วิกฤตซ้อนวิกฤต… โควิด-19 เขย่าเสถียรภาพรัฐบาล/บทความพิเศษ

บทความพิเศษ

ภัณธิภร วงษ์จันทร์เพ็ญ

ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์สากลและยูเรเนียนแห่งประเทศไทย

email : [email protected]

Facebook : Classical and Uranian Astrology Thailand

วรเชษฐ์ ตียเกษม ที่ปรึกษา

 

วิกฤตซ้อนวิกฤต…

โควิด-19 เขย่าเสถียรภาพรัฐบาล

 

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (Covid-19) ระลอก 3 ที่รุนแรงอย่างหนัก มียอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุกว่า 1 หมื่นคนในแต่ละวัน เสียชีวิตกว่า 100 ราย ขณะนี้ (1 สิงหาคม 2564) ยังไม่มีทีท่าว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลายลงได้

แม้ว่าสภาพการแพร่ระบาดจะรุนแรงและเลวร้าย ยังมีคนจากหลากหลายกลุ่มที่ไปรวมตัวกันเพื่อเกิด “ม็อบ 18 กรกฎาคม ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี” ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมาตรการล็อกดาวน์จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ในประเด็นความล้มเหลวต่อแผนบริหารจัดการโควิด-19 และการจัดหาวัคซีนคุณภาพ โดยเรียกร้องให้ 1.นายกรัฐมนตรีลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข 2.ปรับลดงบประมาณกองทัพและที่ไม่จำเป็นเพื่อนำเงินมาแก้ปัญหาโควิด-19 3.รัฐบาลต้องจัดหาวัคซีนคุณภาพมาฉีดให้กับประชาชนทุกคนในประเทศ แต่ในที่สุดม็อบก็ถูกสกัดด้วยเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยการฉีดน้ำแรงดันสูง แก๊สน้ำตา ตามด้วยกระสุนยางยิงสาดใส่ทำให้มีคนได้รับบาดเจ็บ (ข่าวจากมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 2036)

จากภาพดวงชะตาในวันอมาวสี (New Moon) 8 สิงหาคม 2564 เวลา 20:49 น. ตามเวลามาตรฐานประเทศไทย (105E) พยากรณ์ด้วยโหราศาสตร์ยูเรเนียนระบบจาน 2 ชั้น (จานจรัญ) นำคำแปลมาจากคัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิ อ.พลตรีประยูร พลอารีย์

ภาพดวงชะตาจากโปรแกรม Solar Fire พบว่า จุดจันทร์ดับ (New Moon) หรืออมาวสี (อาทิตย์/จันทร์) = อาทิตย์/จันทร์ = พฤหัสฯ/วัลคานุส = อังคาร/พลูโต= ศุกร์/ฮาเดส = คิวปิโด/เมษ = พุธ/เสาร์ = เนปจูน/ฮาเดส = ศุกร์/โครโนส = ลัคนา/ฮาเดส ภาพดาวจากจาน 2 ชั้น (45 องศา) = เมษ/คิวปิโด = เมษ/มฤตยู = เสาร์/คิวปิโด = เสาร์/เนปจูน

ดาวที่น่าสนใจในช่วงนี้ โครโนสทำมุม 0 องศา (กุม) ฮาเดส หมายถึง ความหยาบช้าอันใหญ่หลวง ความยากจน การขาดแคลนอย่างหนัก รัฐบาลที่ยากจน ดาวคู่นี้ทำมุม 150 องศากับดาวเสาร์โคจรพักร์ สถิตราศีกุมภ์ ดาวเสาร์ที่สถิตราศีนี้ดีในงานเกี่ยวกับรัฐ ราชการ งานหวังผลในบั้นปลาย แต่ในที่สุดจะเกิดปัญหาไม่ได้ตามเป้าหมาย

ดาวพฤหัสฯ โคจรพักร์ สถิตราศีกุมภ์ทำมุม 180 องศา (เล็ง) ดาวอังคาร จะส่งผลเกิดปากเสียงเกี่ยวกับวงการศาสนา การมรณะของนักพรต นายแพทย์ โรงพยาบาลและการกุศลได้รับความเสียหายหรือถูกวิพากษ์อย่างรุนแรง โรคระบาดลุกลาม ประชาชนตื่นเต้นในอาชญากรรมลึกลับ เกิดความรั่วไหลและความตื่นเต้นทางการสงครามภายในประเทศ (คำแปลจากหนังสือโหราศาสตร์ อ.จรัญ พิกุล)

ภาพดวงอมาวสีในรอบเดือนนี้ พิจารณาจุดนายกรัฐมนตรี (พฤหัสฯ+โครโนส-วัลคานุส) = เมอริเดียน/ลัคนา เสาร์ = พลูโต/โพไซดอน = เมษ มฤตยู/ราหู = คิวปิโด/อังคาร เซอุส = เสาร์/แอตแมตอส =วัลคานุส/ฮาเดส พิจารณาจุดหมดอำนาจ (เมอริเดียน+วัลคานุส-เนปจูน) = พฤหัสฯ/โครโนส แปลว่า

