Aloha ‘Oe เพลงแห่งการ่ำลา ที่ขับขานมายาวนานกว่า 1 ศตวรรษ

อัษฎา อาทรไผท

ถ้าถามคนฮาวายว่าเพลงฮาวายเพลงไหนคือเพลงที่โด่งดังที่สุด แน่นอนว่า ทุกคนต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นเพลงนี้ เพราะเพลง Aloha ‘Oe คือ เพลงที่แม้เขียนขึ้นมาเมื่อ 143 ปีที่แล้ว ( ซึ่ง ณ ปีนั้น เมืองไทยอยู่ในสมัย รัชกาลที่ 5 ) นับเป็นบทเพลงสุดโบราณ แต่มันยังคงถูกขับร้องและบรรเลงอยู่ จนถึงปัจจุบัน หลากหลายเวอร์ชั่น สามารถได้ยินได้ตั้งแต่ตามงานรวมญาติ เล็กๆ ไปจนถึงในอนิเมชั่นบวมๆ อย่าง SpongeBobSquarePants หรือแม้ กระทั่งซาวด์แทรคภาพยนต์ซอมบี้สุดโหดอย่าง Train to Busan ก็ยังนำ เพลงนี้ไปใช้ประกอบ

ตำนานความคลาสสิคของเพลงนี้ กำเนิดจากเมื่อพระราชินี ลิลิอูโอคาลานี ของฮาวาย ซึ่งสมัยนั้นยังเป็นเจ้าหญิงอยู่ ได้ทรงม้าข้ามเกาะโออาฮู ไปเยือน ฟาร์มปสุสัตว์ของนายทหารฝรั่งท่านหนึ่ง เมื่อจะเดินทางกลับพระองค์ทรง ทอดพระเนตรเห็นนายทหารท่านนั้น กำลังร่ำลาสตรีนางหนึ่งอย่างอาลัย อาวรณ์

ภาพจำนั้นได้สร้างแรงบัลดาลใจให้พระองค์ทรงฮัมเมโลดี้ออกมา ตลอดทาง ขณะทรงม้ากลับ ในบันทึกได้เล่าว่าเมื่อมาหยุดพักระหว่างทางที่ไร่ส้มแห่ง หนึ่ง คณะติดตามได้ยินเมโลดี้จนฮัมตามกันได้หมดแล้ว และเมื่อท่านเสด็จ กลับไปยังพระราชวังก็ได้เขียนเนื้อจนจบออกมาเป็นเพลง Aloha ‘Oe นี้ โดย มีเนื้อหาเกี่ยวกับการลาจาก และความโหยหาถึงวันที่จะได้พบกันใหม่อีกครั้ง หนึ่ง

ภายหลังจากนั้นไม่นานมาก พระราชาคาลาเคาอะพระเชษฐาได้เสด็จ สวรรคต เจ้าหญิงลิลิอูโอคาลานีได้ขึ้นครองราชต่อ แต่แค่ไม่นานนัก สหรัฐอเมริกาก็ได้เข้ายึดครองฮาวายสำเร็จ ลิลิอูโอคาลานีถูกจองจำในวังอยู่ ระยะหนึ่ง และต่อมาก็มีอันต้องย้ายออกจากอาวาย ไปอาศัยอยู่ที่อเมริกา แผ่นดินใหญ่ ทำให้อารมณ์ของเพลงนี้ที่ท่านทรงนิพนธ์ขึ้นมา กลายเป็นเพลง แห่งการร่ำลาอย่างแท้จริงของชาวฮาวาย แต่มันไม่ใช่แค่การจากลาของชาย หญิงคู่หนึ่งอีกต่อไป มันกลายเป็นเพลงที่ใช้ระลึกถึงการลาจากความเป็น ประเทศของฮาวาย และการจากลาของพระราชินีองค์สุดท้ายของปวงชนชาว ฮาวายด้วย

หลังจากอเมริกาได้ครอบครองฮาวาย ก็มีการจัดงาน Panama Exposition ขึ้นที่ซานฟรานซิสโก ในงานนี้บรรดาชาติต่างๆ จะนำประเพณีและของดีของ ตนมาแสดงกัน ฮาวายเมืองขึ้นใหม่ล่าสุดของอเมริกาก็เช่นกัน ได้มีการจัด แสดงศิลปะวัฒนะธรรมของเกาะสววรค์อันงดงามและน่าค้นหาแห่งนี้อย่างยิ่ง ใหญ่ เนื่องจากการครอบครองฮาวายกำลังเป็นสิ่งที่ชาวอเมริกันกำลังเห่อกัน เป็นอย่างมาก

วงดนตรีที่นำมาจากฮาวาย Royal Hawaiian Band ได้นำเพลง Aloha ‘Oe มาบรรเลงในงานนี้ด้วย เสียงเพลงจากอูคูเลเล่ และ กีตาร์ฮาวาย ถือเป็นของ ใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจในสมัยนั้น พาให้ผู้ที่ได้ยินหลงไหลและประทับใจ จน ทำให้เมื่อใดก็ตามที่ได้ยินเสียงเพลงนี้ ภาพของบรรยากาศทะเล เกลียวคลื่น สาวฮูล่า และภูเขาไฟ ของฮาวาย จะลอยอยู่ในภวังค์ของคนอเมริกัน ที่ หลับตาฝันหวานก็หอมกลิ่นไอแดดของฮาวายได้ โดยไม่ต้องดั้นด้นเดินทาง ข้ามมหาสมุทรไป

มนต์สเน่ห์ของ Aloha ‘Oe ยังคงสืบสานต่อมาจนปัจจุบัน โดยเราจะได้ยิน เพลงนี้โผล่มาในสื่อยอดนิยมต่างๆ โดยเฉพาะในภาพยนต์ อนิเมชั่นชั้นนำ มาอย่างต่อเนื่องหลากหลายเวอร์ชั่น ทั้งแบบช้าดั้งเดิม ได้ยินแล้วพาให้โหย หาใครสักคน ทั้งแบบเร็วจี๋ที่ฟังสนุกจนไม่อาจคิดว่านี่คือเพลงแห่งการร่ำรา ได้

ส่วนที่ฮาวายเอง ทุกครั้งที่มีงานอะไรก็ตามที่คนมารวมตัวกันมากๆ เมื่องาน จบ ก่อนปิดงานทุกคนจะจับมือไขว้แขน และร่วมร้องเพลง Aloha ‘Oe เป็น เพลงอำลาที่ปฏิบัติกันจนเป็นกิจวัตร เหมือนที่คนไทยร้องเพลงสามัคคีชุมนุม กัน

หากคุณสนใจฟังเพลงนี้ สามารถหาฟังได้มากมายในสตรีมมิ่งต่างๆ ลำพัง ใน Apple Music ผมค้นพบราวๆ 50 เวอร์ชั่น ทั้งบรรเลงและขับร้อง จาก หลากหลายศิลปิน หลายแนวดนตรี นับเป็นเพลงที่เมื่อลองฟังหลายๆ แบบ ตามแต่ละศิลปินจะนำเสนอ ตามห้วงเวลาของศิลปินนั้นๆ ก็ทำให้รู้สึกว่า บทเพลงแห่งการลาจากนี้ เป็นการร่ำลาที่ไม่น่าจะมีวันจบสิ้น เพราะมันยังคง

ถูกเรียบเรียงใหม่อยู่เรื่อยๆ ให้คนรุ่นต่อไป ได้สืบสานบทเพลงจากพระราชินี องค์สุดท้ายของฮาวาย ไปตราบนานเท่านาน