ปฏิบัติการ ‘บิ๊กตู่’ ยึดโผทหาร ปัดแผนยึดอำนาจ วัดใจ ‘บิ๊กบี้’ จับท่าที ‘บิ๊กอุ้ย-แอร์บูล’ จับตาคลัสเตอร์อำนาจทหารม้า ‘บิ๊กช้าง-บิ๊กแก้ว’ ทายาทตะหานม้า/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

 

ปฏิบัติการ ‘บิ๊กตู่’ ยึดโผทหาร

ปัดแผนยึดอำนาจ

วัดใจ ‘บิ๊กบี้’

จับท่าที ‘บิ๊กอุ้ย-แอร์บูล’

จับตาคลัสเตอร์อำนาจทหารม้า

‘บิ๊กช้าง-บิ๊กแก้ว’ ทายาทตะหานม้า

 

โผโยกย้ายทหารเข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว เพราะบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด นัดให้ ผบ.เหล่าทัพส่งบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร ให้ถึงมือในวันที่ 9 สิงหาคม เพื่อเตรียมเขย่ากันครั้งสุดท้าย

ก่อนเข้าหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ ที่จะเป็นการประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล หรือบอร์ด 7 เสือกลาโหม

ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า ส่วน “หัว” คือตำแหน่งปลัดกลาโหม ผบ.ทร. ผบ.ทอ. แม่ทัพภาคที่ 1 และ ผบ.พล.1 รอ. ลงตัวหมดแล้ว

แต่มาประชุมเพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.กลาโหม 2551 ที่บอร์ด 7 เสือกลาโหม คือ รมว.กลาโหม รมช.กลาโหม ปลัดกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.ทบ. ผบ.ทร. และ ผบ.ทอ. จะต้องหารือร่วมกัน

ก่อนส่งให้กลาโหม เข้าขั้นตอนของการรวบรวม และการตรวจสะกดการันต์ ก่อนให้ ผบ.เหล่าทัพลงนาม และส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะนายกรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯ

พร้อมข่าวสะพัดในกองทัพ หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ปฏิบัติภารกิจสำคัญ เมื่อค่ำวันที่ 28 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา เพียงลำพัง

จากเดิมที่มีแผนนำรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 6 ในนามตัวแทน ครม. และประชาชน เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพร แต่ได้รับแจ้งให้เลื่อนออกไปก่อน เพราะสถานการณ์โควิด

แต่ พล.อ.ประยุทธ์ปฏิบัติภารกิจเพียงผู้เดียว โดยได้ตัดผมใหม่ และตรวจหาโควิดพร้อมทีมติดตาม ตามระเบียบก่อน

แต่จากนั้นเป็นต้นมา พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่เคยพูดใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจดังกล่าวเลย

แต่ที่เห็นได้ชัดคือ พล.อ.ประยุทธ์ดูมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานต่อไป จนประกาศว่า ไม่ใช่เวลาที่จะถอดใจ แม้จะถูกกดดันให้ลาออก หรือกดดันให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว แม้ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่เคยคิดเรื่องลาออกอยู่แล้วก็ตาม

รัฐมนตรีหลายคนสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ดูสดใสกว่าแต่ก่อน ไม่มีทีท่าเครียดอะไรมากอย่างที่ใครคิด เพราะ พล.อ.ประยุทธ์มองประเทศอื่น ที่ก็หนักหนาทั้งนั้น ไม่มีประเทศไหนแก้ได้ แล้วก็ไม่มีผู้นำประเทศใดที่ต้องลาออก

ไม่แค่นั้น ยังปรากฏภาพกลมเกลียวของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ทางทำเนียบรัฐบาลปล่อยออกมาสยบข่าวแตกร้าวพรรคร่วมจะถอนตัว

ทว่า ไม่ใช่แค่ฝ่ายการเมืองเท่านั้นที่จับตาดู พล.อ.ประยุทธ์ แต่ฝ่ายกองทัพก็ดูทีท่าเช่นกัน ในเมื่อแสดงความมั่นใจว่า ไปต่อ สู้ต่อ แล้วสถานการณ์ก็จะลดความอ่อนไหวลง

เพราะหากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆ ในห้วงเวลานี้ กองทัพก็ต้องพร้อมรับสถานการณ์

