คาร์ม็อบขับ-ไล่ประยุทธ์ กดดัน ภท.-ปชป.ถอนตัว จับตาเยาวชนปลดแอก และคำทำนาย ‘โทนี่ วู้ดซัม’/บทความในประเทศ

บทความในประเทศ

 

คาร์ม็อบขับ-ไล่ประยุทธ์

กดดัน ภท.-ปชป.ถอนตัว

จับตาเยาวชนปลดแอก

และคำทำนาย ‘โทนี่ วู้ดซัม’

 

ต้องยอมรับ “คาร์ม็อบ สมบัติ (ทัวร์)” ภายใต้การนำของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด นักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นการเคลื่อนไหวรูปแบบใหม่ มีสีสันคึกคักอย่างยิ่ง

เป็นการเคลื่อนไหวอันมีจุดมุ่งหมายเดียวกับกลุ่มไทยไม่ทน กลุ่มประชาชนคนไทย ตลอดจนกลุ่มราษฎร กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และเยาวชนปลดแอก

คือการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และองคาพยพ ให้พ้นจากวงจรอำนาจ พ้นไปจากทำเนียบรัฐบาล

ด้วยจังหวะการเคลื่อนไหวสอดรับอารมณ์ของประชาชนในสังคม ที่กำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤตโรคระบาดโควิด ที่ยืดเยื้อยาวนานนับปี อันสะท้อนถึงการบริหารงานอันล้มเหลวของรัฐบาลในทุกด้าน

การสอดรับนี้จึงเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ “คาร์ม็อบ” มีพลัง

คาร์ม็อบเลือกใช้ยุทธวิธีพุ่งเป้าไปยังพรรคการเมืองซีกรัฐบาล ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย

หรือกระทั่งพรรคพลังประชารัฐของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็ยังเป็นเป้าหมาย

คาร์ม็อบเลือกเคลื่อนขบวนเขย่า 3 พรรครัฐบาลอันเปรียบเสมือนเสาค้ำบัลลังก์อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

รถแต่ละคันบรรทุกปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์โควิด สถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำจนกระทบถึงปากท้องและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ส่งตรงถึงนักการเมือง พรรคการเมืองซีกรัฐบาล

น่าสนใจว่าพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาล มีปฏิกิริยาต่อคาร์ม็อบ ที่เสมือนเป็นกระจกสะท้อนเสียงเรียกร้องความต้องการของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารงานที่ผิดพลาดล้มเหลวของ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลอย่างไร

เพิกเฉย หรือตอบสนอง

คำตอบย่อมสะเทือนไปถึงการเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นในระยะเวลาไม่ใกล้ไม่ไกลจากนี้

หากเป็นอย่างที่ “โทนี่ วู้ดซัม” ประเมินก็คือ การยุบสภาน่าจะเกิดในราวปลายปี 2564 ดังนั้น การเลือกตั้งจึงน่าจะอยู่ในห้วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565

การเคลื่อนไหวของคาร์ม็อบ จึงเป็นการวัดใจพรรคร่วมรัฐบาล ว่ายังจะไปต่อกับ พล.อ.ประยุทธ์

หรือจะพอแค่นี้ แยกย้ายตัวใครตัวมัน

 

กิจกรรม “กดแตรไล่ประยุทธ์” ถือเป็นยุทธวิธีการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่แก้โจทย์สถานการณ์การระบาดของโควิดได้อย่างดี

เพราะเป็นการ “ขับรถ” แทนการระดม “คน” มาชุมนุม

ไม่เน้นการเผชิญหน้าแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน แต่เน้นสีสัน ความตื่นตา ลดความตึงเครียด

ตรงนี้เองคือเคล็ดไม่ลับอย่างหนึ่งที่ส่งผลให้กิจกรรม “กดแตรไล่ประยุทธ์” เมื่อวันเสาร์ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีคนกล้าแสดงตัวขับรถเข้ามาร่วมเป็น “คาร์ม็อบ” มากขึ้น

