ยานยนต์ สุดสัปดาห์ / สันติ จิรพรพนิต/’MG5′ คูเป้ซีดาน-สวยแจ่ม รวม ‘ดีเอ็นเอ’ ยอดรถยุโรป

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

‘MG5’ คูเป้ซีดาน-สวยแจ่ม

รวม ‘ดีเอ็นเอ’ ยอดรถยุโรป

 

บอกตามตรงว่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อยเมื่อเห็นโฉมหน้าชัดๆ ของ “เอ็มจี 5” ใหม่ (ALL NEW MG5) เก๋งรุ่นล่าสุดจากเอ็มจี

ยิ่งเมื่อทราบทิศทางการทำตลาดว่าจะลดน้ำหนักลงมาฟัดกับ “อีโคคาร์” หรือกลุ่มซับคอมแพ็กต์ โดยตั้งใจทำราคาไม่หนีกับเจ้าตลาดอย่าง “ฮอนด้า ซิตี้” หรือ “นิสสัน อัลเมร่า” หรือ “โตโยต้า วีออส” ก็ยิ่งอึ้งเข้าไปอีก

เพราะจริงๆ โดยเซ็กเมนต์ของ “เอ็มจี 5” ที่เข้ามาทำตลาดในไทยใหม่ๆ นั้น ขนาดตัวถัง น่าจะอยู่ระดับ “ซี-เซ็กเมนต์” หรือกลุ่มรถฮอนด้า ซีวิค, โตโยต้า อัลติส

แต่ด้วยช่วงที่เปิดตัวใหม่ๆ ยากที่จะโค่นเจ้าตลาดลงได้ แม้จะทำราคาค่อนข้างต่ำก็ตาม

ท้ายที่สุดเอ็มจีตัดสินใจเน้นที่กลุ่มเอสยูวี ซึ่งสร้างยอดขายให้เป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี แทบเป็นเจ้าตลาดด้วยซ้ำ

เนื่องจากราคาไม่สูงมาก แถมอัดออปชั่นเต็มพิกัด

ส่วนตลาดเก๋งทั้งเอ็มจี 5 หรือเอ็มจี 3 ไม่ได้เน้นเท่าไหร่

กระทั่งในช่วงกลางปีนี้ เอ็มจีขอกลับมาแชร์ส่วนแบ่งตลาดเก๋งเมืองไทยอีกครั้ง ด้วยรุ่นธง “เอ็มจี 5” แต่ลดพิกัดลงมาแข่งกับรถอีโคคาร์ และซับคอมแพ็กต์

 

ออกแบบสไตล์สปอร์ตคูเป้ซีดาน ในนิยาม “BEYOND” ภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ซึ่งเป็นการออกแบบบมาตั้งแต่รุ่นแรกๆ

ภายนอกนี่บอกเลยว่ามีดีเอ็นเอของรถยุโรปหลากหลายยี่ห้อมารวมกัน เรียกว่ามองผาดๆ อาจเข้าใจผิดได้

แต่เป็นการนำมารวมกันที่ลงตัวอย่างมาก เรียกว่าแจ่มว้าวสุดๆ

กระจังหน้าขนาดใหญ่แบบ 3 มิติ Digital Burning Grille เอกลักษณ์การออกแบบใหม่ล่าสุดของเอ็มจี เหนือโลโก้ขนาดใหญ่ติดกล้องด้านหน้ามาด้วย

ไฟหน้าเรียวเล็กแบบ LED Projector เปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน

มองผ่านๆ ให้อารมณ์รถยุโรปที่ “สายลับ 007” เจมส์บอนด์ เคยใช้เป็นพาหนะในหนังบางภาค

ต่ำลงมาด้านซ้าย-ขวา เป็นช่องดักลมช่วยในเรื่องแอร์โร่ไดนามิกส์

รุ่นท็อปจัดชุดแต่งรอบคันมาให้ด้วย

เส้นสายฝากระโปรงหน้าและด้านข้างดูลื่นไหลและมีเหลี่ยมมุมพลิ้วไหว

แม้แต่กระจกมองข้างที่ปกติจะเห็นแต่แบบเรียบๆ แต่สำหรับเอ็มจี 5 ออกแบบมีมิติมากขึ้น

ยิ่งเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นหลังคาด้านหลังลาดลงไปสไตล์คูเป้

มุมมองด้านหลังให้อารมณ์รถยุโรปจากเยอรมนี โดยเฉพาะรูปทรงไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ Leopard Claw และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED

มีดิฟฟิวซอร์และท่อไอเสียทรงเหลี่ยม 2 ท่อ แต่เป็นท่อหลอก เพราะท่อไอเสียจริงๆ อยู่ใต้ท้องรถ

ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลายใบพัด 5 ก้าน

 

ภายในออกแบบหลากหลายตามสีภายนอก แต่มีอารมณ์สปอร์ตสุดๆ แผงคอนโซลแบบ 3D Diamond Design ดูมีมิติมากขึ้น ดีไซน์คอนโซลกลางแบบ DRIVER-FOCUS COCKPIT ที่เหมาะสมกับตำแหน่งคนขับ