พล.อ.ประยุทธ์จึงส่งสัญญาณว่า ไปต่อ ออกมาอย่างชัดเจน ในการให้สัมภาษณ์ 36 นาทีในวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 โดยสำนักโฆษกรัฐบาล สำนักนายกรัฐมนตรี

และทำให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์เสมือนอยู่ในอีกโลกหนึ่ง แตกต่างจากโลกที่ประชาชนกำลังหวาดกลัวโควิดอย่างหนัก

จึงไม่แปลกที่จะเกิดการปล่อยข่าวการรัฐประหารขึ้นตามมา เพราะไหนๆ พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ยอมลาออก

แต่เพราะเป็นช่วงสถานการณ์อ่อนไหว เพราะคะแนนนิยม พล.อ.ประยุทธ์ตกต่ำ มีแต่เสียงตำหนิก่นด่า จึงทำให้คนเชื่อข่าวลือรัฐประหาร แม้แต่ทหารเองยังต้องเช็กข่าว

หลังจากมีข่าวลือสะพัดในโซเชียล และข้อความส่งต่อทางไลน์ว่า บิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ก่อการรัฐประหาร ส่งทหารรบพิเศษป่าหวายไปจับ พล.อ.ประยุทธ์ที่บ้านพัก ใน ทม.ร.1 รอ. แล้ว เตรียมนำกำลังรถถัง 48 กองพันเข้ายึดกรุง และจะปิดประเทศ 5 ปี ตั้งบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองราชเลขาธิการ และอดีต ผบ.ทบ. เป็นนายกฯ

ถึงขั้นที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์นั่งไม่ติด เพราะข่าวลือ ข่าวปลอมนี้ทำให้ ทบ.เสียหาย เกิดความวุ่นวาย และเกิดความหวาดระแวงเกิดขึ้น จึงสั่งนายทหารพระธรรมนูญฟ้องเอาผิดคนโพสต์ ก่อนที่โฆษก ทบ.จะส่งเอกสารแถลงข่าวถึงสื่อตอนเกือบเที่ยงคืน

เพราะ พล.อ.ณรงค์พันธ์ย้ำมาเสมอว่า โอกาสในการรัฐประหาร เป็น “ศูนย์” และถึงขั้น “ติดลบ” เลยทีเดียว คือ ไม่มีโอกาสที่จะเกิดรัฐประหารขึ้นได้นั่นเอง

เหตุผลหนึ่งที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ต้องแอ๊กชั่นต่อข่าวลือนี้ เพราะเกรงว่า พล.อ.ประยุทธ์อาจจะหวาดระแวง เพราะโดยความสัมพันธ์ส่วนตัวก็ไม่ได้สนิทแนบแน่นเหมือนสมัย พล.อ.อภิรัชต์

แม้แต่ระหว่าง พล.อ.ณรงค์พันธ์ กับ พล.อ.อภิรัชต์ เองก็ยังมีระยะห่างทางใจกันอยู่บ้าง และอาจทำให้เกิดความหวาดระแวงกันภายใน

แต่เพราะสิ่งแวดล้อมทางการเมือง ทำให้ผู้คนเงี่ยหูฟังข่าวลือนี้ ตั้งแต่ท่าทีของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่ประกาศจะกลับไทย แม้จะไม่มีสัญญาณตอบรับ แต่พร้อมจะมาติดคุก

และสายสัมพันธ์ของแกนนำพรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย หรือแม้ความสัมพันธ์เก่าของนายทักษิณ กับ พล.อ.ประวิตร วงษสุวรรณ ที่ตั้งเป็น ผบ.ทบ. และกับบิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เพื่อน ตท.10 ที่ตั้งเป็นแม่ทัพภาคที่ 1

รวมถึงการตีความความเคลื่อนไหวของ ม.จ.จุลเจิม ยุคล ในเฟซบุ๊ก เป็น “สัญญาณ” การเปลี่ยนตัวนายกฯ นั่นเอง

แต่ในทางปฏิบัติแล้ว การปฏิวัติรัฐประหารในยุคนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีไฟเขียว อีกทั้งจุดยืนของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ก็ชัดเจนตั้งแต่ต้น

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้

ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์จึงไม่ได้ตื่นเต้น หรือต้อง “เช็กข่าว” เพราะพกความมั่นมาเต็มกระเป๋าอยู่แล้ว เพราะยังวางใจในตัว พล.อ.อภิรัชต์ น้องรักที่คอยเช็กข่าวให้เสมอ

