ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 9 - 15 กรกฎาคม 2564 |
---|---|
เผยแพร่ |
บทความพิเศษ
จักรกฤษณ์ สิริริน
Start-up ‘ฟักไข่’ สไตล์ญี่ปุ่น
คําว่า “ฟักไข่” นั้น ในความหมายทั่วไปของศัพท์ หากแปลตรงตัวก็คือ Incubation ที่สะท้อนผ่านภาพ “แม่ไก่”
แต่สำหรับวงการ Start-up แล้ว Incubation หมายถึง “การบ่มเพาะธุรกิจ” หรือในความหมายแบบไทยก็คือ “ตั้งไข่”
อุปมาอุปไมยธุรกิจ Start-up ช่วงแรกคล้ายเด็กหัดยืน ที่ต้องมีผู้ใหญ่คอยดูแล พูดอีกแบบก็คือ เป็นระยะเวลาของการ “ตั้งไข่” ธุรกิจนั่นเอง
ช่วงเวลาของการประคบประหงมนี้เอง ที่ Start-up เกิดใหม่ล้วนต้องผ่านขั้นตอนของการ Incubation หรือ “ฟักไข่” แทบทั้งสิ้น
สำหรับ Start-up ในโลกตะวันตก คงต้องเอ่ยถึงสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Silicon Valley ที่เปรียบเสมือน “เมกะของ Start-up”
ธรรมชาติดั้งเดิมของอเมริกา เอื้ออำนวยต่อการเป็น “เมกะของ Start-up” จาก “ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทางวัฒนธรรม” ที่มีมากกว่าใครๆ ในโลก
ต่างจากยุโรป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเอเชีย ที่เต็มไปด้วยปัญหา “ความหลากหลายด้านสังคม” และ “วัฒนธรรม” ที่สูงมาก
ทำให้ Start-up อเมริกัน สามารถมองเป้าหมายระยะยาวใน Growth Stage และมุ่งขยาย Scale ได้รวดเร็วกว่า เหตุผลหลักก็คือ การแทบไม่ต้องปรับตัวเมื่อเข้าสู่ตลาดในประเทศใหม่
ทั้งๆ ที่ Start-up อเมริกันจำนวนมาก ที่แม้จะทำรายได้สูง แต่ก็มี “อัตราล้างผลาญเงิน” หรือ Cash Burning สูงลิบจนแทบจะไม่เห็นกำไรเช่นกัน
ส่วน Start-up ในโลกตะวันออก ก็มี “จีน” และ “อินเดีย” เป็นพี่ใหญ่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อินโดนีเซีย”
ผ มเคยเขียนถึงเรื่องราว Start-up ของ “อินโดนีเซีย” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อินโดนีเซีย” มี Unicorn มากถึง 6 ตัวด้วยกัน
ในบทความ “อินโด” โชว์ Unicorn “ไทย” มีแต่ “ม้าป่วย”
เรียงไล่ไปตั้งแต่ Gojek Traveloka Tokopedia Bukalapak OVO และ JD.id
อย่างไรก็ดี สภาพการณ์ Start-up ของเอเชีย มีปัญหาคล้ายคลึงกับยุโรป เกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้ Start-up ในโลกตะวันออกเติบโตช้าเมื่อเทียบกับอเมริกา
นั่นก็คือ ปัญหา “ความหลากหลายด้านสังคม” และ “วัฒนธรรม” ที่สูงมาก ดังที่กล่าวไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จุดอ่อนในแง่ของความขาดแคลนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีแบบจริงๆ จังๆ
ยังไม่ต้องพูดถึงความเปราะบางทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “จีน” ในกรณี Ant Group ของ “แจ๊ก หม่า” ซึ่งกำลังถูกจัดหนักจากรัฐบาล
ส่งผลให้หลายประเทศต้องหันกลับมาสร้าง Incubation Center หรือ “ห้องฟักไข่” ซึ่งหมายถึง “โรงบ่มเพาะธุรกิจ Start-up” เพื่อระดมผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้
เพื่อรองรับกับกระแสการลงทุน ที่เริ่มจะหันเหทิศทางมายังเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังวิกฤต COVID-19 ในอนาคตข้างหน้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นชาติที่คนทั่วไปมองว่า น่าจะเป็นประเทศที่มี Start-up มาก หากพิจารณาจากศักยภาพของ “คนญี่ปุ่น”
กระทั่ง “ญี่ปุ่น” คงจะมี Unicorn มากมายไม่แพ้ชาติใดในโลก
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว “ญี่ปุ่น” กลับมี Unicorn ไม่มากนัก
ที่มาที่ไปก็คือ ไม่เฉพาะ “ญี่ปุ่น” แต่อุปสรรคเฉพาะตัวของ Start-up ฝั่งเอเชีย ก็คือประเด็นข้อกฎหมาย ที่ไม่ค่อยเอื้อให้ผู้ประการรุ่นใหม่ ที่เติบโตมาพร้อมกับแนวคิดใหม่ๆ ได้ลงหลักปักฐาน-สร้างเนื้อสร้างตัว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนรุ่นใหม่ต้องใช้เวลาที่ยาวนานมากในการ “สร้างเครดิต” ให้ผู้ใหญ่ยอมรับ
“ญี่ปุ่น” จึงเป็นชาติแรกที่พยายามแหวกวงล้อมข้อจำกัดเก่าๆ ด้วยการปูพรมนโยบาย Japan 5.0
ทลายกับดัก กำแพง กฎเกณฑ์เก่าๆ ที่ขัดขวางการหยั่งรากเติบโตของนักธุรกิจรุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Start-up ที่ต้องใช้เวลาอย่างเนิ่นนานในการสร้างความยอมรับจากภาครัฐ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจการเงินสมัยใหม่ที่ดูเหมือนว่า โลกการเงินทุกวันนี้ก้าวไกลไปมากแล้ว
ตัวอย่างสำคัญก็คือ การเกิดขึ้นของ UTokyo IPC
