เมื่อ ‘ทหารเสือฯ’ อับแสง
‘บิ๊กแดง’ วงศ์เทวัญ ก็ฉายโชน
แคนดิเดตยกธงขาว
กับปฏิบัติการเสียบยอด-ข้ามห้วย
และศึกชิงเลขาฯ สมช.

การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการคึกคัก แถมโยงเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร ในทุกทิศทาง ในยุครัฐบาลทหารเช่นนี้
โดยเฉพาะปฏิบัติการ ทหารเสียบยอด… ทั้งเสียบนอกกองทัพ และข้ามห้วยข้ามเหล่า
กระแสต้านในสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เกิดขึ้นทันทีที่มีชื่อ พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม (ผอ.สนผ.กห.) จะข้ามมาเป็นเลขาธิการ สมช.คนใหม่ แทน บิ๊กแอ๊ว พล.อ.ทวีป เนตรนิยม ที่จะเกษียณราชการกันยายนนี้
ด้วยเพราะมี “ท่านเกลี้ยง” นายสมเกียรติ ศรีประเสริฐ รองเลขาฯ สมช. จ่อเป็น “เต็งหนึ่ง” ของคนใน ที่จะขึ้นนั่งเลขาฯ สมช.พลเรือน อยู่แล้ว
เพราะหากนายสมเกียรติขยับ คนใน สมช. ก็จะได้ขยับกันตามๆ ไป แบบที่เรียกว่า flow หลังจากที่ขยับกันไม่ออกในช่วง 2 ปีที่ พล.อ.ทวีป มาเป็นเลขาฯ สมช.
จึงไม่แปลกที่ครั้งนี้จะมีแรงหนุนนายสมเกียรติ ออกมาชัดเจน เพราะเป็นลูกหม้อที่ทำงานมายาวนาน แถมทั้งทำงานเรื่องชายแดน และทำงานร่วมกับทหารมาตลอด จนแทบจะกลายเป็นทหาร จนนายทหารบางคนยังเผลอเรียก “ท่านรองเกลี้ยง” ว่า “บิ๊กเกลี้ยง” ไปเลยก็มี
โดยเฉพาะการเป็นเพื่อนรักร่วมรุ่น วปอ.54 ของ บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. และเลขาธิการ คสช. อีกด้วย
 อีกทั้ง พล.อ.ทวีป เองก็เป็นเพื่อน ตท.16 ของ พล.อ.เฉลิมชัย ด้วยเช่นกัน

ดังนั้น เมื่อมีชื่อของ พล.อ.วัลลภ จะข้ามห้วยจากกลาโหม มาเสียบเป็นเลขาฯ สมช. จึงเกิดแรงต้านเลขาฯ สมช.ทหาร ขึ้นมา
เพราะมองว่าเป็นการแก้ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายทหารที่ไม่ลงตัวหรือไม่ เพราะตามไลน์ของ พล.อ.วัลลภ นั้น จะต้องขึ้นเป็นรองปลัดกลาโหม ครองอัตราจอมพล ในปีสุดท้าย ก่อนเกษียณกันยายน 2561
แต่เพราะ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จำต้องเตรียมเก้าอี้รองปลัดกลาโหมไว้รองรับบิ๊กๆ ทหารอีกหลายคนจากหลายเหล่าทัพ
แม้ว่าโยกย้ายคราวนี้ รองปลัดกลาโหมทั้ง 4 คน จะเกษียณราชการพร้อมกันก็ตาม
แต่ความจริงแล้ว พล.อ.วัลลภ ก็ถือว่าเป็นนายทหารที่มีความสามารถของ ตท.18 และเติบโตมาสายยุทธการมาตลอด ตั้งแต่อยู่กรมยุทธการ ทบ. จนมาเป็นเจ้ากรมยุทธการทหาร ที่ บก.กองทัพไทย ก่อนข้ามมาเป็น ผอ.สนผ.กห. หรือที่เรียกกันว่า “เสนาธิการกลาโหม”
แต่ก่อนหน้านั้น ก็รบในพื้นที่ชายแดน ทั้งภาคเหนือและอีสาน ในศึกปราบปรามคอมมิวนิสต์ และเคยเป็นอาจารย์โรงเรียนเสนาธิการทหารบก และเป็นผู้ช่วยทูตทหารบกไทยประจำกรุงพนมเปญ กัมพูชา
 แต่ที่น่าจับตามองที่สุดคือ ทั้ง พล.อ.วัลลภ และนายสมเกียรติ ต่างเป็นเพื่อนเรียน วปอ.54 รุ่นเดียวกัน