แถมใน ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ก็มีแม่ทัพต่อ พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพภาคที่ 1 น้องรักสายทหารเสือฯ ที่โผนี้จะขึ้น ผช.ผบ.ทบ. เข้าไลน์จ่อเป็น ผบ.ทบ.ต่อจาก พล.อ.ณรงค์พันธ์ที่จะเกษียณกันยายน 2566

และยังมีบิ๊กติ่ง รองเสธ.ทบ. น้องรักทหารเสือฯ อีกคน ที่จ่อขึ้นเป็น เสธ.ทบ.ในโผนี้ ที่จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์วางใจในสถานการณ์ใน ทบ.ได้

หากแต่ยังถูกจับตามองว่า หมดหน้าที่นายกฯ ในรัฐบาลนี้แล้ว ในสมัยหน้า การเลือกตั้งครั้งหน้า พล.อ.ประยุทธ์จะไปต่อหรือไม่ เพราะกระแสข่าวการวางมือ และกระแสข่าว พล.อ.ประวิตรเล็งหานายกฯ คนใหม่มาสำรองไว้ ยังคงมีอยู่

หากถึงเวลา พล.อ.ประยุทธ์ที่แสนบอบช้ำจากการทำศึกโควิด อาจต้องพัก และอาจเดินตามรอยเท้าบิ๊กแอ้ด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่ครั้งหนึ่ง เคยเป็นนายกรัฐมนตรี

เหล่านี้จึงอาจส่งผลให้ชื่อของ พล.อ.อภิรัชต์ยังไม่ถูกตัดไปจากแคนดิเดตนายกฯ ในอนาคต แม้ใครๆ จะบอกว่า นายกฯ คนต่อไป ควรจะเป็นพลเรือนก็ตาม

พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์

ไม่แค่นั้น ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ในช่วงที่ผ่านมา กำลังถูกกองทัพจับตาว่าเกี่ยวข้องกับโผทหารด้วยหรือไม่ เพราะใกล้เวลาที่ต้องสรุป

จึงตามมาด้วยกระแสข่าวจัด “หัว” ลงตัว เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะปิดห้องคุย ผบ.เหล่าทัพ 16 สิงหาคมนี้

ในส่วนกองทัพอากาศ มีรายงานว่า พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผบ.ทอ. เสนอชื่อบิ๊กตั้ว พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์ วัฒนวรางกูร ผบ.คปอ. เพื่อนรัก ตท.21 เป็น ผบ.ทอ.คนใหม่แทน

ที่จับตามองมากที่สุดคือ จะให้ เสธ.หนึ่ง พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา เสธ.ทอ.ขยับขึ้นรอง ผบ.ทบ. ครองอาวุโส “พลอากาศเอกพิเศษ” จ่อไว้เลย เพื่อขึ้นเป็น ผบ.ทอ.ต่อจาก พล.อ.อ. สฤษฏ์พงศ์ที่เกษียณกันยายน 2565 หรือไม่ เพราะจะทำให้มีความชอบธรรมที่จะขึ้นเป็น ผบ.ทอ.ต่อ

เพราะในโผนี้ จับตากันที่ การดันเจ้ากรมเบิร์ท พล.อ.ท.อนันตชัย แก้วศรีงาม เจ้ากรมส่งกำลังบำรุง ทอ. ขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทอ. หลังจากที่ พล.อ.อ.แอร์บูลดันขึ้นมาเมื่อโยกย้ายเมาายน แทน คนที่ พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ.คนก่อนวางตัวไว้

หาก พล.อ.ท.อนันตชัย ซึ่งเป็น ตท.22 ขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทอ.ในโผนี้ ก็มีโอกาสสูงที่จะชิง ผบ.ทอ.คนถัดไป และเป็นนักบินลำเลียง C130 เช่นเดียวกับ พล.อ.อ.แอร์บูล และมีอายุราชการถึงกันยายน 2567 พร้อมกับ พล.อ.อ.ชานนท์ รุ่นน้อง ตท.23 อีกด้วย

ท่ามกลางกระแสข่าวการดึงบิ๊กป้อม พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันทน์ จากรองเสธ.ทหาร บก.ทัพไทย กลับมา ทอ. มาชิงเก้าอี้ ผบ.ทอ.อีกคน

แต่ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์เมื่อวันพุธสุดท้ายของเดือนกรกฎาคมนั้น ก่อให้เกิดข่าวลือสะพัดว่า มีการตรวจสอบสัญญาณทั้งชื่อ พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์ พล.อ.อ.ชานนท์ และชื่อบิ๊กต่วย พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ ต่ายทอง รอง ผบ.ทหารสูงสุด ที่มีข่าวมาตลอดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะสนับสนุนให้เป็น ผบ.ทอ.