นายกรัฐมนตรีต้องตกอยู่ในภาวะลำบาก (เสาร์/แอตแมตอส) มีการกระทำที่เสื่อมเสีย (วัลคานุส/ฮาเดส) เผชิญกับปัญหาและความทุกข์ยากอย่างหนักราวดั่งมรสุมที่มารุมเร้าถาโถมในทุกๆ ด้าน เกินกำลังที่จะแบกรับไหว วิกฤตหนักเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะมีเหตุการณ์อุบัติขึ้นโดยฉับพลัน

 

ในรอบเดือนนี้ถึงกันยายนนี้ นายกรัฐมนตรียังคงรักษาตำแหน่งตนเองไว้ได้ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 และมรสุมคลื่นปัญหาต่างๆ สถานการณ์การเมืองและกลยุทธ์ นโยบายต่างๆ จะค่อยๆ ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง

รัฐบาลได้ประกาศ “ล็อกดาวน์” ในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มและได้ขยายวงกว้างไปยังจังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพฯ และปริมณฑล และมีแนวโน้มจะขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ ท่ามกลางการแพร่ระบาดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในรอบเดือนนี้ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระลอกนี้ จะยาวนานกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ซึ่งจะถึงกลางปีหน้า แม้ว่าจะมีการออกมาตรการจากภาครัฐและยอดผู้ติดเชื้อก็จะยังไม่ลดลง

แม้ว่ารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีจะยังรักษาเสถียรภาพไว้ได้ แต่จะเกิดกระแสต่อต้านการบริหารประเทศตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด-19 แล้ว แต่ช่วงนั้นยังไม่มีเหตุอันใดที่ทำให้รัฐบาลหมดอำนาจได้ มรสุมต่างๆ ในช่วงนั้นก็ถือว่ารุนแรงแล้วตามสภาพการเมืองบ้านเราที่ผ่านมา

แต่พอถึงการแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นการตอกย้ำถึงกระแสการต่อต้านผู้นำและการบริหารงานของรัฐบาล การเคลื่อนไหวทุกรูปแบบ กำลังถาโถมไปสู่นายกรัฐมนตรีในด้านการบริหารประเทศและการใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม

 

ปัญหาอื่นๆ ที่ยังน่าจับตามอง และจะเกิดขึ้นในรอบเดือนนี้ โครงการฉีดวัคซีนยังมีการปรับเปลี่ยนเกิดความไม่ชัดเจน สร้างความสับสน วุ่นวาย เกิดความไม่โปร่งใส จะเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เป็นธรรมด้านการจัดสรรวัคซีนในทุกรูปแบบ การปฏิบัติเพื่อให้บรรุลเป้าหมายการควบคุมการแพร่ระบาดและสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อเข้าถึงประชาชนให้ได้มากที่สุดยังเห็นตัวเลขไม่ชัดเจน

การบริหารด้านวัคซีนยังไม่สำเร็จลุล่วง การบริหารวัคซีนโดยอำนาจเบ็ดเสร็จแห่งรัฐเพื่อให้เข้าถึงประชาชนในทุกระดับ ทั้งวัคซีนที่ฉีดให้ประชาชนฟรี และวัคซีนทางเลือกที่ต้องเสียเงินจับจอง เป็นข้อเรียกร้องที่ประชาชนต้องการ แม้จะเป็นเสียงเงียบๆ แต่ภาพข่าวที่ปรากฏให้เห็นในแต่ละวันๆ การที่คนจำนวนมากต่างไปเบียดเสียดยัดเยียดเพื่อรอฉีดวัคซีน

ภาวะหนี้สินของคนไทยอยู่ในระดับสูงดังจะเห็นได้จากยอดตัวเลขหนี้ครัวเรือนที่เป็นปัญหายืดเย้อยาวนานมาตลอด ยิ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ภาวะหนี้สินของประชาชนยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก คนตกงาน ธุรกิจปิดกิจการ เกิดการกู้ยืมเงินเพื่อนำมาใช้จ่ายในการดำรงชีพ จากนโยบายของรัฐบาลที่จะให้แก้ไขหนี้ครัวเรือนให้หมดไปภายใน 6 เดือนนั้นเป็นไปได้ยากมาก หรือเป็นไปไม่ได้เลย

รัฐบาลเองต้องเร่งรีบหามาตรการเยียวยาให้ครบวงจร การพักชำระหนี้เป็นแนวทางหนึ่งเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่ระยะยาวภาครัฐต้องหามาตรการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ให้กลับฟื้นฟูขึ้นมาโดยเร็วหลังจากสิ้นสุดการแพร่ระบาดโควิด-19 การสร้างงาน สร้างรายได้ และโอกาสในขณะที่ธุรกิจและแรงงานต้องตกงานหรือพักงานช่วงการล็อกดาวน์เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง

นับตั้งแต่ประเทศไทยเคยผ่านวิกฤตน้ำท่วมครั้งรุนแรงเมื่อ ปี พ.ศ.2554 ส่งผลให้เกิดความขาดแคลนอาหาร และของใช้

มาถึงวันนี้วิกฤตโควิด-19 ประชาชนไทยต้องเผชิญกับ “ความขาดแคลนวัคซีน” ทำให้คนเราต้องแย่งวัคซีน ยา เตียงรักษาผู้ป่วย และอื่นๆ

เกิดคำถามว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?