ที่สำคัญคือ พล.อ.ประวิตร ไม่ปฏิเสธข่าวที่ว่าจะดันทหารข้ามมาเป็นเลขาฯ สมช. และความจำเป็นที่จะต้องมีคนที่ทำงานความมั่นคงรอบด้าน ในตำแหน่งนี้ต้องเป็นทหารอีกด้วย
เพราะก่อนหน้านี้ มีชื่อของนายทหารหลายคนถูกเสนอให้มาเป็นเลขาฯ สมช. เช่น บิ๊กเจอร์รี่ พล.ท.ดร.ธนเกียรติ ชอบชื่นชม ผบ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) บก.กองทัพไทย ที่เป็นนายทหารที่เติบโตมาด้านการข่าวตลอด และได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้า CIA เมืองไทย
แต่คาดกันว่า พล.ท.ดร.ธนเกียรติ เตรียมเข้าไลน์ที่จะเป็น ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.)
ส่วน บิ๊กบอล พล.ท.นักรบ บุญบัวทอง อดีตเลขานุการคณะพูดคุยสันติสุข นั้น ก็มีชื่ออยู่ในข่าย เพราะเป็นนายทหารที่ทำงานความมั่นคง ใน กอ.รมน. มายาวนาน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ จนที่สุดมาเป็นแกนหลักในการพูดคุยสันติสุข จนมีความสนิทสนมใกล้ชิด เข้าถึงกลุ่มก่อความไม่สงบ Marapatani อย่างมาก

แต่ พล.อ.วัลลภ ถือว่ามีน้ำหนักมากที่สุด แม้ว่าเจ้าตัวจะยังไม่เคยรู้ตัวเลยว่ามีชื่อไปชิงเก้าอี้เลขาฯ สมช. ก็ตาม เพราะถือว่าเป็นนายทหารที่ทำงานเสมือนเลขาฯ พล.อ.ประวิตร มาตั้งแต่เป็น รมว.กลาโหม ในรัฐบาล คสช. เลยทีเดียว
แต่ก็ต้องไม่มองข้ามพลังภายในของ นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาฯ สมช. ที่วันนี้เป็นที่ปรึกษาของ พล.อ.ประวิตร ในฐานะรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ที่มีส่วนในการหนุนให้ท่านหนุ่ย นายอนุสิษฐ์ คุณากร รองเลขาฯ สมช. ได้ขึ้นเป็นเลขาฯ สมช. มาแล้ว ในยุครัฐบาลทหาร รัฐบาล คสช. นี่สะท้อนให้เห็นว่า พล.อ.ประวิตร เตรียมวางตัวบิ๊กทหารใกล้ชิดให้เสียบเป็นรองปลัดกลาโหม
ทั้งนี้เพราะเก้าอี้รองปลัดกลาโหม ว่างทั้ง 4 ตัว แต่ทว่า ก็เป็นโควต้าของ ทบ., ทร. และ ทอ. ที่จะส่งมา 3 คน ส่วนคนที่ 4 จะเป็นโควต้าเหล่าทหารบก ในสังกัดสำนักปลัดกลาโหม
จึงคาดกันว่า พล.อ.ประวิตร จะเตรียมไว้รองรับนายทหารน้องรักหลายคน ให้เป็นอัตราจอมพล ก่อนเกษียณ
 แม้แต่การเตรียมไว้รองรับ บิ๊กณัฐ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม น้องรัก ที่ใกล้ชิดที่สุด

