ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10 - 16 มิถุนายน 2559 |
---|---|
คอลัมน์ | ภาพยนตร์ |
ผู้เขียน | นพมาส แววหงส์ |
เผยแพร่ |
กํากับการแสดงโดย โจดี้ ฟอสเตอร์ ผู้คลุกคลีอยู่ในวงการภาพยนตร์มาตั้งแต่ยังเด็ก ในฐานะนักแสดงเด็ก จวบจนได้รับรางวัลสูงสุดของการแสดง จากเรื่อง The Accused และหลังๆ นี้หันมาอยู่หลังกล้องในฐานะผู้กำกับ ซึ่งโจดี้ก็ให้สัมภาษณ์ว่าฝันจะได้รางวัลอคาเดมีอวอร์ดอีกสักตัวจากการเป็นผู้กำกับหนัง
Money Monster เป็นผลการกำกับเรื่องที่เจ็ดของเธอ และน่าจะเป็นหนังใหญ่เต็มรูปแบบหลังจากกำกับหนังทีวีเป็นตอนๆ หลายเรื่อง ถ้าไม่นับ Little Man Tate ที่เธอร่วมแสดงด้วย
มาถึง Money Monster บทหลักของผู้หญิงในเรื่อง เธอยกให้ดารานำคนอื่นไป คือ จูเลีย โรเบิร์ตส์ แล้วยังใช้ดาราใหญ่มากฝีมืออีกคน คือ จอร์จ คลูนีย์
รวมทั้งดึงเอานักแสดงหนุ่มอังกฤษฝีมือดีที่เคยเป็นตัวนำในเรื่อง Unbroken ของ แอนเจลีนา โจลี มาเล่นในบทสำคัญของเรื่องอีกด้วย
Money Monster จัดอยู่ในหนังตื่นเต้นเร้าใจประเภท “ธริลเลอร์” ซึ่งเลือกใช้เนื้อหาโจมตีตลาดการเงินอันผันผวนสุดโต่งในปัจจุบัน เนื่องจากตั้งอยู่บนความโลภและการทำกำไรระยะสั้นในชั่วข้ามคืน
ลี เกตส์ (จอร์จ คลูนีย์) เป็นพิธีกรรายการด้านเศรษฐกิจการเงินที่ใช้สื่ออย่างหวือหวา ตื่นตา ให้ความบันเทิงฟู่ฟ่า และเรียกร้องความสนใจจากคนดู อย่างที่เราจะหาดูได้ในสื่ออเมริกันสมัยนี้
รายการที่มีชื่อว่า “อสูรการเงิน” ของเขานี้ ออกอากาศสดเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ทางการเงินที่ต้องการการรายงานข่าวแบบ “เรียลไทม์” และมีโปรดิวเซอร์เป็นหญิงสามารถชื่อ แพตตี้ เฟนน์ (จูเลีย โรเบิร์ตส์)
แพตตี้กำลังคิดจะสละเรือ นั่นคือย้ายงานไปทำที่อื่น เนื่องจากเบื่อหน่ายการทำงานกับพิธีกรที่ชอบออกนอกบทอยู่เป็นประจำ โดยที่ตัวโปรดิวเซอร์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ดังนั้น เมื่อกล้องแพนไปเห็นผู้ชายน่าสงสัย ซึ่งดูท่าว่าจะเป็นคนส่งของ มาลับๆ ล่อๆ อยู่หลังเวที ปฏิกิริยาแรกที่แวบเข้ามาในหัวแพตตี้คือ นี่คือหนึ่งในมุขสดๆ ของลีแอบจัดการลับหลังเธอ และไม่ได้บอกให้เธอรู้ล่วงหน้า
แต่การณ์ปรากฏว่า หนุ่มส่งของคนนี้บุกเข้ามาในฉากระหว่างออกอากาศ พร้อมด้วยควักปืนออกมาขู่และจับตัวพิธีกรไว้เป็นตัวประกัน รวมทั้งบังคับให้ลีสวมเสื้อกั๊กบรรจุระเบิด ซึ่งเขาขู่จะกดปุ่มระเบิดเมื่อไรก็ได้
ข้อเรียกร้องของมือระเบิดจับตัวประกันคนนี้คือ ขอคำอธิบายสำหรับหุ้นไอบิส (คลับคล้ายคลับคลาว่าหุ้นตัวนี้มีซื้อขายอยู่ในตลาดการเงินจริงๆ ด้วยนะคะ) ที่ตกร่วงดิ่งลงเหวเมื่อวันวาน และบริษัทออกแถลงการณ์เพียงว่า เกิด “ข้อผิดพลาดของคอมพิวเตอร์” ทำให้ประมวลผลผิดพลาด
คำว่า glitch ถูกนำมาใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งไม่บอกอะไรเลยต่อผู้รับสารและคนเล่นหุ้นทั้งหลาย
มือระเบิด ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบรู้ว่าชื่อ ไคล์ บัดเวลล์ (แจ็ค โอคอนเนลล์) เรียกร้องให้ ลี เกตส์ รับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ เนื่องจากไม่นานก่อนหน้านั้น รายการ “อสูรการเงิน” ของลี รายงานเรื่องหุ้นมหัศจรรย์ตัวนี้ และแนะนำให้ผู้บริโภคซื้อไว้
มูลค่าหุ้นตัวนี้ร่วงลงฮวบ ขาดทุนชั่วข้ามวันถึงแปดร้อยล้านดอลลาร์
