สถานีคิดเลขที่12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
——————-
หวังเหวิด
——————–
ความคาดหวังที่จะให้ มหาอำนาจ อย่างสหรัฐ มาช่วยประแป้งแต่งตัวให้รัฐบาลรัฐประหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดูดีขึ้น ในสายตาชาวโลกและชาวไทย
ด้วยอีเวนต์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบปะ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ในทำเนียบขาว
ตามคำเชิญของผู้นำสหรัฐ ที่ผู้นำไทยยิ้มรับด้วยความยินดี
หลับตานึก รัฐบาลไทยแถลงในวาระเข้ามาบริหารงานครบ 3 ปี ด้วยการที่ สหรัฐและผู้นำ อ้าแขนรับ จะ “หล่อ” ขนาดไหน
แต่  ณ ตอนนี้ ตีความตามคำพูดของ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ แล้ว
ความหวัง มีโอกาสเป็น”หวังเหวิด”สูง

โดยเฉพาะ ความคาดหมายแรกที่ว่าการพบปะจะมีขึ้น ในวันที่ 19 กรกฏาคม คงเป็นไปไม่ได้แล้ว
ส่วน เดือนสิงหาคม ก็คงเช่นกัน เพราะนายดอนบอกว่า เป็นช่วงพักร้อนของชาติตะวันตก
และยังออกตัว ว่า(การพบปะ)จะเกิดขึ้นภายในปีนี้หรือไม่ คงตอบไม่ได้
เพราะทั้งสองฝ่ายเห็นว่าควรเตรียมการให้พร้อม ไม่ใช่เร่งรีบ ฉุกละหุกจนตกหล่นไม่สมบูรณ์
สรุปง่ายๆตอนนี้ ยังไม่มี”นัดหมาย”อันแน่นอนและเป็นทางการ
เพียงแต่ปลอบใจตัวเองได้ว่า “คำเชิญ”ของผู้นำสหรัฐยังอยู่ ไม่ได้ถูกยกเลิก –นี่คือการมองบวกที่สุดตอนนี้
แต่ว่าที่จริงๆ แล้ว ก็ไม่ควรไปตั้งความหวังไว้มาก
เพราะตอนนี้ ผู้นำสหรัฐเองกำลังเผชิญ”เฮอร์ลิเคนการเมือง”ที่ว่ากันว่ารุนแรง ระดับ 5เลยทีเดียว
และไม่ใช่เฉพาะตัวนายทรัมป์เท่านั้น
ยังเกี่ยวพันไปถึงทั้งลูกสาว ลูกชาย  ด้วย
ลูกสาว ก็คงเป็นเสียงวิจารณ์อื้ออึง  ระหว่างการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือจี 20 ที่เมืองฮัมบูร์ก เยอรมนี
ที่นายทรัมป์ให้ “อิวานก้า” ลูกสาว ไปนั่งประชุมบนเก้าอี้ของตนเอง ระหว่างที่ลุกออกไปเจรจาทวิภาคีกับผู้นำชาติอื่น
แม้อิวานก้า จะมีตำแหน่ง เป็นที่ปรึกษาประธานาธิบดี แต่”พฤติกรรม”ที่ปรากฏต่อหน้า ผู้นำ กลุ่ม จี 20 นำไปสู่คำถามถึงความเหมาะสม ว่านี่คือการประชุมระดับโลก
ไม่ใช่เรื่องของครอบครัว ที่จะทำอะไรตามใจชอบก็ได้
อับอายขายหน้ากันไปทั้งประเทศ
และในเวลาต่อมา ก็ถึงคิวของลูกชาย  “โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์”
เมื่อถูกสื่อเปิดโปงว่า ได้พบปะพูดคุยกับ “นาตาเลีย เวเซลนิตสกายา” ทนายความหญิงชาวรัสเซียที่กล่าวอ้างว่าเธอมีข้อมูลส่วนหนึ่งจากรัฐบาลรัสเซียที่จะสร้างความเสียหายให้กับนางฮิลลารีได้ มามอบให้
ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ก็กระโดดงับ
ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกมา ก็ร้อนฉ่าไปทั้งเมือง
เพราะต้องไม่ลืมว่า ขณะนี้กระทรวงยุติธรรมและสภาคองเกรสของสหรัฐ กำลังสอบสวนกรณีที่มีการกล่าวหาว่ารัสเซียเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐ อันเป็นผลให้ “โดนัลด์ ทรัมป์” คว้าชัยเหนือ “ฮิลลารี คลินตัน” คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต จนได้เป็นประธานาธิบดี
เรื่องของ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ จึงเหมือนเป็น”ใบเสร็จ”มัด
และนับจากเกิดคดีวอเตอร์เกต สหรัฐได้ออกกฎหมายห้ามรับการสนับสนุนช่วยเหลือทั้งทางตรงและทางอ้อมจากต่างชาติที่มีต่อการเลือกตั้งสหรัฐ ซึ่งการรับบริจาคเงินหรือสิ่งมีค่าใดๆ
ที่หมายรวมถึง “ข้อมูล” ด้วย ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ซึ่งตรงนี้อาจทำให้ “นายทรัมป์”เหนื่อยหนัก ยิ่ง เมื่อรวมถึงประเด็นอื้อฉาวอื่นด้วยแล้วคงแทบไม่มีสมาธิที่จะพิจารณาๆเรื่องอื่น
รับปากอะไรไว้กับผู้นำไทยแลนด์ไว้ อาจจะลืมไปแล้ว
ทั้งที่ทางนี้ ใจจด ใจจอ รออย่างกระวนกระวาย ด้วยไม่อยาก”หวังเหวิด”
——————-

ติดตามรับชมคลิปวิเคราะห์ กรรีบิ๊กตู่-ทรัมป์ + สัมภาษณ์ นักอเมริกันศึกษาได้จากคลิปด้านล่างนี้