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า พล.อ.ประวิตร จะส่ง พล.อ.ณัฐ น้องเลิฟ ที่รักเสมือนลูกชาย ข้ามไป บก.กองทัพไทย ไปเสียบเป็น รอง เสธ.ทหาร หรือเสนาธิการทหาร เพื่อให้รอจ่อเป็น ผบ.ทหารสูงสุด คนต่อไปในอนาคต
ด้วยเพราะ พล.อ.ณัฐ เป็นเตรียมทหารรุ่น 20 ที่มีอายุราชการถึงปี 2564 ที่มาจ่อรอขึ้นได้
แต่ทว่าที่ บก.ทัพไทย ก็มีการวางตัว บิ๊กกบ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี รอง เสธ.ทหาร (เตรียมทหาร 18) ไว้ให้ขึ้นเป็น เสธ.ทหาร ในโยกย้ายครั้งนี้ เพื่อรอขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุดในอนาคต ต่อจาก บิ๊กต๊อก พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ เสธ.ทหาร ที่จะขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ในโยกย้ายครั้งนี้
เรียกได้ว่า ถ้า พล.อ.ณัฐ ข้ามห้วยมาเป็น รอง เสธ.ทหาร จ่อไว้ก่อน ในโยกย้ายครั้งนี้ ก็รอคิวโตต่อจาก พล.อ.พรพิพัฒน์ ที่จะเกษียณกันยายน 2562 ได้เลย เพราะบิ๊กณัฐมีอายุราชการถึงกันยายน 2564
เพราะเชื่อกันว่า พล.อ.ณัฐ คงจะไม่กลับไปเติบโตใน บก.ทบ. ไม่กลับไปแข่งกับเพื่อนรัก ตท.20 อย่าง บิ๊กแดง พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ที่เชื่อกันว่า “นอนมา” ที่จะขึ้นห้าเสือ ทบ. เป็น ผช.ผบ.ทบ. เพื่อจ่อเป็น ผบ.ทบ. คนต่อไป
 แถมยังมี บิ๊กตู่ พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพน้อยที่ 1 ที่คาดว่าจะขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ในโยกย้ายคราวนี้ แล้วก็ขึ้นเป็นแผงอำนาจ ตท.20 ใน ทบ. ร่วมกับ บิ๊กเล็ก พล.ท.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รอง เสธ.ทบ. ที่คาดว่าจะขึ้นเป็น เสธ.ทบ. อีกคนหนึ่งด้วย

ขณะที่เก้าอี้ห้าเสือ ทบ. ในโยกย้ายคราวนี้ ดูจะเกิดปรากฏการณ์แปลกตรงที่ ระดับแม่ทัพภาค และเทียบเท่า มีสิทธิ์ชิงเก้าอี้ด้วยกันทั้งสิ้น แต่ดูเหมือนจะมีหลายคนถอดใจ และขอสละสิทธิ์ในการต่อสู้กันไปหลายคน
ด้วยรู้กันดีว่า พล.ท.อภิรัชต์ ว่าที่ ผบ.ทบ. ในอนาคต จะขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทบ. แน่ โดยมี บิ๊กแช พล.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 ขึ้นมาเป็น ผช.ผบ.ทบ. อีกคนก็เต็มแล้ว
จึงทำให้มีข่าวว่า บิ๊กตี๋ พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมที่จะเสียสละ นั่งเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 ต่อไป ดีกว่าขึ้นมาเป็น พลเอก ที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. ลอยๆ ไป 1 ปี ก่อนเกษียณ แต่ทำงานในพื้นที่ต่อดีกว่า
ในอีกมุมหนึ่ง เสมือนว่า พล.ท.วิจักขฐ์ จะรู้ตัวดีว่า พลังภายในจะสู้แม่ทัพคนอื่นๆ ไม่ได้ ในการที่จะชิงเก้าอี้ 5 เสือ ทบ. แถมเขาเกษียณราชการกันยายน 2562 หากขึ้นมาเป็นห้าเสือ ทบ. ก็มีสิทธิ์ชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ. กับ พล.ท.อภิรัชต์ ด้วย
แต่ทว่า ก็ไม่มีใครอยากจะชิงเก้าอื้ ผบ.ทบ. กับ พล.ท.อภิรัชต์ เพราะรู้กันว่า เป็น “วงศ์เทวัญ” เต็งหนึ่งเดียว และถูกวางตัวไว้แล้ว ทั้งจาก บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. รวมทั้งมีสายสัมพันธ์ในทุกทิศทาง แบบที่เรียกว่า พร้อมสรรพ
แม้แต่ พล.ท.วิชัย แม่ทัพภาคที่ 2 นายทหารรุ่นพี่ ตท.17 ที่แม้จะเกษียณ 2562 แล้วขึ้นมาเป็นห้าเสือ ทบ. ก็รู้ตัวดีว่า ไม่อาจชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ. กับ พล.ท.อภิรัชต์ ได้เลย ยกเว้นมีปาฏิหาริย์ หรือ พล.ท.อภิรัชต์ ทำอะไรผิดพลาดด้วยตนเอง
เช่นเดียวกับ บิ๊กอาร์ท พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ที่ก็อาสาที่จะเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ช่วยแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ต่อไป ไม่ขอขึ้นมาชิงเก้าอี้ห้าเสือ ทบ. ใดๆ
แม้ว่าจะมีแรงผลักดันให้ พล.ท.ปิยวัฒน์ ลุกไปเป็น พลเอก เพื่อที่จะเปิดทางให้นายทหารคนอื่นขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 แทนก็ตาม
แต่อย่าลืมว่า พล.ท.ปิยวัฒน์ นอกจากมีผลงานทุ่มเทแล้ว ยังเป็นน้องชายแท้ๆ ของ บิ๊กหมู พล.อ.ธีรชัย นาควานิช องคมนตรีและอดีต ผบ.ทบ. ที่ก็เป็นน้องรักของ พล.อ.ประวิตร เช่นกัน หนุนอีกแรง
 เรียกได้ว่า ทั้ง พล.ท.วิจักขฐ์ และ พล.ท.ปิยวัฒน์ เพื่อนรัก ตท.18 ด้วยกัน พร้อมที่จะนั่งเก้าอี้ตัวเดิม เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาไม่ต้องหนักใจในการตั้งนายทหารคนอื่นเป็น พลเอก แทนไปเลย