และไคล์สูญเงินเก็บทั้งชีวิตของเขา ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากแม่ที่เสียชีวิตไป รวมหกหมื่นเหรียญ โดยไม่มีคำอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นกับหุ้นตัวนี้
เมื่อรู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะเงินหกหมื่นเหรียญ ลี เกตส์ ก็เสนอจะแก้ปัญหาโดยชดเชยให้แก่ไคล์ทันที แต่ไคล์ก็ยังไม่พอใจ เพราะนั่นไม่ช่วยให้เขาเข้าใจอะไรได้กับเงินแปดร้อยล้านทั้งหมดที่ขาดหายไป
ไม่เพียงแต่เท่านั้น ลี ผู้มั่นใจในความโด่งดังของตน ยังเสนอจะแก้ปัญหาด้วยการขอให้ผู้บริโภคช่วยชีวิตเขา ด้วยการช่วยกันซื้อหุ้นตัวนี้ เพื่อให้มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น ซึ่งมีแต่จะทำให้เขาหน้าแตก เนื่องจากหุ้นขยับขึ้นเพียงนิดเดียว เพียงเพื่อจะดิ่งลงเหวในเวลาต่อมา แปลว่าเรื่องการเงินไม่เข้าใครออกใคร ทุกคนต้องคิดถึงกระเป๋าของตัวเองไว้ก่อนสิ่งใด
ตํารวจสืบสาวไปจนถึงตัวแฟนสาวของไคล์ที่กำลังตั้งท้องอยู่ และนำตัวมาเพื่อเจรจากับเขาในสถานการณ์ร้อนแรงที่กำลังเกิดอยู่ต่อหน้าสาธารณชนนี้
สถานการณ์ตอนนี้แตกต่างจากสิ่งที่เราเคยเห็นเคยดูในสถานการณ์จับตัวประกันทั่วไป ซึ่งนำแฟนหรือภรรยาของคนร้ายมาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายกลับใจ เหตุการณ์กลับกลายไปอย่างที่ไม่มีใครคาด และต้องบอกว่า แจ็ค โอคอนเนลล์ เล่นฉากนี้ได้น่าสะเทือนใจเหลือเกิน
สถานการณ์จับตัวประกันนี้เราได้เห็นมามากมายหลายครั้งแล้วในหนัง โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจัด “ผู้เจรจาต่อรอง” มาไว้เพื่อซื้อเวลาระหว่างที่หาทางแก้ไขด้วยหนทางอื่นๆ แต่ในหนังเรื่องนี้ “ผู้เจรจา” ไม่มีบทบาทอะไรเลย เพราะไคล์ปฏิเสธไม่ยอมพูดกับใครทั้งนั้น นอกจากผ่านทาง ลี เกตส์ ซึ่งออกอากาศสด และพูดคุยผ่านทางหูฟังกับโปรดิวเซอร์ของเขาเท่านั้น
หน้าที่ของลีคือหาคำตอบจากบริษัทไอบิส เพื่อนำมาชี้แจงแก่คนเล่นหุ้นตัวนี้ให้ได้ และดูเหมือนว่า วอล์ต แคมบี้ (โดมินิค เวสต์) ซีอีโอของบริษัทจะหายตัวไป โดยไม่มีใครตามตัวเจอ แม้แต่คนในบริษัทของเขา
นอกจากนั้น “หนทาง” ที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจวางแผนจะจัดการกับคนร้ายรายนี้ ยังเป็นแผนการที่เหลือเชื่อและเสี่ยงอย่างน่าตกใจเหลือเกิน
นี่เป็นโศกนาฏกรรมอย่างหนึ่งของนักลงทุนรายย่อย ที่ถูกปั่นให้เชื่อในหุ้นในตลาดจนหมดเนื้อหมดตัว เป็นเรื่องเกี่ยวกับความโลภที่ไม่รู้จักพอของมนุษย์ และความผันผวนของโลกการเงินที่เป็นไปได้ด้วยระบบการสื่อสารชั่วพริบตา
หนังแสดงให้เห็นเครือข่ายที่ของผู้คนเกี่ยวข้อง ซึ่งครอบคลุมถึงคนชาติต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นโซล ประเทศเกาหลี ไอซ์แลนด์ หรือคนงานในเหมืองของแอฟริกาใต้
แสดงให้เห็นถึงความเป็นโลกาภิวัตน์ของโลกปัจจุบัน เหตุการณ์ ณ จุดหนึ่ง ย่อมจะโยงกันไปได้ถึงสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก
เป็นหนังที่ทำให้คิดต่อได้นะคะ เสียแต่ว่าหนังเน้นที่ระดับปัญหาของบุคคล มากกว่าในระดับสังคมในวงกว้าง ไม่เหมือนกับหนังดีเมื่อปีที่แล้วเรื่อง The Big Short ซึ่งมีน้ำหนักจากระบบเศรษฐกิจการเงินที่ส่งผลกระทบไปทั่วในระดับกว้าง และ “สร้างจากเรื่องจริง” อีกต่างหาก
เราคงต้องคอยติดตามผลงานการกำกับของ โจดี้ ฟอสเตอร์ ต่อไป
MONEY MONSTER
กับการแสดง
Jodie Fosterนำแสดง
George Clooney
Julia Roberts
Jack O’Connell
Dominic West