U Tokyo IPC ย่อมาจาก UTokyo Innovation Platform Center หรือ “ศูนย์บ่มเพาะและกิจการร่วมทุนของมหาวิทยาลัยโตเกียว” แน่นอนว่า UTokyo ย่อมาจาก University of Tokyo
UTokyo IPC เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2016 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุง Tokyo ประเทศญี่ปุ่น
โดย “ศูนย์บ่มเพาะและกิจการร่วมทุนของมหาวิทยาลัยโตเกียว” หรือ Start-up “ฟักไข่” สไตล์ญี่ปุ่นแห่งนี้ มิได้จำกัดการให้บริการเฉพาะนักศึกษา ศิษย์เก่า และคณาจารย์ของมหาวิทยาลัย Tokyo เท่านั้น
หากแต่ยังเปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไปอีกด้วย และน่าจะเป็นเป้าหมายหลักของ UTokyo IPC ด้วยซ้ำ
โดย UTokyo IPC จะมีหน้าที่รับผิดชอบในการแสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุนในฐานะบริษัทเงินทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภารกิจการนำผลการวิจัยและผลงานทางวิชาการของมหาวิทยาลัย Tokyo กลับคืนสู่สังคม
โดยทางมหาวิทยาลัย Tokyo มีเป้าหมายที่จะมีส่วนร่วมในการบรรลุเป้าหมาย ESG (Environmental, Social and Corporate Governance) หรือการคำนึงถึง “สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล”
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง SDGs (Sustainable Development Goals) หรือ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน”
ดังปณิธาน การเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมวิชาการที่มีคุณธรรมนำหน้า!
ดังจุดประสงค์ของมหาวิทยาลัย Tokyo คือการสร้างฐานที่มั่นระดับโลกสำหรับการสร้างความรู้ร่วมกันที่เอื้อต่อสังคมในอนาคตของมวลมนุษยชาติ
ตลอดจนการมีบทบาทอย่างแข็งขันในการเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เน้นความรู้อย่างเข้มข้น
ด้วยการจัดตั้งบริษัท UTokyo Innovation Platform Co., Ltd. ขึ้น ซึ่งเป็นธุรกิจของมหาวิทยาลัยโตเกียว หรือ UTokyo IPC ดังกล่าวนั่นเอง
ซึ่ งที่ผ่านมา UTokyo IPC ได้จัดทำแนวคิดการลงทุนเพื่อพัฒนากิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ นำไปสู่การเป็นองค์กรที่ชุมชนสามารถไว้วางใจได้ดังต่อไปนี้
- ระดมทุนเพื่อวัตถุประสงค์ในการบ่มเพาะและให้ความรู้แก่บริษัทร่วมทุน ระดมทุนร่วมทุนเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการลงทุน หรือการระดมทุนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างธุรกิจใหม่โดยร่วมมือกับบริษัท สถาบันวิจัย และองค์กรอื่นๆ โดย UTokyo IPC วางแผนที่จะตอบแทนสังคมด้วยการจัดหาเทคโนโลยีที่สร้างขึ้นโดย UTokyo IPC ผลการวิจัย และผลประโยชน์อื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน
- มีส่วนร่วมเพื่อความยั่งยืนทางสังคมผ่านการส่งเสริมธุรกิจการลงทุนที่คำนึงถึง “สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล” (ESG) สำหรับบริการสาธารณะทั่วโลกที่ UTokyo IPC จัดหาให้หรือในฐานะที่มีความรับผิดชอบในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีส่วนร่วมในการบรรลุ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” (SDGs) ที่รับรองโดย “สหประชาชาติ”
- ดำเนินการลงทุน และรับประกันผลกำไรโดยรวมที่เหมาะสมผ่านธุรกิจการลงทุน การมีส่วนร่วมกับนักลงทุน และความต่อเนื่องของธุรกิจการจัดหาเงินทุน
ภารกิจ “ฟักไข่” ของ UTokyo IPC ก็คือการจัดตั้งหน่วยงานประสานความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย Tokyo กับบริษัทห้างร้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Start-up ของคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาร่วมในฐานะผู้ร่วมทุน
โดยทาง UTokyo IPC จะเน้นไปที่การให้ทุนแก่บริษัทในอุตสาหกรรมด้านการดูแลสุขภาพ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้อง
ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ สนับสนุนนวัตกรรมองค์กร และการลงทุนสำหรับการเริ่มต้นเพื่อเร่งการพัฒนานวัตกรรมผ่านระบบนิเวศทั้งหมดของมหาวิทยาลัย Tokyo และภาคีความร่วมมือทั่วโลก
ภายใต้ปรัชญาการลงทุนในฐานะมหาวิทยาลัยสมัยใหม่ในประเทศแห่งแรกของญี่ปุ่น ที่เพิ่งฉลองครบรอบ 140 ปี
และภายใต้กฎบัตรของ UTokyo IPC ในฐานะสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นการให้บริการสาธารณะทั่วโลก ด้วยจุดมุ่งหมายก้าวเดินต่อไปข้างหน้าในอีก 70 ปีที่กำลังจะมาถึงนั่นเอง