เผยแพร่ |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
——————-
ลบความทรงจำแย่ๆ
——————-
เห็น”การตื่น”ขึ้นมา ทำงานในเชิงรุกมากขึ้นของ รัฐบาล ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รวมไปถึง กองทัพ
ก็หวังว่า นี่จะเป็น ความทรงจำดีๆ(บ้าง) หลังจาก มีความทรงจำร้ายๆมานาน
แต่ถามว่า หวังมากไหม ก็คงบอกว่าไม่ เพราะดูแล้ว ที่”ตื่น”ขึ้นไม่ได้ตาสว่างสักเท่าไหร่
ย้อนไปอ่านข่าว การประชุมประคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบศ. เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวในที่ประชุม สรุปเป็นประเด็นได้ดังนี้
1) การออกมาพูดของผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมเป็นนิมิตหมายที่ดี ทั้งการชี้แจงในเรื่องของวัคซีน และออกมาขอโทษประชาชน รวมทั้งการเข้าร่วมกับโคแวกซ์ ในปี 2565
2) จากนี้ขอให้กระทรวงสาธารณสุข สธ.ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้เข้าใจมากขึ้นอย่าให้มีบิดเบือน
3)กระทรวงสาธารณสุข และ กทม.ต้องร่วมมือบูรณาการงานเชิงรุกไม่มีการโทษกันไปมา
4)ต้องไม่ให้เห็นภาพผู้ป่วยนอนเสียชีวิตริมถนนอีก ต้องช่วยกันหาเตียง และพาผู้ป่วยเข้ารับการรักษาโดยเร็ว
อ่านผิวเผินแล้วน่าจะสร้าง ความ”ทรงจำ”ดี-ดี”ในจิตใจชาวบ้าน
แต่พิจารณาให้ดีแล้ว ดูจะสร้าง ความทรงจำแย่-แย่ มากกว่า
ต้องไม่ลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์ พูด ในฐานะที่สวมหมวกอำนาจ 4 ใบ
ในฐานะ นายกฯ ในฐานะ รมต.กลาโหม ในฐานะ ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ในฐานะ ผู้อำนวยศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 กรุงเทพและปริมณฑล
ครบสมบูรณ์ทั้ง ผู้นำนโยบาย และ ผู้นำการปฏิบัติ
แต่สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์พูด ใน “ศบศ.”ดูเหมือน “ล่องลอย”อยู่บนดาวอังคารอย่างไรพิกล
เรื่อง วัคซีน ที่ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ต้องขอโทษชาวบ้าน ก็เป็นเรื่องของผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ที่ดูเหมือนจะไม่ได้อยู่ในการรับรู้หรือตัดสินใจร่วมของพล.อ.ประยุทธ์เลย
รวมถึงการให้กระทรวงสาธารณสุข -กทม.ไปร่วมมือกันชี้แจงชาวบ้าน อย่าโทษกันไปมานั้น ก็ชวนให้ตั้งคำถามว่า มันไม่เกี่ยวกับคนที่นั่งหัวโต๊ะเลยหรือ
ยิ่ง มาถึง คำสั่ง “ต้องไม่ให้เห็นภาพผู้ป่วยนอนเสียชีวิตริมถนนอีก”
ยิ่งเห็นภาวะ “ลอยตัว”
เพราะทั้งในฐานะ ผู้อำนวยการ ศบค.ระดับชาติ และศบค.กทม. ซึ่งคือ”หน่วยปฏิบัติงาน”
ต้องประชุมหารือ หรือ”สุมหัว”กันแล้วว่า จะปฏิบัติ หนึ่ง สอง สาม อย่างไร
มิใช่เพียงออกมาพูดอย่างเดียว
ผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 กรุงเทพและปริมณฑล ต้องสั่งการแล้วจะทำอย่างไร
จะปล่อยให้การเก็บศพ เป็นเพียงเรื่องของ มูลนิธิ หรือ งานอาสาสมัคร ไม่ได้อีกแล้ว
ในฐานะรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ จะต้องมียุทธศาสตร์ไปรับมือ มหาวิกฤตอย่างไร
คนป่วยติดบ้าน คนตายข้างถนน ไม่อาจจะอาศัยเพียงแรงชุมชน หรืออาสาสมัคร ได้อีกแล้ว
ทหาร ตำรวจ จะต้องเข้ามาแบ่งเบารับหน้าที่นี้
ซึ่งก็ดีแล้วที่เริ่มขยับ
แต่ต้อง มิใช่เรื่อง “เฉพาะกิจ”อีกต่อไป
นี่คือ ภาวะสงครามรูปแแบใหม่
ยุทธศาสตร์ชาติที่อ้างๆได้เป็นเข็มทิศนำทางบ้างหรือไม่
อย่า ให้ ตำรวจ อยู่ในความทรงจำชาวบ้านแค่เก่งแต่ ฉีดน้ำ ยิงกระสุนยาง ใช้ก๊าซน้ำตา เข้าใส่ผู้ประท้วงรัฐบาล
อย่า ให้ ทหาร อยู่ในความทรงจำแย่ๆว่า คิดแต่ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ใหญ่โต
แต่ไม่อาจสู้หรือทำสงครามกับ”เชื้อโรค” ที่เป็นความมั่นคงใหม่(ที่แทบจะยังไม่ได้เตรียมรับมือเอาไว้เลย)
ผู้นำดีๆ ต้องลบภาพความทรงจำแย่ๆนี้ออกไป
โดยเริ่มจากการ “ไม่ลอยตัว”