พวงมาลัย 3 ก้านท้ายตัดแบบ Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) ปรับน้ำหนักได้ 3 ระดับพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น

หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว

ตรงกลางเป็นหน้าจอ Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ตโฟนระบบ Android ลำโพง 6 จุด

ช่องแอร์ตรงกลางขยับลงมาต่ำเล็กน้อย แต่ดีเพราะจะไม่เป่าเข้ามือซ้ายผู้ขับขี่ แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความเย็นเพราะเจาะช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังให้ด้วย

ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล หรือระบบกรองอากาศ PM 2.5

เบาะหนังทรงสปอร์ตเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ซึ่งเห็นไม่เยอะนักในรถระดับอีโคคาร์

หัวเกียร์แบบสั้นดูสปอร์ต มีออโต้เบรกโฮล และเบรกมือไฟฟ้ามาให้ด้วย

หลังคา Sunroof

ภาพรวมบอกได้เลยว่าให้อารมณ์สปอร์ตหรูหรา

มิติตัวถังขนาดใหญ่ (กว้าง x ยาว x สูง) 1,842 x 4,675 x 1,480 มิลลิเมตร ระยะความยาวฐานล้อ 2,680 มิลลิเมตร เหนือกว่ารถในกลุ่มอีโคคาร์ และบีเซ็กเมนต์ทั้งหมด

ทั้งยังมากกว่าฮอนด้า ซีวิค ด้วยซ้ำ

ทำให้ภายในดูกว้างขวางมีพื้นที่เหนือศีรษะ (Headroom) ที่สูงโปร่ง

 

แม้จะลดน้ำหนักลงมาเล่นกับกลุ่มอีโคคาร์ แต่ด้วยไม่ได้เข้าโครงการของรัฐบาล ทำให้เอ็มจียัดเครื่องยนต์ของ “เอ็มจี แซดเอส” มาใส่แทน เป็นแบบเบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที

ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด

ระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัตพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังทอร์ชั่นบีม

ระบบความปลอดภัยจัดมาเต็ม โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF (Full Space Frame) พร้อม Synchronized Protection System ระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป ผสานการทำงานเป็นหนึ่งเดียว

อาทิ ระบบระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)

ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)

ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning) เป็นต้น

กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง

ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)

 

พลาดไม่ได้เมื่อพูดถึงเอ็มจี คือระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ “i-SMART” รุ่นล่าสุด พร้อมเทคโนโลยี Digital Key

สามารถใช้งานรถผ่านกุญแจดิจิตอลโดยรับ-ส่งโค้ดจากแอพพลิเคชั่น i-SMART สั่งเปิด-ปิด และสตาร์ตรถยนต์ รวมถึงการส่งกุญแจดิจิตอลให้กับผู้อื่นเพื่อใช้งานรถยนต์ผ่านแอพพลิเคชั่น i-SMART Smart Command หรือระบบสั่งการอัจฉริยะ

อันประกอบไปด้วยกุญแจดิจิตอล ระบบสั่งการผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทย ควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ตโฟนค้นหาข้อมูลจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ

ตรวจเช็กตัวรถหลากหลายรูปแบบ ตรวจสอบสถานะของประตูรถ ตรวจสอบตำแหน่งของรถ กำหนดให้รถเปิดไฟหน้า ไฟท้าย หรือใช้เสียงแตรผ่านการตั้งค่า

ตรวจสอบความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทำงานของรถ เช่น เครื่องยนต์ ลมยาง และถุงลมนิรภัย ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ

ระบบแจ้งเตือนเมื่อความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบการทำงาน หรืออุปกรณ์ของรถ

กำหนดขอบเขตการใช้รถได้ตั้งแต่ 500 เมตร ถึง 10 กิโลเมตร โดยระบบจะแจ้งเตือนเมื่อรถเข้า-ออกในขอบเขตที่กำหนดไว้

ส่วนระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ เล่นเพลงทั้งรูปแบบออนไลน์ และสตรีมมิ่ง ค้นหาร้านอาหาร ที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวบนแผนที่นำทาง

รายงานการจราจรแบบ Real Time เรียกดูข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน และข้อมูลพยากรณ์สภาพอากาศ ฯลฯ

หากนั่งอยู่ในรถสามารถใช้เสียงภาษาไทยควบคุมระบบต่างๆ ได้เหมือนเดิม

“เอ็มจี 5” มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น รุ่น C รุ่น D และรุ่น X

ส่วนราคาจำหน่ายช่วงที่เขียนต้นฉบับยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ (เปิดตัวและราคาอย่างเป็นทางการ 20 กรกฎาคม 2564)

แต่หากดูจากที่เอ็มจีประกาศลงมาแข่งกลุ่มอีโคคาร์ ราคาไม่น่าจะห่างจากเจ้าตลาดเท่าใดนัก