ที่ทำให้ใน ทอ.ลุ้นกันต่อว่า ผบ.ทอ.คนใหม่ ชื่อจะออกมาเป็น พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์ ตามที่ พล.อ.อ.แอร์บูลเสนอชื่อขึ้นไปหรือไม่

พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน

ขณะที่ความเคลื่อนไหวเดียวกันของ พล.อ.ประยุทธ์ส่งผลให้เกิดกระแสข่าวสะพัดอีกว่า ชื่อของบิ๊กปู พล.อ.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผบ.กองเรือยุทธการ ยังมีโอกาสลุ้น แม้จะมีรายงานว่า บิ๊กอุ้ย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร. จะเสนอชื่อเสธ.โต้ง พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ เสธ.ทร. เป็น ผบ.ทร.แทนก็ตาม

หลังจากที่มีรายงานว่า พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกลาโหม หารือเรื่องการเสนอชื่อบิ๊กเฒ่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย รองปลัดกลาโหม เพื่อนรัก ตท.20 ให้ข้ามกลับมาเป็น ผบ.ทร. แต่ยังไม่มีสัญญาณตอบรับจาก พล.ร.อ.ชาติชาย แม้จะเป็นเพื่อนกัน

จนมีข่าวว่า ทางกลาโหมต้องเตรียมแผนสำรองที่จะส่ง พล.ร.อ.สมประสงค์ข้ามไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด แทนบิ๊กช่อ พล.ร.อ.ช่อฉัตร กระเทศ ที่จะเกษียณ เพราะมี พล.อ.เฉลิมพลเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ที่อาวุโสกว่าอยู่

เพราะหาก พล.ร.อ.สมประสงค์เป็นรองปลัดกลาโหมต่อไป ก็จะอาวุโสกว่าบิ๊กหน่อย พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ เสธ.ทบ. เพื่อน ตท.20 อีกคน ที่จะข้ามจาก ทบ.มาเป็นปลัดกลาโหม

แล้วให้ ทร.ส่งชื่อนายทหารเรือคนอื่น ยศพลเรือเอก มาเป็นรองปลัดกลาโหมคนใหม่แทน

ทั้งนี้เพราะท่าทีของ พล.ร.อ.ชาติชาย ที่คนใน ทร.สังเกต คือการชงงาน และหารือกับ พล.ร.อ.ธีรกุล มากกว่าแคนดิเดตคนอื่น ที่อาจเป็นเพราะการเป็นเสธ.ทร. ที่เป็นมือทำงานของ ผบ.ทร.อยู่แล้ว

ตอนนี้เหลือเพียงแค่ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเอ่ยปาก และแทรกแซงการตั้ง ผบ.ทร.หรือไม่ หาก พล.อ.ณัฐเสนอให้นายกฯ คุยกับ พล.ร.อ.ชาติชาย เรื่อง พล.ร.อ.สมประสงค์

พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผบ.ทอ.

ขณะที่ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์เคาะตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แล้ว ตามที่ พล.อ.เฉลิมพลเสนอมา โดยจะมีการนำชื่อบิ๊กไก่ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เสนาธิการทหาร บก.ทัพไทย เข้าที่ประชุมบอร์ด สมช. 26 สิงหาคมนี้ เพื่อที่จะนำเข้าที่ประชุม ครม.ต่อไป

เป็นอันเรียบร้อยโรงเรียนทหารม้าอีก 1 ตำแหน่ง จากแรงผลักดันของ พล.อ.เฉลิมพล ที่ก็เป็นทหารม้าเช่นเดียวกับ พล.อ.สุพจน์ แม้เป็นม้าต่างกองพล พล.ม.2 รอ. ม้าเมือง กับ พล.ม.1 ม้าดอย แต่ทหารม้ามักจะรักพวกพ้องพี่น้อง

