เส้นทางสายใหม่/ลึกแต่ไม่ลับ จรัญ พงษ์จีน

จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

 

เส้นทางสายใหม่

 

หลังปล่อยให้ลุ้นระทึกกันอยู่นาน ในที่สุด “ปลัดกระทรวงมหาดไทย” หมายเลข 1 ของข้าราชการประจำทุกกรม กอง ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน “บิ๊กฉิ่ง-ฉัตรชัย พรหมเลิศ” ที่จะเกษียณอายุอำลายุทธจักรในวันที่ 30 กันยายน ก็คลอดเสียทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ “เคาะ” แต่งตั้ง “นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ขึ้นนั่งแท่น โผแต่งตั้ง “บิ๊กคลองหลอด” เสนอแต่งตั้งพร้อมตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในล็อตเดียวกันอีก 28 ราย

ที่สำคัญๆ ยังประกอบไปด้วย อาทิ “นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม” ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย “นายสมคิด จันทมฤก” รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน “นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์” ผู้ตรวจกระทรวง เป็นผู้ว่าฯ กระบี่ “นายรังสรรค์ ตันเจริญ” ผู้ว่าฯ พิจิตร เป็นผู้ว่าฯ ชัยนาท “นายไกรสร กองฉลาด” ผู้ว่าฯ นครพนม เป็นผู้ว่าฯ ชัยภูมิ “นายประจญ ปรัชญ์สกุล” ผู้ว่าฯ เชียงราย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ “นายวิเชียร จันทรโณทัย” ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ กลับถิ่นเก่าเป็นผู้ว่าฯ นครราชสีมา “นายเจษฏา จิตรัตน์” ผู้ว่าฯ นราธิวาส เป็นผู้ว่าฯ สงขลา “นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร” ผู้ว่าฯ ลำปาง เป็นผู้ว่าฯ ปทุมธานี เป็นต้น

ก่อนหน้าที่โผคลองหลอดจะคลอดออกมาได้อย่างเป็นทางการ มีข่าวเล่า-ลือกันหึ่งว่า มีการชงชื่อบุคคลที่จะมานั่ง “ปลัดกระทรวงมหาดไทย” แทน “บิ๊กฉิ่ง” มีรายการ “เสือข้ามห้วย” โดย “จตุพร บุรุษพัฒน์” จะกระโดดค้ำถ่อจากตำแหน่งปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาเป็น “เบอร์ 1 คลองหลอด” ภายใต้การสนับสนุนของ “บิ๊กฉิ่ง” ที่มีความสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัวมาก

หรือหาก “บิ๊กตุ๋ม” มีอุปสรรค อาจจะขัดตาทัพโดย “ธนาคม จงจิระ” อธิบดีกรมการปกครอง หรือ “นิสิต จันทร์สมวงศ์” อธิบดีกรมที่ดิน

แต่อีกสัปดาห์ สองสัปดาห์ต่อมา ชื่อของ “จตุพร” แรงจัด ตีคู่มากับ “อธิบดีเก่ง สุทธิพงษ์” ส่วนตัวชิงรายอื่นๆ หลุดโผไป

สาเหตุที่มา ชื่อมาร้อนแรงเพราะ “จตุพร” ไม่ใช่เป็นเสือข้ามห้วย เพราะมหาดไทยถือว่าเป็น “ลูกหม้อ” เก่าคนหนึ่ง เนื่องจากชีวิตที่เริ่มนับหนึ่งจากอาชีพราชการ มาจากปลัดอำเภอ สังกัดกรมการปกครอง จบโรงเรียนนายอำเภอ ก่อนจะบินข้ามเขตไปสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ในตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยกรทางทะเลและชายฝั่ง อธิบดีอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พื้น อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ก่อนผงาดขึ้นนั่งแป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ

 

ขณะที่ตัวชิงที่เบียดแทรกในช่วงโค้งสุดท้าย “อธิบดีเก่ง สุทธิพงษ์” เส้นทางก็เยี่ยมวรยุทธ์ไม่มีที่ติ ชีวิตรับราชการเริ่มต้นจากปลัดอำเภอวังเหนือ จ.ลำปาง ปลัดอำเภอบางเลน ปลัด อ.เมืองนครปฐม แต่ช่วงที่สำคัญที่สุด ในปี 2548 พลิกจากปลัดอำเภอกระทุ่มแบน ก้าวข้ามมาเป็นหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พอรัฐมนตรีหมดสมัย ได้รับแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม และย้ายมาเป็นรองผู้ว่าฯ นครนายก

ฤดูกาลโยกย้ายระนาบผู้ว่าราชการจังหวัดในปี 2553 “นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ” มีชื่อได้รับการกล่าวขานมากที่สุด เมื่อสามารถผงาดขึ้นมาเป็นหมายเลข 1 ของจังหวัด นั่งเก้าอี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ทุบสถิติอายุน้อยที่สุด วัยเพียง 46 ปี

