ชีวิตคู่ในสังคมเราทุกวันนี้ซับซ้อนเกินจะเข้าใจได้ บางคู่แต่งงานอยู่กินมาเป็นสิบๆ ปี อยู่ดีๆ สามีมาบอกเลิก ภรรยาซึ่งใช้ชีวิตเป็นแม่บ้านมาตลอด ช็อก! ทำอะไรไม่ถูก จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร

หรือบางคนบางคู่ก็อยู่กันไปงั้นๆ เพราะกลัวชาวบ้านนินทา

อย่างเช่นคู่ของ ฮิโระ คามอน (ยูกิ อมามิ) กับ โชจิ ฮิมูระ(อิคคิ ซาวะมูระ) ในละครญี่ปุ่นเรื่อง Gisou no Fuufu หรือ Fake Marriage เพื่อนในวัยเด็กที่กลับมาพบกันและแต่งงานกัน ฮิโระเป็นเจ้าหน้าที่ห้องสมุดในโรงเรียนอนุบาล ซึ่งโชจิเป็นครูใหญ่อยู่

โชจิขอฮิโระแต่งงานกันหลอกๆ เพราะอยากให้แม่ดีใจมีความสุข กลายเป็นว่าทั้งแม่และลูกต่างพูดโกหกกัน แม่โกหกลูกชายว่าป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย

ขณะที่ลูกชายก็แต่งงานแค่การจดทะเบียน แต่ไม่มีความสัมพันธ์อย่างคู่สามีภรรยากับฮิโระ

เพราะโชจิชอบผู้ชาย!

ส่วนฮิโระที่ยอมแต่งงานด้วยเพราะอยู่ตัวคนเดียวไม่มีใครคอยเป็นห่วง และอยากช่วยเพื่อนหนุ่ม ด้วยโชจิก็เคยเป็นรักแรกของเธอ หลังจากแม่เสียชีวิต ก็ได้น้าเทรูโนะ โกโรดะ (มิโดริโกะ คิมูระ) รับเลี้ยงดูด้วยวิธีแปลกๆ เพื่อทำให้หลานสาวเข้มแข็ง สามารถยืนบนโลกใบนี้ได้

ฮิโระร้องไห้ครั้งสุดท้ายเมื่อเธอยังเด็กตอนแม่ตาย และเธอก็ไม่เคยร้องไห้อีกเลย ใบหน้าที่เย็นชาไร้รอยยิ้ม หรือยามแย้มยิ้มเหมือนฝืนยิ้ม กับชอบคิดอะไรในใจแบบมีเสียง แรกๆ โชจิไม่คุ้นชิน แต่เมื่ออยู่ด้วยกัน ต่างปรับตัวเรียนรู้จักกัน จนต่างได้รู้นิสัยของอีกฝ่าย

ฮิโระชอบทำงานในห้องสมุด อาจเป็นเหตุผลสนับสนุนการใช้ชีวิต ที่รักความสันโดษ, ความสงบ, ได้อยู่คนเดียว เพราะมีหนังสือเป็นเพื่อน และการอ่านหนังสือเสมือนได้เรียนรู้โลกอีกทางหนึ่ง

แม้จะแต่งงานกันเพียงในนาม แต่ฮิโระก็ทำหน้าที่ภรรยาอย่างเต็มร้อยแบบสาวญี่ปุ่น ดูเป็นคู่แต่งงานที่มีความสุข ทำให้ครูๆ ในโรงเรียนบางคนแอบอิจฉา แอบรู้ความลับของโชจิ และเอาไปโพสต์แฉในสังคมโซเชียล ว่าโชจิเป็นเกย์

ผู้ปกครองเด็กนักเรียนจึงร้องเรียนให้โชจิลาออก เพราะต่างไม่มั่นใจว่าครูเกย์มากอดสัมผัสเด็กนักเรียนชายด้วยความเมตตาจริงๆ หรือมีสิ่งอื่นแอบแฝง

แม่ของโชจิก็เสียใจที่ลูกชายเป็นเกย์ พร้อมกับยอมรับว่า ได้หลอกลูกชายเรื่องเจ็บป่วยเป็นโรคร้าย ฮิโระจึงขอเลิกกับโชจิ ซึ่งฮิโระก็เสียใจที่ต้องแยกทางกัน เพราะเธอเริ่มชอบโชจิเข้าแล้ว

โลกสีชมพูของฮิโระพังทลาย เธอต้องกลับไปอยู่อย่างโดดเดี่ยวคนเดียวอีกหรือ?