ไม่แค่นั้น ในหมู่ทหารม้ารู้กันดีว่า ในยุคนี้ ทหารม้ามีความแข็งแกร่ง โดยมีบิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม เป็นพี่ใหญ่ทหารม้า หัวหน้าฝูง ถือเป็นผู้สนับสนุนสำคัญ

แม้เหล่าทหารม้าจะสิ้นป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พ่อม้าไปแล้ว แต่ยังมี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ดูแลผองเหล่าทหารม้าต่อ

พล.อ.เปรม ซึ่งเป็นทหารม้า เคยบอกกับบรรดานายทหารม้า ที่ตบสเปอร์เข้าอวยพรวันเกิด 26 สิงหาคม ช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ ให้ช่วยดูแลพี่น้องทหารม้าเราด้วย เพราะทหารม้าโตยาก กว่าจะขึ้นมาถึง 5 เสือ ทบ.ก็เกษียณพอดี

เพราะตั้งแต่ พล.อ.เปรมเป็น ผบ.ทบ.มายาวนานกว่า 30 ปี ก็ยังไม่เคยมี ผบ.ทบ.จากเหล่าทหารม้าอีกเลย เพราะส่วนใหญ่จะเป็นทหารราบ และรบพิเศษ

พล.อ.เปรมได้ฝากฝัง พล.อ.ชัยชาญ ให้ดูแลทหารม้า เพราะก่อนที่จะสิ้น พล.อ.ชัยชาญจะเป็นผู้นำแถวทหารม้า เข้าอวยพรป๋าเปรมอยู่หลายครั้ง

จึงไม่แปลกที่ในเวลานี้ บรรดาทหารม้าต่างยกให้ พล.อ.ชัยชาญเป็น “พี่ช้าง” พี่ใหญ่ของทหารม้า ที่ช่วยดูแลน้องๆ เพราะนั่งเป็น รมช.กลาโหมมาอย่างเหนียวแน่น ในฐานะสายตรงของบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง พี่ใหญ่

พล.อ.ชัยชาญ เป็นอดีตปลัดกลาโหม และเตรียมทหารรุ่น 16 ที่เกษียณกันหมดแล้ว แต่บิ๊กช้างยังเหนียว เพราะทำงานและดูแลงานกลาโหมให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นอย่างดี

และที่กลาโหมก็ยังมีบิ๊กตุ้ย พล.อ.ชัยพฤกษ์ พูลสวัสดิ์ รองปลัดกลาโหม และบิ๊กเอ๋ พล.อ.วรวิช มลาสานต์ เป็นเจ้ากรมเสมียนตรา ที่ช่วยจัดโผทหาร และ พล.อ.สมควร ทองนาค เป็น ผอ.สำนักงบประมาณกลาโหม ก็เป็นทหารม้าด้วย

ขณะที่บิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด ก็เป็นพี่รองของทหารม้า ที่ดูแลน้องๆ ทหารม้า จึงทำให้กล่าวกันในกองทัพว่า ทหารม้าเฟื่องฟูใน บก.ทัพไทย จนกลายเป็นเสมือนคลัสเตอร์อำนาจทหารม้าเลยทีเดียว

พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล

หากย้อนไป เคยมี ผบ.ทหารสูงสุด เป็นทหารม้า เช่น บิ๊กตุ้ย พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ แต่ทว่า ความเป็นกลุ่มก้อนทหารม้าใน บก.ทัพไทย มาเริ่มแข็งแกร่งในยุคที่บิ๊กต๊อก พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ เป็น ผบ.ทหารสูงสุด และมาถึงยุค พล.อ.เฉลิมพล ที่ก็เคยอยู่หน่วยทหารม้ากับบิ๊กต๊อกมาสมัยเป็นม้าหนุ่ม

จะเห็นได้ว่า พล.อ.เฉลิมพลได้ดึงน้องๆ ทหารม้าจาก ทบ.แยกสาย มาโตใน บก.ทัพไทย โดยเฉพาะทหารม้าคอแดง

ตั้งแต่ดึงเสธ.บัติ พล.ท.สมบัติ ธัญญะวัน ตั้งแต่เป็นพันเอก รอง ผบ.พล.ม.2 รอ. และมาติดยศนายพล เป็น ผอ.สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จนที่สุดแยกวง ได้โอนย้ายไปอยู่หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์แล้ว