จากนั้น “ผู้ว่าเก่ง” ก็เด้งไปเด้งมา ดุจลูกชิ้นนายใบ้ เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยในปี 2555 ออกจากกรุเป็นผู้ว่าฯ สระบุรี ในปี 2556 อีกวาระถัดมาโยกไปเป็นเจ้าเมืองชัยนาท

ช่วงที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ ชัยนาท ฟาดเคราะห์แรงไปหน่อย ปั่นจักรยานจากบ้านพักไปตรวจงาน เส้นทางลาดชันแนวดิ่ง ขรุขระ เกิดเสียหลัก ล้มไถลไปกับถนนและตกเขา ได้รับบาดเจ็บสาหัส กรามหัก ฟันหลุด เย็บกว่า 70 เข็ม

ยังไม่ทันหายเป็นปกติดี ถูกโยกย้ายเข้ากรุเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นั่งตบยุงอยู่ 2 ปี ฤดูกาลโยกย้ายปี 2560 ฟ้าเปิด กลับมาเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และปี 2562 เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ตามลำดับ

ด้วยความสงบเยือกเย็นดุจภูผา มีคอนเน็กชั่นกับการเมืองทุกขั้ว สายสัมพันธ์ที่ดีกับทุกสายอำนาจ จึงลงเอ่ยด้วยบทสรุปกับสัจธรรมที่ว่า “คนคำนวณไม่สู้ฟ้าลิขิต”

ว่ากันไปแล้ว ในตำแหน่งที่เกี่ยวดองข้องแวะกับการชิงดำปลัดกระทรวงมหาดไทยงวดนี้ ก็ล้วนแล้วแต่ “คนกันเอง” กับ “บิ๊กเก่ง” ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น “บิ๊กฉิ่ง-ฉัตรชัย พรหมเลิศ” หรือ “ธนากร” อย่างน้อยๆ ก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องจากรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาด้วยกัน จาก “สิงห์ดำรุ่น 32” กับ “สิงห์ดำรุ่น 36”

และแม้กระทั่ง คู่ชิง “ตุ๋ม จตุพร” ก็มิใช่ใครที่ไหน เป็นเพื่อนร่วมรุ่นสิงห์ดำรุ่น 36 ด้วยกัน อายุอานามก็เกิด พ.ศ.เดียวกัน โดยที่ “สุทธิพงษ์” 3 กุมภาพันธ์ 2507

ขณะ “จตุพร บุรุษพัฒน์” เกิดวันที่ 3 พฤษจิกายน 2507 มีอายุราชการเหลือพอๆ กัน

 

ทีนี้ตามไปดูเส้นทางสายใหม่ของ “บิ๊กฉิ่ง-ฉัตรชัย พรหมเลิศ” หลังเกษียณอายุในเดือนกันยายน ดังที่เห็นๆ กันก่อนหน้านี้ นอกจากบทบาท-บารมี ทุกบริบท ถูกยกระดับว่า มีส่วนละม้ายคล้ายคลึงกับ “ปลัดพิศาล มูลศาสตรสาทร” ฮิตาชิแห่งคลองหลอด เป็นที่รู้จักของข้าราชการ ทุกองค์กรส่วนปกครองท้องถิ่น มวลชนเยี่ยมยอด มีความใกล้ชิดกับ “2 ป.”

โดยเฉพาะ “ป.ป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอย่างมาก บ้านป่ารอยต่อฯ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็เอ็นดู ไว้เนื้อเชื่อใจ

จนมีข่าวว่า พี่น้อง 3 ป.หรี่ตาให้ “บิ๊กฉิ่ง” เดินหมากก่อตั้งพรรคสำรอง ชื่อในเบื้องต้น “เศรษฐกิจไทย” เป็นพรรคลูก พรรคน้องของพลังประชารัฐ ทำหน้าที่เครือข่ายให้กับ “3 ป.” โดยตรง

“บิ๊กฉิ่ง” เดินสายพบปะนักการเมืองน้อยใหญ่หลายค่าย โดยเฉพาะในภาคอีสาน หมายดึงตัวมาร่วมวงไพบูลย์กันที่พรรคใหม่

ทุนลงขันคับคั่ง หลั่งไหลมาจากแม่น้ำหลายสาย โดยว่ากันว่าจิ๊กซอว์ที่จะทำให้พรรคการเมืองใหม่ที่มี “บิ๊กฉิ่ง” เป็นโต้โผ นอกจากนักการเมืองชื่อดังหลายคนแล้ว ยังต้องอาศัยเครือข่ายมหาดไทยเป็นตัวช่วยหลัก

การที่โผโยกย้ยกระทรวงมหาดไทยหวยออกที่ “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” เป็นปลัดคลองหลอด ส่งผลให้พรรคเศรษฐกิจไทย โดนแคนนอนเข้าเต็มๆ

มีโอกาสที่จะ “กินแสง” สูง