจ้องเขม็ง ขาหน้ากระทืบพื้น เงยหน้าสูดกลิ่น ส่งเสียง ก่อนหันหลังวิ่งเหยาะๆ เข้าชายป่าไป

ร่างเก้งยังไม่ลับจากสายตา ดงไม้ฝั่งตรงข้าม มีความเคลื่อนไหว เสียงฝีเท้าหนักๆ วิ่งตะบึงออกไป

กระทิงฝูงรอท่าทีกำลังจะออกมา พวกมันตื่นหนีไปเพราะเก้ง

ฟ้ามืด ผมออกจากซุ้ม เดินช้าๆ กลับแคมป์

กิจวัตรประจำผ่านพ้นไปอีกหนึ่งวัน

กับหนึ่งบทเรียน

ผมนึกถึงเรื่อง “เมื่อวาน” บ่อยๆ

คิดถึงเมื่อวาน

เพื่อเดินทางไปให้ถึงพรุ่งนี้…