ที่สำคัญคือ บิ๊กบุ๋ม พล.ท.สุวิทย์ เกตุศรี ผบ.ศูนย์ต่อต้านก่อการร้ายสากล (ศตก.) ทหารม้าคอแดง ที่ พล.อ.เฉลิมพลดึงตัวมาตอนเป็นพลตรี รองแม่ทัพภาคที่ 1 ข้ามมาเป็นรอง ผบ.วิทยาลัยเสธ.ทหาร แล้วก็ได้ขยับขึ้นเป็นพลโท ผบ.ศตก. และคาดว่าในโผนี้ จะขยับขึ้นพลเอก เสนาธิการทหาร เป็นเสธ.คู่ใจบิ๊กแก้ว จากเดิมที่มีชื่อเสธ.โจ้ พล.อ.ณตฐพล บุญงาม ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักปลัดกลาโหม ที่พลาดเก้าอี้เลขาฯ สมช. จะข้ามมานั่ง

พล.ท.สุวิทย์ถูกมองว่าเตรียมเข้าไลน์ เตรียมต่อคิวเป็น ผบ.ทหารสูงสุดต่อจาก พล.อ.เฉลิมพลที่เกษียณกันยายน 2566 ได้เลย เพราะเป็นน้องรักทหารม้า แถมเป็นทหารม้าคอแดงเช่นกัน

ที่น่าจับตาอีกคนคือ เสธ.เอี่ยว พล.ท.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว (ตท.26) เป็นทหารม้าอีกคนที่ข้ามจาก ทบ. มาเป็นผู้ช่วยหัวหน้านายทหาร ฝ่ายเสนาธิการประจำ ผบ.ทหารสูงสุด

และถูกมองว่า เตรียมเข้าไลน์ขึ้นเป็นเจ้ากรมยุทธการทหาร รองเสธ.ทหาร และเสธ.ทหาร เพื่อจ่อขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุดในอนาคต โดยมีอายุราชการถึงกันยายน 2571

ขณะที่ใน บก.ทัพไทย ยังมีทหารม้าคนสำคัญ ทั้งบิ๊กแขก พล.อ.นเรนทร์ สิริภูบาล ผบ.นทพ. เพื่อน ตท.21 ของบิ๊กแก้ว ที่มีข่าวว่าจะนั่ง ผบ.นทพ.ต่ออีก 1 ปี เพื่อทำงานต่อเนื่อง ในการช่วยแก้ปัญหาโควิด และงานจิตอาสา ไม่ได้ขึ้นรอง ผบ.ทหารสูงสุด

ทหารม้าที่ บก.ทัพไทย ยังมีบิ๊กอ๊อด พล.ท.กนกพงษ์ แก้วนวล เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร บิ๊กน้อย พล.ท.วัฒนะ พลจันทร์ ผบ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) และรองหมู พล.ต.สุเมธ พรหมตรุษ รอง ผบ.ศตก.

ที่สำคัญคือ ทหารม้าทัพไทย จะได้ข้ามไปยึดตึกแดง สมช.ในทำเนียบรัฐบาล หลัง พล.อ.เฉลิมพลส่งชื่อบิ๊กไก่ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เสธ.ทหาร รุ่นน้อง ตท.22 ทหารม้านักรบเหรียญรามา ให้ พล.อ.ประยุทธ์พิจารณาในตำแหน่งเลขาฯ สมช.

ที่มีรายงานว่า จะมีการเสนอชื่อ พล.อ.สุพจน์เข้าที่ประชุมบอร์ด สมช.ที่นายกฯ เป็นประธาน 26 สิงหาคมนี้ และเข้า ครม. เป็นเลขาฯ สมช.คนใหม่ ที่มีอายุราชการถึงกันยายน 2566 โดย พล.อ.เฉลิมพลต้องการให้อยู่ยาว 2 ปี จนครบวาระของรัฐบาล

พล.อ.สุพจน์จึงจะกลายเป็นทหารม้าที่จะไปเป็นขุนศึกข้างกาย พล.อ.ประยุทธ์ที่ทำเนียบรัฐบาลอีกคน

พร้อมรอดูขุนพลคนใหม่ที่จะมาเป็น ผบ.เหล่าทัพใหม่ ในอีกไม่นานนี้แล้ว

อยู่แค่ที่ว่า มันจะราบเรียบ ราบรื่น แบบ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ต้องออกแรงหรือไม่ เท่านั้นเอง