ในช่วงวิกฤตที่สุดของชีวิต ที่อาจคิดว่าไม่มีทางออกทางรอดแล้ว กลับมีแสงวิบวับประกายเล็กๆ ให้พอมองเห็นความหวังรางๆ

ลูกชายของน้าเทรูเนะ ซึ่งเคยเป็นเพื่อนวัยเด็กของเธอ ชวนให้ฮิโระกลับไปอยู่เช่นเดิม และเรื่องราวความหลังที่เคยฝังใจฮิโระ ก็ค่อยๆ เตือนความทรงจำ ด้วยการช่วยเติมเต็มของน้าและลูกๆ

น้ำตาที่เหือดแห้งไปแสนนานจนคิดว่าเป็นคนไม่มีน้ำตา ได้ไหลออกมามากมาย ฮิโระร้องไห้สะอื้นถึงหัวใจ และน้ำตาได้ทลายกำแพงหิมะในใจของฮิโระ เรื่องราวที่ค้างคาใจมีคำตอบและเหตุผลให้รับรู้

ว่ากันว่า น้ำตาเป็นยาหยอดตาที่ดีที่สุดสำหรับดวงตา ทำให้มองเห็นเรื่องราวต่างๆ ของตัวเองและคนรอบตัวได้เข้าใจชัดเจนมากขึ้น

Fake Marriage เป็นละครที่นำเสนอเรื่องราวของตัวละครอันทันสมัย มีชีวิตคู่ของคนธรรมดาคู่ชาย-หญิง, คู่เกย์แบบชายรักชาย และคู่รักทอมดี้อย่างหญิงรักหญิง สอดคล้องกับสังคมปัจจุบันที่ผู้คนมีหลากหลายเพศ หลากหลายความสัมพันธ์ อย่างที่มักพูดกันเล่นๆ ว่า “ผัวของเธอแต่เป็นเมียของเขา…” อะไรทำนองนี้

ถ้าทั้งคู่มีลูก สิ่งที่ยากก็คือจะอธิบายกับลูกถึงความสัมพันธ์นี้อย่างไร และเด็กจะเข้าใจหรือไม่ รวมทั้งอนาคตข้างหน้าสังคมจะเป็นเช่นไร หรือว่าต่างต้องปรับตัว ทำความเข้าใจและให้ความเป็นธรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้

สังคมที่ต้องให้ความเท่าเทียม ต้องการความเท่าเทียมทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นหญิง ชาย หรือเพศที่สามที่สี่ที่ห้า ทุกคนมีสิทธิความเป็นมนุษย์เหมือนกันทุกประการ

ดูFake Marriage ทางช่อง 244 ช่องเจม (GEM) ของ True Vision ซึ่งกล่าวอ้างว่าเป็นอัญมณีความบันเทิงช่องใหม่แห่งเอเชียที่ได้ถูกการค้นพบ เริ่มครั้งแรกในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่ 6 โมงเช้าเป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่คนไทยจะได้ชมละครช่วงไพรม์ไทม์ ที่จะออกอากาศภายในสัปดาห์เดียวกันกับการออกอากาศในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

เป็นละครญี่ปุ่นที่ดูสนุกอีกเรื่องหนึ่ง ด้วยการสร้างเรื่องราวที่ใกล้เคียงความเป็นจริงของสังคม พระเอกอาจจะแก่ไปหน่อย ถ้าเทียบกับพระเอกหน้าใสปิ๊งของเกาหลี ส่วนนางเอก ยูกิ อามามิ ที่สวยงาม ดูสง่า เหมาะกับบทในเรื่องนี้มาก

ตัวละครที่ชอบมากคือ มิโดริโกะ คิมูระ จาก Gouchisousan ที่แสดงเป็นน้าเทรูโนะ ได้ชมการแสดงของมิโดริโกะมาหลายเรื่อง ทั้งบทร้าย บทดี เธอตีบทแตกทุกบทบาทการแสดง

ดูเหมือนว่า การแต่งงานอาจไม่ใช่คำตอบสำหรับคนโสดคนเหงา อย่างที่บล็อกคำคมคนโสดเขียนไว้ว่า “ความเหงาก็เหมือน 4G ครอบคลุมทุกพื้นที่ แม้แต่ 4 ห้องหัวใจ…”