ขณะที่การแต่งตั้งปลัดกระทรวงต่างๆ กำลังงวดเข้ามา เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการให้การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเสร็จภายในสิงหาคมนี้ ที่มีการย้ายข้ามห้วย ข้ามกระทรวงกันนั้น
แต่ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นการโยกย้ายในส่วนของกระทรวงกลาโหม
แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะยืนยันว่า จะไม่มีการย้ายข้ามห้วย ยกเว้นต้องมีเหตุผลจริงๆ แต่สำหรับปลัดกลาโหมแล้ว จำเป็นต้องข้ามห้วย เพราะนายทหารระดับรองปลัดกลาโหม เกษียณราชการพร้อมกันหมด
จึงต้องมีการนำเข้า “คนนอก” โดยเฉพาะจากกองทัพบก ให้ข้ามมาเป็นปลัดกลาโหมแทน บิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ที่จะเกษียณ
ที่บรรดานายบูรพาพยัคฆ์ เชื่อว่า บิ๊กเข้ พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ผช.ผบ.ทบ. เป็นเต็งหนึ่ง
แต่ทว่า บรรดานายทหารม้า ก็หนุน บิ๊กต้อ พล.อ.สสิน ทองภักดี เสธ.ทบ. กันเต็มที่
โดยมีกระแสข่าวแปลกๆ ออกมาคล้ายๆ กันคือ ทั้งคู่ต่างไม่อยากแข่งขัน แต่สมัครใจที่จะอยู่ บก.ทบ. ต่อไป นั่นหมายถึง การเป็น รอง ผบ.ทบ. และครองอัตราจอมพล ก่อนเกษียณราชการกันยายน 2561
แต่ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว ต่างคนต่างก็มีความหวัง…
 ไม่แค่นั้น ยังมีข่าวลือต่างๆ ออกมาอีกหลายเรื่อง เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร อาจต้องคิดหนัก และเช็กข่าวก่อนจะเสนอชื่อ พล.อ.เทพพงศ์ เป็นปลัดกลาโหม

แต่สายทหารเสือราชินี และบูรพาพยัคฆ์ แม้จะยอมรับว่ายุคของทหารเสือฯ และบูรพาพยัคฆ์ จะค่อยๆ อับแสงลง นับจากนี้ไปก็ตาม แต่ทว่า ก็จะค่อยเป็นค่อยไป
เพราะตราบใดที่ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และ บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แผงอำนาจ 3 ป. ทหารเสือราชินีและบูรพาพยัคฆ์ ก็จะยังอยู่ แม้ว่าจะขึ้นถึงยุคเฟื่องฟูที่สุด หรือยุคทองมาแล้วก็ตาม
อีกทั้ง พล.อ.เทพพงศ์ ก็เป็นนายทหารเสือฯ และบูรพาพยัคฆ์ ที่เป็นน้องรักที่แสนดีของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร และพร้อมที่จะทำงานเต็มที่ในปีสุดท้ายของชีวิตรับราชการทหาร
ในเวลานี้ ทุกอย่างจึงดูเหมือนจะหลบหลีกทางให้ พล.ท.อภิรัชต์ ได้ขึ้นมาฉายโชนแสง เพื่อเตรียมตัวที่จะเป็น ผบ.ทบ. คนต่อไป พร้อมภารกิจที่แสนสำคัญหนักหน่วงอยู่เบื้องหน้า
ในฐานะของนายทหารวงศ์เทวัญ ที่เป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้า และสายสัมพันธ์ คอนเน็กชั่น เป็นใจ ในทุกทิศทาง
ท่ามกลางข่าวลือในหมู่ทหารแตงโม ที่รอดูความเป็นไปของรัฐบาลและกองทัพ ในอีกไม่ช้านี้
 ด้วยเพราะไม่มีใครรู้ได้ว่า มีสิ่งใดรออยู่เบื้องหน้า…