นอกจากประชาชนทั่วไปยังมีแกนนำราษฎร กลุ่มไทยไม่ทน และกลุ่มประชาชนคนไทย มาร่วมสมทบ

“มีประชาชนออกมาเยอะมาก ขณะที่การชุมนุมคาร์ม็อบแบบนี้ ที่ต่างคนต่างมาด้วยรถของตนเอง ก็ทำให้คนรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น” นายอานนท์ นำภา แกนนำราษฎร ระบุ

คาร์ม็อบ นัดตั้งขบวนบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รถเก๋ง รถปิกอัพ รถจักรยานยนต์นับร้อยคันต่างพร้อมใจกันผูกโบขาวเป็นสัญลักษณ์แสดงความบริสุทธิ์ใจในการเคลื่อนไหวเรียกร้องต่อรัฐบาล

โดยมีบรรดาพริตตี้มาร่วมสร้างสีสันความตื่นตาตื่นใจ ยืนถือป้ายข้อความสะท้อนความในใจของประชาชน

จากนั้นได้ขับตระเวนไปยัง 4 พรรคการเมือง กดแตรไล่ พล.อ.ประยุทธ์ และยื่นหนังสือพิจารณาทบทวนท่าทีการอยู่ร่วมรัฐบาล

จุดหมายแรกคือพรรคประชาธิปัตย์

ประชาธิปัตย์ถูกเลือกเป็นเป้าหมายแรกเพราะเป็นพรรคต้นเหตุและต้นตอทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี

มีการชูป้าย “เลิกพายเรือให้ลุงนั่ง” เรียกร้องให้ถอนตัวจากรัฐบาล บางคนนำนกหวีดมาเป่า บางส่วนทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์นำหุ่นศพราดด้วยสีแดง ตะโกนคำว่า “พรรคการเมืองเปื้อนเลือด” โดยตำรวจวางแนวรั้วเหล็กและตรึงกำลังหน้าพรรค

จากนั้น คาร์ม็อบเคลื่อนขบวนต่อไปยังพรรคภูมิใจไทย พรรคอันดับสองของรัฐบาล

บ.ก.ลายจุด อ่านจดหมายเปิดผนึก เรียกร้องให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ยื่นหนังสือข้อเรียกร้อง และชูป้ายที่มีข้อความ “ภูมิไม่ขึ้น”

ขณะที่ผู้ชุมนุมบางคนฉีดสีแดงใส่ป้ายชื่อพรรค ก่อนกล่าวประโยคยาวๆ พร้อมกัน 3 ครั้ง

“โควิดกระจอกงอกง่อย หรือหัวหน้าพรรคกระจอกงอกง่อย”

 

เป้าหมายที่ 3 คาร์ม็อบพุ่งชนไปยังพรรคแกนนำอย่างพลังประชารัฐ

กิจกรรมจุดนี้แตกต่างจากพรรคอื่น ไม่มีการมอบหนังสือเรียกร้องให้ถอนตัวจากรัฐบาล แต่มีการ “โรยแป้ง”

บ.ก.ลายจุด ถือป้าย “พปชร = แป้ง” พร้อมแป้งมัน 2 ถุง แสดงสัญลักษณ์ว่าพลังประชารัฐเป็นพรรคแกนนำที่มีข้อครหาต่อประชาคมโลก เพื่อให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคพิจารณาตัวเอง

ก่อนนำแป้ง 1 ถุงมอบให้ตัวแทนพรรค อีก 1 ถุงใช้โรยหน้าพรรค

มวลชนกลุ่มหนึ่งโรยแป้งและปาแป้งเข้าไปในพื้นที่พรรคจนฟุ้งตลบทั่วบริเวณ พร้อมเปล่งเสียงตะโกนว่า “พรรคพลังประชารัฐ ภาษีประชาชน มันคือแป้ง” ตามด้วยเสียงขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล

หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมหน้าพรรคพลังประชารัฐ

บ.ก.ลายจุด นำมวลชนเดินทางผ่านพรรครวมพลังประชาชาติไทย เคลื่อนต่อไปยังแยกราชประสงค์ ฝั่งศูนย์การเซ็นทรัลเวิลด์ ด้านถนนราชดำริ

