คำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เปิดเฟซบุ๊ค Page Ir เพื่อเป็น “กระบอกเสียง” ให้กับ “รัฐบาล”

ทรงความหมายเป็นอย่างสูง

เหมือนกับคำบัญชาผ่านไปทาง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ให้จั้ดตั้ง “ศูนย์เรื่องราวร้องทุกข์” ของประชาชน

เป็นอีกช่องทาง 1 นอกเหนือจาก “ศูนย์ดำรงธรรม”

เหมือนกับมติครม.ให้แต่ละรองนายกรัฐมนตรีจัดตั้ง “โฆษก” เพื่อดำเนินการแถลงข่าว

เหมือนกับคำบัญชาให้แต่งตั้ง “โฆษก” ประจำกระทรวง

เท่ากับเป็นรูปธรรมแห่งการขยายบทบาทการประชาสัมพันธ์ ของภาครัฐให้แผ่กว้างเหมือนตาข่ายแมงมุม

แต่โครงการใหม่พุ่งไปยัง “ออนไลน์”

 

หากศึกษาแถลงในเชิงอธิบายขยายความจาก พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ก็จะมีความกระจ่างยิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะมองในด้านใด

1 ด้านอันเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 1 ด้านอันเป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์

เป้าหมายใหม่พุ่งไปยัง “คนรุ่นใหม่”

“ปัจจุบัน คนต้องทำงานมากขึ้นจึงใช้เวลาอยู่กับวิทยุและโทร ทัศน์น้อยลง ส่วนใหญ่ต่างก็เสพสื่อผ่านโซเชียลมีเดียที่ปรากฎบนโทรศัพท์มือถือ”

ความหมายก็คือ คนฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์น้อยลง

แม้ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ไม่เอ่ยถึง “หนังสือพิมพ์” ก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจ

เพราะเป้าหมายแท้จริงอยู่ที่ “นิวมีเดีย”

 

สถานการณ์และความตื่นตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงเป็นความจริงที่สามารถตระหนักได้

เท่ากับกระบวนการเดิมในวิทยุ ในโทรทัศน์ เริ่มมีปัญหา

ไม่ว่าจะเป็นทุกวันในเวลา 18.00 น. ไม่ว่าจะเป็นทุกวันศุกร์ในเวลาอันถือว่า “ไพรม์ไทม์”

นั่นก็คือ “เรตติ้ง” ตกลงเป็นลำดับ

จำเป็นที่จะต้องหันหัวเรือไปยัง “นิวมีเดีย” จำเป็นที่จะต้องเน้นอย่างหนักแน่นไปยัง “ออนไลน์”

เน้นยุค”ดิจิตัล” เน้น”ไทยแลนด์ 4.0″