จากนั้นกลุ่มผู้ร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกันกดแตรรถยนต์เสียงดัง นานประมาณ 10 นาที จึงยุติกิจกรรม แยกย้ายกันเดินทางกลับโดยไม่มีเหตุวุ่นวายใดๆ

บ.ก.ลายจุด ขึ้นรถแห่ปราศรัยปิดท้ายว่าจะให้เวลา พล.อ.ประยุทธ์ 14 วัน เพื่อทบทวนและยอมรับว่าไร้ความสามารถในการเป็นผู้นำประเทศ และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประเทศเข้าสู่หายนะครั้งใหญ่

หวังว่าประชาชนจะมีข่าวดี ไม่ใช่แค่ประกาศงดรับเงินเดือน 3 เดือน

ระหว่าง 14 วันแห่งการรอคอย ขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันแขวนป้ายข้อความ “ประยุทธ์ออกไป” ไว้ที่หน้าบ้าน หรือท้ายรถ

“ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม หลังครบ 14 วันหาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่ลาออก พวกเราจะออกมาขับไล่อีกครั้ง ด้วยการยกระดับชุมนุมคาร์ม็อบไปทั่วประเทศ”

หลังการเคลื่อนไหวของคาร์ม็อบ

ฝ่ายตำรวจก็ออกมาเช็กบิลทันที ประกาศเอาผิดผู้เข้าร่วมกิจกรรม

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.แถลงว่า การชุมนุมวันที่ 9-11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งกลุ่มคาร์ม็อบ กลุ่มประชาชนคนไทยและกลุ่มไทยไม่ทน

เป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด พ.ร.บ.จราจรทางบก และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง เบื้องต้นพิจารณาแล้วมีผู้เข้าข่ายกระทำความผิด

ถูกดำเนินคดีทั้งสิ้น 70 ราย

 

นอกจากม็อบการเมืองที่ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ยังมีประชาชนอีกหลากหลายกลุ่มที่ออกมา โดยเฉพาะม็อบปากท้อง หรือที่โทนี่ วู้ดซัม เรียกว่า ม็อบคนไม่มีจะกิน คือผู้ได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล

ไม่ว่ากลุ่มคนธุรกิจบันเทิง กลุ่มนักดนตรี กลุ่มผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืน ศิลปินนักร้องดัง เครือข่ายธุรกิจร้านอาหาร ฯลฯ ที่เรียกร้องให้รัฐบาลผ่อนปรนและเยียวยากลุ่มผู้ประกอบอาชีพเหล่านี้ เนื่องจากมาตรการที่ออกมาเสมือนเป็นการฆ่าผู้ประกอบการทางอ้อม

ยังมีกลุ่มปฏิวัติการศึกษาไทยที่ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “เรียนออนไลน์ (จะ) ตายอยู่แล้ว” เพื่อสะท้อนว่าการศึกษาไทยทำให้นักเรียนลำบาก กระทรวงศึกษาธิการควรหาวิธีลดภาระให้เด็กและผู้ปกครอง

โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำในการเรียนออนไลน์ และผู้ปกครองที่ต้องแบกรับค่าเทอมทั้งที่ลูกหลานได้รับการศึกษาไม่เต็มรูปแบบ

และที่ต้องน่าจับตา กลุ่มเยาวชนปลดแอก นัดชุมนุมใหญ่วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคมนี้ ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

18 กรกฎาคม ถือเป็นวาระครบรอบ 1 ปีการออกมาชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จุดเริ่มต้นของกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่ออกมาแสดงพลังครั้งใหญ่ การชุมนุมครั้งนี้ จึงต้องจับตาเป็นพิเศษ

วันเดียวกับคาร์ม็อบ ที่ครั้งนี้ไปปลุกกระแสตั้งขบวนกันที่ จ.เชียงใหม่

ม็อบการเมือง ผสมผสานม็อบโควิด ทั้งหมดจะสร้างความสั่นสะเทือนให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาล ได้มากน้อยแค่ไหน

จะเป็นอย่างที่ “โทนี่ วู้ดซัม” วิเคราะห์คาดการณ์ไว้ในคลับเฮาส์ เมื่อวันอังคารที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมาหรือไม่

สถานการณ์เข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ห้ามกะพริบตาเด็ดขาด